แม่ศรีเรือนอสรพิษคู่เคียงนา

645.0K · จบแล้ว
Lisa
434
บท
347.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ทะลุมิติไปในร่างของนางอ้วนผู้พิษสงร้ายซ้ำยังมีเคราะห์ หมิงจิ่วเหนียงอยากร้องแต่ร้องไม่ออก----ร่างเดิมคิดฆ่าพระสวามีกลับแสวงหาความตายให้ตัวเอง...... เพลาตื่นขึ้นมาพบกับความยากจนค่นแค้น บุตรชายหน้าเหลืองซุบซีด เซียวเท่ฉื้อผู้เป็นสามีเกลียดนางเข้ากระดูกดำ คนอื่นข้ามภพมาก็ชำนาญเรื่องหมอ เรื่องยา เรื่องอาวุธสงคราม ส่วนนางล่ะ......ไม่ชำนาญอะไรสักอย่าง ลุกขึ้นสู้สิ ทำให้ครอบครัวร่ำรวยมีกินมีใช้ ดูแลสามีและลูกตามหน้าที่ เซียวเท่ฉื้อ:เพื่อฝ่าบาท ก็ทนไปหน่อยคราหนึ่งแล้วกัน......แม่หญิงพิษร้ายผู้นี้เอาแต่อยากพิชิตใจอยู่ยองใย ยังไงข้าก็ไม่ยอม......ยอมแล้วยอมแล้ว ข้าจะเป็นผ้าห่มให้นางคนนี้เอง!

นิยายจีนโบราณนิยายย้อนยุคปลูกผักนางเอกเก่ง

บทที่ 1 ทะลุมิติไปเป็นอีอ้วน

“หนังสือหย่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะไปหาคนมาเขียนให้ เจ้าเอาหนังสือหย่าไป แล้วไสหัวไปซะ!”

แผ่นหลังของหมิงจิ่วเหนียงแตะโดนกำแพง ปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาทันที

แม่งเอ๊ย ผู้ชายคนนี้ ทำไมถึงได้แรงเยอะขนาดนี้!

ขณะเดียวกัน ความทรงจำมากมายก็ถาโถมเข้ามาสู่สมอง หมิงจิ่วเหนียงอึ้งอยู่กับที่ไปเลย

นางทะลุมิติมาหรือ? และที่สำคัญสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมโง่เขลาแค่ไหน!

ทั้ง ๆ ที่เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง กลับถูกน้องสาวต่างมารดาหลอก จนตัวเองกินจนกลายเป็นผู้หญิงอ้วนน้ำหนักร้อยกิโล อยากจะปีนขึ้นเตียงองค์รัชทายาท แต่ผลปรากฏว่าปีนขึ้นเตียงองค์รัชทายาทไม่ได้ กลับไปตกหลุมพรางไปขึ้นเตียงของเซียวเถ่ฉื้อคนสนิทขององค์รัชทายาทแทน จากนั้นองค์รัชทายาทก็สิ้นอำนาจ แล้วเซียวเถ่ฉื้อก็ถูกเนรเทศ แล้วก็ไม่ยอมให้หนังสือหย่ากับนาง นางจึงต้องตามมาด้วย

เพื่อให้ได้หนังสือหย่าโดยเร็วแล้วจะได้กลับเมืองหลวง เจ้าของร่างเดิมถึงกับคอยสร้างปัญหาอย่างไม่จบสิ้นในที่หนาวเย็นอย่างภาคเหลียวตงแบบนี้ แถมยังพาลโกรธไปถึงลูกชายแท้ ๆ วัน ๆ เอาแต่ทารุณลูก จนทำให้ลูกชายวัยสามขวบยังพูดไม่ได้จนถึงตอนนี้ แต่เซียวเถ่ฉื้อก็ทำแค่คอยลับมีดตอนกลางคืนในวันที่นางโวยวายเกินเหตุไปเท่านั้น แต่ยังไงก็ไม่ยอมให้หนังสือหย่า

