บท
ตั้งค่า

ตอนที่5 การพบกันครั้งแรก

สปอร์ตคาร์คันหรูแล่นผ่านเส้นทางคดเคี้ยวที่ทอดตัวไปตามแนวภูเขาและต้นไม้เขียวขจี แต่ทว่าบรรยากาศภายในรถกลับเงียบสงัด จนได้ยินเพียงแค่เสียงของเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์ วายุเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่นั่งหลับพิงกระจกอยู่เป็นระยะ ภาพสมัยที่เขาและเธอยังรักกันอยู่ก็ฉายกลับมาให้เห็นอีกครั้ง

เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่มีเสียงหวาน ๆ ของเธอที่เรียกเขาว่าเฮียเหนืออีกแล้ว รอยยิ้มที่แสนสดใสนั่นเขาก็ไม่มีโอกาสได้เห็นอีก

"เฮียคิดถึงสองนะ..คิดถึงมาโดยตลอด" เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะหันกลับไปจดจ่ออยู่กับถนนข้างหน้า โดยที่ไม่รู้เลยว่า ผู้หญิงที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับจะยังมีสติอยู่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ และเธอก็ได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมาทั้งหมด

ก่อนหน้านี้อภิชญาเลือกที่จะแกล้งหลับเพื่อหนีความอึดอัดที่เกิดขึ้น ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะต้องมาได้ยินอะไรแบบนี้ แต่เธอไม่หลงเชื่อคำพูดของคนหลอกลวงเป็นครั้งที่สองหรอก

ถ้าเชื่ออีกครั้งเธอก็กินหญ้าแทนข้าวแล้ว!

แกล้งหลับไปแกล้งหลับมา เธอก็เดินทางข้ามเวลาเสียอย่างนั้น รู้ตัวอีกทีรถที่เธอนั่งมาก็มาหยุดอยู่หน้าร้านเหล้าเมื่อคืนเป็นที่เรียบร้อย อภิชญาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยสภาพงัวเงียและน้ำลายยืด เธอใช้หลังมือเช็ดที่ขอบปากอย่างลวก ๆ ด้วยความอับอาย

"ขอบคุณที่มาส่งค่ะ" เสียงหวานพูดขึ้นด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน ฝ่ามือเล็กปลดเข็มขัดนิรภัยออก จากนั้นก็เปิดประตูเตรียมลงจากรถด้วยความไวแสง เธอหันกลับมาสบตาวายุเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะก้าวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

วายุมองตามหลังเธอไปโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปสักคำ เขาทำได้เพียงนั่งนิ่งอยู่บนรถและปล่อยให้เธอเดินจากไป วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ยังไงในอนาคตเธอก็ต้องกลับมาอยู่เคียงข้างเขาอีกครั้งอยู่ดี

เขาจะไม่มีทางปล่อยเธอไปอีกครั้งแน่นอน เขาสาบานเลย!

หกปีก่อน

จู่ ๆ ฝนที่เคยตกใส่ร่างกายก็หายไป วายุจึงเงยหน้าขึ้นมามองด้วยขอบตาแดงก่ำ และได้พบเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังยืนกางร่มให้เขาอยู่

เธอสวมใส่เสื้อนักศึกษาและกระโปรงพลีทยาวระดับหัวเข่า เป็นเด็กสาวตัวเล็กสูงประมาณร้อยหกสิบ หน้าตาน่ารักไร้ซึ่งการเติมแต่ง ผมสั้นประบ่าอีกทั้งยังผิวขาวผุดผ่อง สังเกตได้จากมือที่เธอกำลังถือร่มอยู่ในเขาในตอนนี้

"พี่โอเคหรือเปล่าคะ..มีอะไรให้หนูช่วยมั้ย" เธอเอ่ยถามเขาด้วยท่าทีห่วงใย ซึ่งก็คงจะไม่แปลกที่เธอถามเขาอย่างนั้น ก็เพราะว่าสภาพของเขาในตอนนี้ มันดูไม่ได้เลยสักนิด

วายุถูกแฟนสาวที่คบกันมา8ปีบอกเลิกอย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอให้เหตุผลว่า คบกับเขาแล้วเธอไม่มีความสุขเลยสักนิด เธออึดอัดที่ต้องคบกับผู้ชายที่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของชีวิตเธอ ทั้งที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ารักและเป็นห่วงเธอทั้งนั้น ถึงแม้ว่ามันจะมีความหึงหวงและเอาแต่ใจรวมอยู่ด้วยก็ตาม

เธอเดินเข้ามาพูดในสิ่งที่ต้องการจะพูด และเดินจากออกไปอย่างไม่หันกลับมามองที่เขาอีก

วายุพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่า นี่คงเป็นการแกล้งเล่นของม่านฟ้าอย่างแน่นอน เขานั่งรออยู่ที่สนามบาสตรงนี้มาราว ๆ สองชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่เมฆมืดครึ้มจนกระทั่งฝนตก ม่านฟ้าก็ยังไม่เดินกลับมา..

วายุส่ายหน้าเบาเล็กน้อย เขารู้สึกไม่โอเคเลยสักนิด กระทั่งแรงจะลุกก็ยังไม่มี โดนแฟนที่รักกันมาแปดปี บอกเลิกแบบไม่มีเวลาให้เตรียมใจ เขาแม่งไปต่อไม่เป็นเลยบอกตรง ๆ

เลยได้แค่นั่งรอให้เธอกลับมาเหมือนหมารอเจ้าของอยู่อย่างนี้นี่ไง!

คนตัวเล็กที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงทำได้เพียงย่อตัวลงมานั่งอยู่ด้านหน้าของเขา เธอจ้องมองใบหน้าของเขาอย่างพินิจ โดยที่มืออีกข้างหนึ่งก็ยังคงกำร่มไว้แน่น ผู้ชายคนนี้หน้าตาเหมือนรุ่นพี่ในคณะของเธออย่างกับแกะ แต่แววตาและบรรยากาศรอบตัวกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง

"อกหักเหรอคะ" อภิชญาเอ่ยถามขึ้นท่ามกลางเสียงฝน เพราะสังเกตเห็นว่าขอบตาของเขาแดงก่ำ เหมือนคนที่ผ่านร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง ทว่าเจ้าของใบหน้าคมคายกลับไม่ยอมตอบอะไรกลับมา เขาทำเพียงแค่พยักหน้าตอบเธอเท่านั้น

บอกตามตรงว่าเธอไม่รู้ว่าจะปลอบเขายังไงดี บางทีหากเธอพูดมากกว่านี้อาจจะทำให้เธอโดนด่าว่าเสือกก็ได้ อีกอย่างนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องมาสนใจ ใครจะอกหักหรือเลิกกับใคร ก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอ

อภิชญานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจยื่นร่มในมือของตนให้กับเขา อย่างไรรถของเธอก็จอดอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ ถ้าจะวิ่งกลับไปที่รถ ก็คงจะไม่เปียกสักเท่าไหร่หรอกมั้ง..

แต่ผู้ชายคนนี้นี่น่ะสิ เธอไม่รู้เลยว่าเขาจะนั่งอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ย

"ถ้ารอจนรู้สึกได้แล้วว่าเขาไม่มีทางเดินฝ่าฝนกลับมาหา พี่ก็กลับบ้านเถอะนะคะ อย่ารอเลย ทำร้ายตัวเองเปล่า ๆ" เมื่อพูดจบ เธอก็วิ่งฝ่าสายฝนออกไป โดยทิ้งร่มไว้ในมือเขาหนึ่งคัน

และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับเธอ..

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel