ตอนที่3 ล็อคมง ตำแหน่งเลขา
แสงแดดยามเช้า สาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ในห้องทำงาน กระทบลงบนเส้นผมสีดำสนิทซึ่งตอนนี้มันยังไม่ทันแห้งดี เจ้าของนัยน์ตาสีเดียวกันนั้น กำลังกวาดสายตาอ่านเอกสารที่วางกองอยู่บนโต๊ะทำงานด้วยท่าทางสุขุม
"คุณเหนือคะ..กาแฟมาแล้วค่ะ" เสียงหวานของสาวรับใช้วัยยี่สิบหกดังขึ้นจากด้านหน้าห้อง เธอมีชื่อว่าชะเอม เป็นคนที่ตัวเล็กผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก และเป็นหลานสาวของป้าลำดวน แม่บ้านคนเก่าแก่ของที่นี่ เธอเพิ่งมาทำงานให้วายุได้เพียงสามปี
ชะเอมแอบมีใจให้เขา ชายหนุ่มนั้นรู้ดี แต่ทว่าสมภารไม่กินไก่วัดนั่นคือคติประจำใจของวายุ เขาไม่คิดที่จะทำเรื่องพรรค์นั้นในบ้านของตัวเอง และไม่คิดพาใครมาทำเรื่องอย่างว่าภายในบ้านของเขา
ยกเว้นเรื่องเมื่อคืนไว้ก็แล้วกัน
"เข้ามาได้" น้ำเสียงทุ้มต่ำตอบกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารต่อไป
ชะเอมเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย เธอพยายามเอาใจคุณเหนือมาตลอดแต่เขากลับไม่เคยเหลียวแลเธอเลยสักครั้ง ไม่แม้แต่จะแตะต้องเธอเลยสักนิด แต่เมื่อคืนเขากลับพาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มานอนค้างที่บ้านเป็นครั้งแรก..
"เสร็จธุระก็ออกไปได้แล้ว ผมจะทำงาน"
"ค่ะคุณเหนือ" ร่างบอบบางค้อมศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องทำงานไปด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจ แต่จะทำอย่างไรได้ ก็เธอเป็นแค่สาวใช้คนหนึ่ง และคงเป็นเด็กกะโปโลในชีวิตของคุณเหนือ
ผู้สมัครตำแหน่งผู้จัดการมีประมาณสามสิบกว่าคนได้ วายุอ่านประวัติของแต่ละคนอย่างละเอียด อ่านจนคร้านที่จะอ่านแล้ว เขาอยากจะโยนเอกสารกองนี้ให้กับสิงห์ แล้วให้สิงห์หลับตาเลือกมาสักหนึ่งคน
ฝ่ามือหนาหยิบเอกสารแผ่นสุดท้ายขึ้นมา ด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความเหนื่อยหน่าย ทว่าสายตาดันเหลือบไปเห็นรูปของผู้ที่มาสมัคร สิ่งนี้เรียกความสนใจจากเขาได้อยากชะงัดนัก
อภิชญา ธาดาวรวงศ์ ชื่อเล่น นับสอง..
เธอจบจากมหาวิทยาลัยอะไร คณะและสาขาอะไรเขานั้นย่อมรู้ดีอยู่แล้ว บ้านเกิด รวมถึงวันเกิดและราศีเขาก็ยังจำได้ วายุกวาดสายตาอ่านไปเรื่อย ๆ กระทั่งไปหยุดอยู่ที่สถานภาพของผู้สมัคร
สถานภาพ : โสด
บนใบหน้าคมคายมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมาเรียบเฉยเช่นเดิม เขากวาดกองเอกสารทั้งหมดไว้ด้านข้างโต๊ะอย่างไม่ไยดี เหลือเพียงแค่ใบสมัครของอภิชญาเท่านั้น
"สิงห์ เข้ามาหาผมหน่อย" หลังจากที่โทรเรียกมือขวาคนสนิท ไม่นานนักสิงห์ในชุดสูทสีดำก็เปิดประตูห้องเข้ามาอย่างรวดเร็ว
"ครับบอส"
"ผมเลือกคนได้แล้ว.. เอ่อไม่สิ สิงห์นายฟังนะ เธอคนนี้จะมาเป็นเลขาของผม ส่วนเงินเดือนสามารถเรียกมาได้เลยผมไม่เกี่ยง ที่สำคัญอย่าให้เธอรู้ว่าผมจะกลายเป็นบอสของเธอ เว้นเสียจากเธอเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว เข้าใจใช่ไหม"
"บอสครับ แต่เรากำลังหาตำแหน่งผู้จัดการนะครับ อีกอย่างบอสเคยบอกว่าไม่อยากมีเลขา.."
"งั้นนายก็เลือกมาสักคนก็แล้วกัน หมายถึงผู้จัดการน่ะ ส่วนเลขาผมจะเอาเธอคนนี้เท่านั้น" เรียวนิ้วยาวเคาะลงบนเอกสารของอภิชญาอย่างอารมณ์ดี สิงห์ที่เห็นเช่นนั้นก็ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายต่อไป
ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นบอสตั้งใจเลือกพนักงานขนาดนี้ แถมยังเป็นตำแหน่งที่ปกติไม่เคยมีเสียด้วย..
"แล้วเรื่องสัญญาล่ะครับ บอสจะให้ผมจัดการยังไง"
"ให้เงินเดือนเธอล่วงหน้าไปเลยสามเดือน แต่มีกฎว่าห้ามลาออกจนกว่าจะทำงานครบตามสัญญา"
"ครับบอส"
"เอ้อแล้วก็ ก่อนที่เธอจะตกลงเซ็นสัญญา นายอย่าโผล่ไปให้ผู้หญิงคนเมื่อคืนเห็นหน้าเข้าล่ะ เข้าใจใช่มั้ย" เขากระชับเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะถ้าหากหญิงสาวรู้ว่าสิงห์เป็นมือขวาคนสนิทของเขา เธออาจจะปฏิเสธงานนี้ก็ได้ ซึ่งมันต้องไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น นับสองจะต้องไม่รู้ว่าเจ้านายในอนาคตของเธอคือใคร จนกว่าเธอจะตกลงยอมเซ็นสัญญาทำงานกับเขา!!