เจ้าของร่างเดิมกลับเมืองหลวงไม่ได้ แถมยังถูกข่มขู่ ดังนั้นตัดสินใจขั้นเด็ดขาด จะบีบคอลูกชายให้ตาย แล้ววางยาพิษเซียวเถ่ฉื้อให้ตายไปด้วย แต่เพิ่งจะบีบคอลูกชาย เซียวเถ่ฉื้อก็มาพบเห็นเข้า ชายหนุ่มก็เลยเหวี่ยงตัวนางไปด้านข้าง แล้วเจ้าของร่างเดิมก็ตายไปแบบนั้นเลย

จากนั้นหมิงจิ่วเหนียงก็ถูกบังคับให้ทะลุมิติมาเลย

หมิงจิ่วเหนียงอยากร้องไห้ก็ไม่มีน้ำตาให้ไหล นางเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินระดับสูงของสตูดิโอดีไซเนอร์สากลแห่งหนึ่งอยู่ดี ๆ และกำลังจะได้พัฒนาไปเป็นหุ้นส่วน รายได้ต่อปีสิบล้านอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่คิดไม่ถึงว่าแค่เผลอหลับไปบนชายหาดตอนไปพักร้อนเพียงครู่เดียว ตื่นมาก็ทะลุมิติมาเป็นอีอ้วนแสนซวยในยุคสมัยที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และต้องมาเผชิญหน้ากับปัญหามากมายที่นางทำเอาไว้อีก

เซียวเถ่ฉื้อไม่อยากมองนางสักนิดเลยด้วยซ้ำ……หากไม่ใช่เพราะลูกชายไม่อยากขาดมารดา ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นกังวลว่าวันหลังถ้าลูกชายเติบโตไปแล้วจะโกรธเขา เขาจะอดทนกับนางมาตลอดได้หรือ?

แต่ตอนนี้ดูแล้ว เขาคิดผิดมหันต์เลย

เขาเข้าประตูมา ก็เห็นนางเกือบจะบีบคอฮัวเอ๋อร์ตายอย่างชัดเจนเลย! ผู้หญิงแบบนี้เก็บเอาไว้ก็ไม่มีทางสำนึกหรอก!

หมิงจิ่วเหนียงเห็นสายตาของเซียวเถ่ฉื้อเด็ดเดี่ยวมาก อุ้มลูกชายไว้แล้วก็ก้าวเดินยาว ๆ ออกจากข้างนอก จึงไม่มีเวลามาสนใจภาพลักษณ์หรือความสุภาพเรียบร้อยแล้ว ขยับเขยื้อนไขมันทั่วร่างไป วิ่งไปกอดเอวเขาเอาไว้ ร้องไห้สะอึกสะอื้นน้ำหูน้ำตาไหล “สวามี สวามีข้าผิดไปแล้ว! ข้าสำนึกผิดแล้วจริง ๆ! ท่านให้อภัยข้าสักครั้งเถอะนะ”

เรื่องล้อเล่นนะซิ เจ้าของร่างเดิมอาจไม่เข้าใจชัดเจน แต่สมองนางนั้นชัดเจนดี!

ถ้าไปจากเซียวเถ่ฉื้อแล้ว นางจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง?

ปู่ของเจ้าของร่างเดิมเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของพรรค์องค์รัชทายาท ถ้ายังสนใจนางจริง ๆ จะปล่อยให้นางถูกคนวางหลุมพรางจนต้องมาแต่งงานกับเซียวเถ่ฉื้อ จากนั้นก็ล้มล้างองค์รัชทายาท ทำให้นางต้องถูกเนรเทศมาที่ภาคเหลียวตงที่กันดารแร้นแค้นแบบนี้ได้หรือ?

