บทที่ 2 วันพิเศษของสองหนุ่มน้อย
กรุงเทพ
หลังจากที่ลงจากเครื่องบินเจ้าชายราฟาเอล ต้องการพบแม่กระต่ายน้อยของเขาที่สุด ไม่รู้ว่าเธอจะคิดถึงเขาเหมือนที่เขาคิดถึงเธอไหม เธอเป็นคนเดียวที่เขายอมรับในฐานะคนที่เขารักไม่ว่าจะอยู่ในบุคลิกไหน หัวใจเขาก็รักเธอเพียงแต่การแสดงออกมานั้นมันค่อนข้างไม่ตรงกับใจเขาสักเท่าไหร่ ด้วยเขาไม่สามารถทำให้ตัวเองเสียหายได้ เพราะเขาถูกกำหนดไว้เช่นนั้น แต่ตอนนี้เขาเป็นคนกำหนดชีวิตของเขาเองได้แล้ว เลยอยากจะมาหาคนรักของเขา แม้ใครจะว่าอย่างไรตอนนี้เขาไม่สนใจ เขาสนใจแค่ตัวเขาและเธอเท่านั้นตอนนี้ เขารีบมุ่งหน้าไปที่โบสถ์ที่เขาเคยไปกับเธอสมัยเรียนและรู้ว่าเธอต้องอยู่ที่นั้นแน่นอน เพราะที่นั้นเป็นเหมือนบ้านของเธอที่ต้องช่วยพ่อแม่ดูแลโบสถ์ และคอยสอนเท่าที่เธอมีเวลา เพราะเธอรักในพระเจ้าและพระคัมภีร์ที่สุด คนอย่างเธอหาเจอง่ายและคิดว่าเธอคงไม่ย้ายโบสถ์แน่นอน เขามั่นใจ แม้ไม่ได้ให้ลูกน้องสืบเรื่องเธอ เพราะเขาอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอเป็นยังบ้าง ในที่สุดสิ่งที่เขารอคอยมานานก็กำลังจะเกิดขึ้น
"โยเซฟช่วยเตรียมของเยี่ยมพ่อกับแม่ของคนรักของเราหน่อย เราไม่อยากไปหาพวกท่านมอเปล่า"
"ครับ ผมจัดเตรียมไว้แล้วครับ"
"ดีมากสมเป็นเลขาและหสายของเราจริงๆ คิดว่ากระต่ายน้อยของเรา จะทำหน้าแบบไหนเวลาเจอพวกเรานะ"
"คงตกใจและไม่คิดว่าพวกเราจะมาหาเธอในวันนี้ครับ"
"อยากเห็นหน้าตอนตกใจ คงยืนอึงแน่นอนเราว่า"
"ครับ อีกสักพักคงจะถึง รถติดหน่อยต้องขออภัยที่ทำให้ฝ่าบาทอารมณ์ไม่ดี ที่รถติด เพราะย่านนี้รถติดประจำ"
"ไม่เป็นไร เราเข้าใจสถานการร์ดี อย่ากังวลเลย ว่าแต่พวกท่านจะจำเราได้ไหม"
"จำได้แน่ เพราะฝ่าบาทเด่นขนาดนี้ ใครๆก็จำได้ครับ"
"เราไม่อยากทำให้ยางเดือดร้อน เราจะไปแบบเงียบๆกัน"
หลังจากที่ฉลองวันเกิดกั้นเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็พากันเดินมาโบสถ์ซึ่งอยู่หน้าสุดของบ้าน เพื่อประกอบพิธีให้สองหนุ่มที่ครบรอบวันเกิดวันนี้ และเป็นวันทำแคร์และร่วมตัวอธิษฐานกัน ซึ่งวันนี้ทุกคนพร้อมใจกันมารวมตัวที่นี้เพราะพ่อและแม่ของเมย์ขอให้ทุกคนมาร่วมเป็นพยาน ให้หลานชายทั้งสองคนของเขาที่ตัดสินใจรับเชื่อตามปู่ย่าและแม่ของเขาที่คอยสอน และพาเขาอธิษฐานอ่านเรื่องราวสนุกๆในพระคัมภีร์ให้พวกเขาฟังตั้งแต่อยู่ในท้องจนคลอดและพวกเขาไม่เคยบังคับให้เด็กทั้งสองเชื่ออย่างพวกเขา แต่จะให้เด็กๆเลือกเองว่าจะเปิดใจเชื่อพระเจ้าอย่างพวกปู้ย่าและแม่ไหม