ตอนที่ 6 ฉากเด็ด (2)
เขาไม่พูดอะไรสักคำ ขยับถอยหลังมายืนชิดกับตัวฉัน จนหน้าของฉันอยู่ห่างกับแผงอกของเขาไม่ถึงคืบ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่เริ่มจางจากตัวเขาลอยเข้ามาในจมูก มันเป็นกลิ่นที่หอมมากอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน คงเป็นเพราะราคาของมันแพงล่ะมั้งถึงได้หอมขนาดนี้
ฉันยกแขนขึ้นมาตั้งฉากกั้นไว้ตรงหน้าอกเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอยากที่มันยื่นออกไปจนชิดกับตัวเขา พาลทำให้รู้สึกน่าอายอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่เกิดมาเคยใกล้กับผู้ชายขนาดนี้ก็คงมีแค่น้ำหนาวน้องชายแท้ๆ ของตัวเองเท่านั้น
“เอ่อ…” ฉันกำลังจะขยับตัวออกห่างแต่กลับถูกเขารั้งเอาไว้ด้วยการตวัดแขนมาเกี่ยวเอวเอาไว้ แล้วส่งสายตาดุๆ มาให้ ก่อนจะหันกลับไปแอบมองสองคนนั้นที่กำลังเดินออกมา ยืนอยู่มุมนี้สองคนนั้นคงไม่เห็นเราสองคนเพราะมันเป็นมุมที่ค่อนข้างมืดมาก
“โทษที วันนี้ฉันรีบ” เสียงของพี่ไมเนอร์ดังขึ้น นั่นทำให้ฉันต้องกลับไปสนใจที่เหตุการณ์ด้านนอกอีกครั้ง
“วันหลังก็หัดเตรียมตัวมาหน่อย มันเสียอารมณ์”
“หึ อยากขนาดนั้น ไปหาที่ห้องฉันก็ได้นะ” ฝ่ายชายหัวเราะ ก่อนที่ฉันจะเห็นเขาเอื้อมมือไปบีบขย้ำที่หน้าอกของพี่เมย์โดยไม่กลัวว่าใครจะเปิดประตูมาเห็น
ฉันรีบเบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พี่ฟิวส์กลับนิ่งมาก นิ่งจนฉันรู้สึกกลัว พี่ฟิวส์ควบคุมอารมณ์ได้ดีสุดๆ ถ้าเป็นฉันคงเดินออกไปจัดการสองคนนั้นแล้ว หยามกันถึงที่ขนาดนี้
“อย่าให้ฟิวส์รู้ล่ะ”
“ ผู้หญิงอย่างเธอนี่มันตลกดีนะ”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงที่แอบฟังสองคนนั้นคุยกัน เขาเบือนหน้ากลับมาแล้วมองฉันตอบก่อนจะขมวดคิ้วแน่นจนหน้ากลับมาดุอีกรอบ ฉันจึงส่งสายตากลับไปเป็นสัญญาณว่า ‘ไม่เป็นไรนะ น้ำค้างเป็นกำลังใจ’
แต่นั่นกลับทำให้คนตัวสูงขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม
พอสองคนนั้นเดินพ้นออกไปจากประตูฉันจึงขยับตัวออกมาจากมุมแคบๆ นั้น ส่วนพี่ฟิวส์ก็เดินตามออกมา เขาไม่พูดอะไรสักคำ ฉันเองก็พอจะรู้ตัวว่าไม่ควรที่จะพูดอะไรออกไป เราออกมาจากมุมนั้นแล้วนั่งที่ของตัวเอง แล้วพี่ฟิวส์ก็เป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน
“เอาอันนี้ไปทำ” เขายื่นเอกสารปึกหนึ่งมาให้
“ทำยังไงคะ”
“เรียงตามหัวข้อนี้” พูดจบก็เห็นข้อความแจ้งเตือนในมือถือดังขึ้น เป็นไฟล์หัวข้องานที่เขามอบหมายให้ทำ “งานส่วนตัวฉัน”
“ค่ะ”
ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วจัดการกับเอกสารตรงหน้าตัวเอง พี่ฟิวส์ก็เปิดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของเขาทำงานอยู่เงียบๆ มันเงียบมากจนฉันรู้สึกไม่สบายใจเลย หรือว่าเขากำลังน้ำตาตกในอยู่
หล่อ รวย เท่ ขนาดนี้ยังโดนนอกใจ โลกนี้มันมีความรักดีๆ อยู่ไหมนะ หรือว่าพี่ฟิวส์ยังไม่ตอบโจทย์เรื่องบนเตียง นี่ฉันคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย!
“เป็นบ้าอะไร” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นพร้อมกับสายตาที่มองมาทางฉันด้วยความสงสัย
“เปล่าค่ะ” ฉันที่เพอ่งสลัดความคิดบ้านของตัวเองออกจากหัวรีบก้มหน้าทำงานต่อ
“พี่ฟิวส์” ฉันรวบรวมความกล้าหันไปเรียกเขาก่อนจะยิ้มให้กำลังใจ “คืนนี้ไปดื่มกันไหม”
“…” เขามองฉันแปลกๆ คงไม่คิดว่ารุ่นน้องอย่างฉันจะเข้าใจความรู้สึกเขา “อืม รีบทำให้เสร็จ”
“ค่า”
นอกจากจะไม่ปฏิเสธแล้วเขายังตกปากรับคำทันทีจนน่าแปลกใจ แถมยังตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้เสร็จอีกต่างหาก เป็นฉันถ้าเสียใจขนาดนี้คงไม่อยู่รอทำงานเสร็จแน่ คนหนึ่งเพื่อนอีกคนก็แฟน ทำกันได้ลงคอ
“หอเธออยู่ไหน” ขณะที่กำลังเดินออกมาจากห้องสโมฯ พี่ฟิวส์ก็หันกลับมาถาม
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม บริเวณนี้ไม่มีใครอยู่แล้วแต่ชั้นล่างสุดยังมีนักศึกษานั่งทำงานและทำกิจกรรมกันอยู่
“แถว XXX ค่ะ”
“เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูกลับเอง” ฉันรีบปฏิเสธทันควัน
“คอนโดฉันผ่านแถวนั้น”
เขาพูดแล้วก็เดินไปต่อไม่สนใจว่าฉันจะพูดยังไง สุดท้ายก็จำใจเดินตามไปจนถึงลานจอดรถ แต่รถของเขาไม่ใช่บิ๊กไบก์ที่เกิดเรื่องวันนั้นเป็นรถซีดานสัญชาติยุโยปสีดำด้านอีกคัน
“เดี๋ยวเราไปเจอกันที่ร้านเลยไหมคะ” ฉันขึ้นมานั่งเขาก็เคลื่อนรถออกมา
ถนนรอบมหาวิทยาลัยเวลานี้รถเยอะมาก แต่โชคดีที่ทางเข้าหอของฉันมีซอยที่ลัดเลาะหลบรถติดได้ พี่ฟิวส์เองก็รู้ทุกซอกซอย แค่บอกชื่อหอเขาก็ไม่มีคำถามอีกเลย
“เดี๋ยวฉันมารับ สามทุ่ม”
“ค้างชวนเพื่อนไปด้วยได้ไหม” ตอนแรกก็ไม่ทันได้คิด แต่ตอนนี้กลับมาคิดได้ว่าถ้าเกิดเมาแล้วไปกับพี่ฟิวส์สองคนจะทำยังไง คนกำลังอกหักเกิดคิดบ้าๆ ขึ้นมาล่ะ
“…แล้วแต่เธอ” เขาเงียบไปครู่ก่อนจะตอบเสียงเรียบ
---------------------