"ครับ เข้าใจครับ"
"ถ้าอย่างนั้นวันนี้นายก็ไปพักผ่อนเถอะ อะนี่ค่าจ้างหยุดงาน อย่าลืมล่ะโน้มน้าวเธอมาเป็นเลขาผมให้ได้" วายุหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสไลด์หน้าจอไม่กี่ครั้ง เสียงข้อความที่โทรศัพท์ของสิงห์ก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
หนึ่งหมื่นบาท สำหรับการจ้างให้หยุดงานหนึ่งวัน!!!
"ขอบคุณครับบอส ผมจะไม่ให้บอสผิดหวัง คุณอภิชญาต้องมาเป็นเลขาบอสเท่านั้น ผมจะโน้มน้าวเธอให้ได้!!"
อภิชญาลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนบ่าย เธอลุกขึ้นมานั่งกุมขมับด้วยความปวดหัวราวกับมีคนเอาของแข็งมาทุบเข้าที่ศีรษะเธออย่างแรง เรียวนิ้วเสยผมขึ้นและจิกกำเอาไว้แน่น นัยน์ตาคู่งามกวาดมองไปรอบห้อง ทั้งเพดาน ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ล้วนเป็นสิ่งแปลกตา ตอนนี้อภิชญารู้สึกตัวได้ในทันทีว่าห้องที่เธอนอนอยู่นั้น มันไม่ใช่ห้องของตัวเอง
คนตัวเล็กก้มหน้าลงสำรวจร่างกายของตนเองด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ร่างกายของเธอเปลือยเปล่า หน้าอกของเธอนั้นก็เต็มไปด้วยรอยแดง อีกทั้งยังรู้สึกเจ็บที่ตรงนั้นเหมือนว่ามันเพิ่งผ่านสงครามอันหนักหน่วงมา นั่นเป็นสิ่งที่ตบหน้าเรียกสติของเธอได้อย่างดี
ฉิบหายแล้ว เมื่อคืนกูนอนกับใครวะ!!
เธอเองก็ไม่ใช่สาวเวอร์จิ้นหรือบริสุทธิ์อะไรหรอก แต่อย่างน้อยคนที่เธอจะนอนด้วยก็มีแค่แฟนหรือคนที่เธอรักเท่านั้น ไม่ใช่กับคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่ออย่างนี้..
อภิชญารีบคว้าเสื้อผ้ามาใส่อย่างรวดเร็ว เธอต้องรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เธอไม่คิดถามหาความรับผิดชอบจากเขาหรอก เพราะเมื่อคืนเธอเองก็จำได้รางๆ เหมือนกันว่าตัวเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเขาเลยสักนิด
กำปั้นเล็กยีลงบนหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด ถึงจะไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายคนเมื่อคืน แต่เธอก็ยังมีเรื่องที่ต้องคุยกับเขาอยู่ และมันก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเสียด้วย
เรือนร่างระหงเดินเข้าไปล้างหน้าเรียกสติตัวเองในห้องน้ำครู่หนึ่ง ก่อนจะทำใจเดินออกมาจากห้องนอน เพื่อตามหาผู้ชายที่เธอเผลอตัวไปนอนด้วยเมื่อคืนนี้
"ตื่นแล้วเหรอคะคุณนับสอง" เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องได้เพียงสามก้าว อภิชญาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ คุณป้าคนนี้เป็นใคร แล้วรู้ชื่อเล่นของเธอได้ยังไง
"เอ่อ..ที่นี่คือ..ที่ไหนคะ แล้วคุณป้าคือใครเหรอคะ ทำไมถึงรู้จักชื่อหนู"
"ป้าชื่อลำดวนเป็นแม่บ้านของที่นี่ค่ะ คุณนับสองตามป้ามานี่ซิคะ" เมื่อพูดจบป้าแม่บ้านก็หันหลังเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง อภิชญาในชุดมินิเดรสสีชมพูตัวเมื่อคืนก็เดินมาหยุดด้านหลังป้าอีกทีเช่นกัน เธอกวาดสายตามองไปรอบตัวจึงได้รู้ว่าบ้านหลังนี้นั้นใหญ่โตเพียงใด
แต่เดี๋ยวนะ.. บ้าน? บ้านเหรอวะ!!
มีใครบ้างพาสาวที่กะจะนอนด้วยแค่คืนเดียวมานอนที่บ้าน มันไม่ลงทุนเกินไปเหรอ เพราะถ้าดูจากบ้านแล้ว เธอเดาได้เลยว่าเขาต้องเป็นคนรวยมีอันจะกินแน่นอน ทำไมถึงไม่เปิดโรงแรมนอน จะหอบเอาเธอกลับมานอนที่บ้านทำไม
"นายน้อยคะ คุณนับสองมาแล้วค่ะ"
"ให้เธอเข้ามาได้เลยครับ"
"เชิญเลยค่ะ" ป้าแม่บ้านคนนั้นหันมาพูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร ซึ่งอภิชญาทำได้เพียงยิ้มตอบกลับไปเท่านั้น
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมา ฝ่ามือเล็กตบแก้มทั้งสองข้างของตนเองเพื่อเรียกสติ เมื่อทำใจได้แล้วเธอจังผลักประตูบานนั้นเข้าไปด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