ซึ่งมันก็แน่อยู่แล้วที่พวกเขาจะต้องรับช่วงต่อความเชื่อ ต่อจากปู่ย่าและแม่เพื่อจะช่วยดูแลโบสถ์แห่งนี้ ที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพวกเขา และทุกคนในโบสถ์ล้วนเป็นลุงป้าน้าอาพี่น้องของพวกเขาที่พวกเขาเคารพรักและจะคอยดูแลให้ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม เหมือนที่ปู่ย่าและแม่ของเขาที่คอยดูแลทุกคนเสมอ เพราะพวกเขารักบรรยากาศความรักที่ปู่ย่าและแม่มอบให้ทุกคนที่มาขอความช่วยเหลือจากพวกเราที่โบสถ์
"ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่มาร่วมกันเป็นพยาน ให้หลานชายของพวกเราในวันนี้ที่พวกเขาอยากเป็นลูกของพระเจ้า และอยากรับเชื่อพร้อมทั้งอยากคอยช่วยดูแลทุกคนเหมือนที่พวกเราช่วยกันดูแลพี่น้องทุกคน เพื่อไม่ให้ทุกคนรอนาน เชิญลูกสาวของพ่อและหลานมาหน้าเวที พวกเราจะอธิษฐานให้ทั้งสองคน โดยให้คุณแม่ของเด็กทั้งสองคนช่วยอยู่ข้างๆและพาพวกเขาอธิษฐานตามพ่อ หลังจากนั้นจะขอให้เด็กทั้งสองคนคิดคำขอไว้ในใจ แล้วพวกเราจะอธิษฐานขอให้มันสำเร็จตามที่คิดไว้"
"คะคุณพ่อ เด็กๆพร้อมไหม มีแม่อยู่ด้วยไม่ต้องกลัวนะ แม่จะช่วยพวกเราอธิษฐานอีกแรง ทำอย่างที่แม่พาพวกเราทำก่อนนอนหรือเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ แม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่ตื่นเต้นไปกว่านี้ ถ้าทำแบบที่แม่เคยบอกไว้"
"ครับแม่ พวกเราแค่ตื่นเต้นเกินไป พวกเราพร้อมแล้วครับคุณปู่คุณย่า"
"ดีมากหลานย่า งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ทุกคนรอฉลองงานวันเกิดและแสดงความดีใจหลานที่ได้เป็นลูกของพระเจ้าเต็มตัวแล้ว "
"ครับ พวกเรามีความสุขที่ทุกคนมีความสุขเหมือนพวกเราครับคุณย่า"
จากนั้นพวกเราก็เริ่มทำพิธีของคริสต์และทุกคนก็รวมใจกันอธิษฐานให้เด็กทั้งสองคน และรวมฉลองวันเกิดของพวกเขาไปพร้อมๆกัน โดยที่ไม่ได้สังเกตว่า มีแขกคนใหม่ที่เป็นแขกคนสำคัญของครอบอาเนียเซียจะโผล่มาเวลานี้ หรือเป็นเพราะคำขอเด็กน้อยทั้งสองด้วยหรือเปล่านะ ที่พวกเขาขอกับพระเจ้าไว้ตั้งแต่ที่พวกเขาจำความได้ว่า อยากเจอพ่อและอยากให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่นเขา เพราะสงสารแม่ที่ต้องเลี้ยงดูพวกเขาตามลำพัง ซึ่งคำขอในใจของพวกเขาก็ยังเป็นเรื่องพ่อของเขา พร้อมทั้งเรื่องงานของแม่และปู่กับย่าด้วย พวกเขาอยากแบ่งเบาภาระของทั้งสามคน พวกเขาจะเป็นเด็กดี เชื่อฟังและจะช่วยงานทุกอย่างเท่าที่พวกเขาทำได้ เพื่อรอยยิ้มของปู่ย่าและแม่ของพวกเขานัันเอง