ถึงแม้ก่อนถูกเนรเทศเซียวเถ่ฉื้อจะถูกหักแขนขวาไป แต่นางที่เพิ่งมาใหม่ ๆ ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็ต้องกอดที่พึ่งพิงนี้ไว้ให้แน่นซิ

เซียวเถ่ฉื้อจ้องมองก้อนไขมันที่มาเกาะอยู่บนตัวเขาอย่างรังเกียจ โดยเฉพาะตอนที่เห็นนางเอาน้ำหูน้ำตามาเช็ดลงบนร่างกายตัวเอง ลูกชายที่อยู่ในอกจะถูกตัวนางมาเบียดเข้าแล้ว จึงผลักตัวนางออกอย่างไม่เกรงใจ แล้วพูดเสียงเย็นขึ้นว่า “หมิงจิ่วเหนียง เจ้าจะมาไม้ไหนอีกแล้ว! เจ้าอยากได้หนังสือหย่ามาตลอดเลยไม่ใช่หรือ?”

หมิงจิ่วเหนียงแข็งได้ก็อ่อนได้ “สวามี เมื่อก่อนข้าหน้ามืดตามัวไปหมดจึงได้อยากไปจากท่าน ต่อไปนี้ข้าจะฟังท่านทุกอย่าง ท่านให้ข้ายืนข้าจะไม่มีทางนอน ให้ข้าไปล้างจานข้าจะไม่มีทางล้างหม้อ ท่านให้ข้าอยู่ต่อเถอะนะ?”

เซียวเถ่ฉื้อหน้าดำคร่ำเครียด สายตาเคร่งขรึม คิ้วเรียวราวดาบขมวดกันไว้ เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อคำพูดนาง

ในที่สุดหมิงจิ่วเหนียงก็มองใบหน้าเขาอย่างชัดเจน แล้วก็เห็นได้ชัดว่าตรงไรผมเขามีสักคำว่า“นักโทษ”สีเขียวเอาไว้

จุดนั้นไม่ได้ดูสะดุดตา กลับยิ่งทำให้เขาได้เผยออร่าความเป็นชายแกร่งของเขาโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

เซียวฮัวจ้องมองไปที่หมิงจิ่วเหนียง ปากเล็กกัดริมฝีปากเอาไว้ ถึงจะหวาดกลัว แต่ก็ยังลองยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้กับนาง

หมิงจิ่วเหนียงร้องไห้หนักขึ้นไปอีก

……เด็กที่ดีขนาดนี้ ถูกทารุณกรรมขนาดนี้แล้วยังเป็นห่วงมารดาอีก จิตใจของเจ้าของร่างเดิมนี่ถูกหมากินไปแล้วหรือ?

ไม่ นางไม่มีจิตใจให้หมากินด้วยซ้ำ ถ้าหากมี หมาก็คงไม่กินหรอก

เซียวเถ่ฉื้อจ้องมองการกระทำของลูกชาย ทันใดนั้นสีหน้าก็ดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย

หมิงจิ่วเหนียงจ้องมองเขาตาละห้อย

ในขณะนั้นเอง ด้านนอกบ้านก็มีเสียงดังขึ้นมาอย่างไม่เกรงกลัวใคร

“นี่อีอ้วนมันโดนกระทบกระเทือนอะไรมานี่?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ! ไม่รู้ว่ามีแผนการชั่วร้ายอะไรอีกหรือเปล่า คงอยากจะหลอกช่างตีเหล็กกระมั้ง!”

หมิงจิ่วเหนียงโมโหขึ้นมาเลย!

ใครแม่งต่ำช้าได้ขนาดนี้!

มาแอบฟังเรื่องคนอื่นอยู่หน้าบ้านเขาแล้ว ยังมาปากมากขนาดนี้อีก ถ้าเซียวเถ่ฉื้อมาได้ยินเข้า ก็ต้องยิ่งอยากหย่ากับนางแล้วไม่ใช่หรือ?