บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 เลขาจำเป็น (1)

เอกสารตรงหน้าถูกจัดเรียงแยกประเภทจนเสร็จเรียบร้อย และเธอก็พอจะเดาความวุ่นวายตรงหน้าได้ก็ตอนนี้ คงเพราะเลขาคนเก่าท่านประธานที่ลาออกกะทันหันและทิ้งทุกอย่างไว้แบบนี้

คุณเตยผู้จัดการฝ่ายบุคคลออกจากห้องไปแล้ว เจ้าของห้องก็เดินถือแก้วกาแฟกลับมาที่โต๊ะ ยังทิ้งโน้ตบุ๊กวางไว้อยู่ที่โซฟา

"เป็นไงบ้าง"

"เรียบร้อยแล้วค่ะ"

"พี่หมายถึง เราน่ะเป็นไงบ้าง"

น้ำเสียงเข้มที่เคยนิ่งเรียบไร้อารมณ์ในทุกครั้งที่เจอเขาไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมหรือคำสั่งต่างๆ หรือที่ได้ยินเขาพูดคุยกับพนักงาน ในตอนนี้มันแผ่วเสียงลงดูไร้อำนาจเหมือนเช่นทุกครั้ง เธอถึงเพิ่งเข้าใจว่า เป็นไง ของเขามันหมายถึงเธอ

กิดากรชะงักมือเพียงนิด เงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่คิดว่าจะได้ยินน้ำเสียงทุ้มนุ่มของเขาแบบเดิมอีกครั้ง แม้จะในสถานะที่ต่างจากเดิม แทบจะเรียกว่านี่เป็นการพูดคุยกันครั้งแรกก็ว่าได้

"ค่ะ"

วีร์ถอนหายใจเสียงดัง เอนตัวพิงพนักเก้าอี้จ้องหน้าอีกฝ่ายเมื่อคำตอบมันกว้างจนน่าหงุดหงิดนี่ถ้าเธอตอบแบบนี้เรื่องงานรับรองได้ว่าต้องโดนเขาดุแน่

"โอเค" วีร์ทำเสียงคล้ายเหนื่อยหน่ายใจที่จะคุยกับเธอ ระยะเวลาเจ็ดปีมันไม่ทำให้เธอดีขึ้นสักนิดหรือไง

"ลูกชายไอ้กรณ์เข้าอนุบาลแล้วสิ"

"ค่ะ" เขารู้อยู่แล้ว คงเพราะยังติดตามข่าวสารในโซเชียลกันอยู่ เธอจึงไม่รู้จะตอบอะไรมากกว่านั้น

"แล้วเราล่ะ แต่งงานหรือยัง"

"ยังค่ะ" เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปิดบังเขา

"แล้วแฟนล่ะ" กิดากรสบตาเขาอีกครั้ง

"เรื่องส่วนตัวดิฉันคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับการทำงาน"

วีร์หัวเราะในลำคอกับคำตอบแสนเป็นทางการของเธอ ก็แค่ถามเฉยๆ

"เอกสารชุดไหนที่ยังไม่ได้เซ็น ช่วยใส่แฟ้มเสนอเซ็นมาให้ด้วย"

"ค่ะ"

"เอาไปทำที่โซฟานั่นก็ได้" เมื่อเห็นเธอหันซ้ายหันขวา เจ้าของห้องจึงเอ่ยเป็นเชิงอนุญาต

กิดากรหอบเอกสารกองใหญ่ไปที่โซฟา ก่อนจะออกไปหยิบแฟ้มเสนอเซ็นเดาว่ามันคงอยู่ที่โต๊ะเลขาหน้าห้องเขานั่นแหละ แต่เมื่อเธอออกมาเห็นที่โต๊ะกว้างหน้าห้องก็คิดว่าตรงนี้น่าจะเหมาะกว่านั่งอึดอัดอยู่ในห้องเขา

"เอกสารสำคัญ ความลับของบริษัท" แค่เธอเอ่ยบอกว่าจะขอเอาเอกสารไปนั่งทำด้านนอก เขาก็ตอบเสียงเรียบใส่ทันที

กว่าเอกสารตรงหน้าจะเรียบร้อยก็กินเวลากว่าชั่วโมง จนเมื่อแฟ้มเสนอเซ็นหลายแฟ้มถูกวางบนโต๊ะทำงานท่านประธาน เธอก็แอบก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง มันจวนจะเที่ยงและก็อยากกลับไปที่แผนกของตัวเองเต็มทีแล้ว ไม่อยากกลับไปช้าและลงไปกินข้าวพร้อมเพื่อนไม่ทัน

"ตอนเที่ยงพี่มีนัดลูกค้า เดี๋ยวกี้ออกไปกับพี่แล้วกัน" เพราะสีหน้าไม่เข้าใจของเธอ วีร์จึงต้องอธิบายต่อ "เราต้องไปเก็บข้อมูลที่พี่คุยกับลูกค้า แล้วเวลามาดีลต่อจะได้เข้าใจ"

"ค่ะ"

"งั้นเดี๋ยวเที่ยงสิบนาทีเจอกันที่จอดรถ"

"ค่ะ"

กิดากรกลับมาที่แผนกบัญชีของตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับเสียงถอนหายใจแรง

"โอเคไหมกี้" พี่นกผู้จัดการรีบถามเมื่อเห็นเธอกลับมาถึงห้อง

"ค่ะ แต่เดี๋ยวกี้ต้องออกไปพบลูกค้ากับท่านประธานด้วย"

คำตอบของเธอทำให้คนในแผนกถึงกับตาโต จ้องมองเธอด้วยความอยากรู้เรื่องต่อจากนั้น

"กี้น่าจะต้องอยู่ช่วยที่ฝ่ายบริหารค่ะ ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน"

"อืม คุณเตยเขาบอกพี่แล้วแหละจนกว่าจะหาเลขาคนใหม่ได้น่ะ"

กิดากรมองนาฬิกาอีกครั้ง ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายของตัวเองพร้อมสมุดสำหรับจดโน้ตถือติดมือไปด้วย เมื่อเห็นว่ามันใกล้เวลาที่เธอควรจะต้องลงไปคอยท่านประธานที่ลานจอดรถแล้ว

รถตู้คันหรูที่มาจอดรอตรงทางออกด้านหลังโรงแรม พร้อมคนขับที่ยืนคอยเปิดประตูอยู่ เธอก็เดาได้ว่าน่าจะเป็นรถคันนี้ และเพียงไม่กี่นาทีต่อจากนั้นท่านประธานก็เดินตรงมาถึงรถด้วยเวลาเที่ยงสิบนาทีตรงเป๊ะ

พอท่านประธานขึ้นรถ เธอก็ขยับตัวเตรียมจะเดินไปนั่งที่เบาะด้านหน้าคู่คนขับ

"มานั่งข้างหลัง" คำสั่งเสียงเข้มดังขึ้นก่อนที่เธอจะเปิดประตูเสียอีก ทำให้ต้องเดินอ้อมมาที่ประตูอีกฝั่ง พอเธอขึ้นมานั่งที่เบาะข้างเขา คนขับรถก็จัดการปิดประตูให้อย่างเรียบร้อยก่อนที่จะรีบเดินกลับไปขึ้นรถประจำที่คนขับ

เพราะรถตู้คันหรูเบาะกว้างมีเพียงสองเบาะทำให้เธอนั่งได้อย่างสบาย แต่การต้องนั่งคู่ใกล้กันแบบนี้ก็ชวนให้อึดอัดไม่น้อย แต่คนที่เบาะข้างก็ไม่ได้สนใจเธออีกเขาเพียงมองหน้าจอโทรศัพท์ในมือเท่านั้น

ร้านอาหารริมชายหาดบรรยากาศดีแม้จะอยู่ภายในห้องวีไอพีที่มีความเป็นส่วนตัว แต่ก็สามารถมองเห็นวิวทะเลในเวลากลางวันได้

เธอละสายตาจากวิวท้องทะเลไกลๆ กลับมามองรายการอาหารเล่มใหญ่ที่เปิดค้างไว้ตรงหน้าเพราะไม่รู้จะสั่งอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่เขาก็แล้วกัน

ท่านประธานของเธอเลือกสั่งอาหารไทยประมาณห้าหกอย่างเห็นจะได้ เมื่อเขาส่งเมนูคืนพนักงานเธอก็ส่งคืนบ้าง

"ไม่อยากได้อะไรเพิ่มหรือ"

"ไม่ค่ะ"

ความอึดอัดที่กำลังจะกรุ่นขึ้นอีกครั้งถูกทำลายลงด้วย ใครบางคนที่กำลังเปิดประตูกระจกเข้ามาภายในห้องอาหารแห่งนี้

พี่เต็น เพื่อนสนิทอีกคนของพี่ชายเธอ

"อ้าว น้องกี้ มาได้ไงเนี่ย"

เธอรีบยกมือขึ้นสวัสดีด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

"พี่เซอร์ไพรส์มากเลยนะเนี่ย"

"พอแล้วมึงไม่ต้องเว่อร์"

"เหี้ยไม่เว่อร์ได้ไงวะ กูโคตรเซอร์ไพรส์เลย ไม่คิดว่าจะเจอน้องกี้ที่นี่ เออ แล้วมาด้วยกันได้ไง"

"เอ่อ...กี้ทำงานที่โรงแรมน่ะค่ะ" เพราะชื่อโรงแรมที่เธอเอ่ยบอกทำให้เต็นพยักหน้าเข้าใจเรื่องตอนนี้

"กี้เป็นเลขาให้ไอ้วีร์มันหรือ" พี่เต็นก็ยังคงใช้สรรพนามเรียกเพื่อนเหมือนเมื่อก่อนจนเธอทำหน้าเกือบไม่ถูก

"อ๋อ...เปล่าค่ะ กี้ทำที่แผนกบัญชีค่ะ พอดีมาช่วยงานฝ่ายบริหารชั่วคราว"

"มึงจะคุยเรื่องงานได้หรือยัง ไม่งั้นกูจะเปลี่ยนบริษัทตกแต่งภายในใหม่" เธอเกือบลืมธุรกิจของบ้านพี่เต็นเลย แต่ก็นึกชื่นชมที่พวกเขาก็ยังซัปพอร์ตกันดี

"เออ คุยๆ สิวะ แล้วไงมึงจะรีโนเวทใหม่หมดเลยหรือเปล่า"

"ใหม่หมด"
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel