ตอนที่สอง เรียกความสนใจ
ตอนที่สอง
เรียกความสนใจ
“เอาเถอะ หากเจ้าชอบเขาก็คงต้องเร่งมือหน่อย หาไม่คงไม่อาจเรียกความสนใจมาได้ ที่สำคัญคู่แข่งของเจ้าน่ากลัวไม่น้อย” เจียงลี่อินกระซิบกระซาบ
“เช่นนั้นข้าคงต้องทำทุกวิถีทาง เฮ้อ!...เกิดเป็นสตรีในยุคสมัยนี้ช่างยากลำบากนัก พบเจอชายหนุ่มที่ชื่นชอบจะออกตัวแรงเข้าไปเอ่ยปากเลยก็หาควรไม่
แต่จะรออยู่อย่างนิ่งเฉยให้เขาเป็นฝ่ายมาเกี้ยวพาเกรงว่าคงจะไม่ได้ความ
ข้าควรต้องแสดงออกอย่างไรจึงจะไม่ดูน่ารังเกียจและไม่มีกิริยาไม่งามจนผู้คนครหานินทา เจ้าช่วยข้าคิดหน่อยสิ อิ๋งอิ๋ง” เจียงลี่มี่บ่นยืดยาวก่อนจะหันมาขอความช่วยเหลือจากแฝดน้องสาว
“อันดับแรกทำใจให้สบายก่อนนะ มีมี่ หากเคร่งเครียด เกินไปจะไม่เป็นธรรมชาติ ข้าคิดว่าพวกเรามีใบหน้างดงามน่ารักเป็นต้นทุนที่ดี เรือนร่างของเจ้าก็สมส่วน อกเป็นอก เอวเป็นเอว หากได้เห็นใกล้ชิด อย่างไรเสียก็ต้องสะดุดตาอยู่บ้าง
ที่สำคัญเจ้าเองก็มีนิสัยช่างออดอ้อนเอาอกเอาใจ ไม่มีข้อใดเสียหาย หากขยันเข้าไปอยู่ในสายตา แสดงออกถึงความห่วงใยให้รู้สึกว่าเป็นคนสำคัญของเรา ทำให้เขาสบายใจและชื่นชอบที่จะอยู่กับเรา เพียงเท่านี้ สองตาของท่านแม่ทัพย่อมต้องเหลือบแลมาทางเจ้าบ้าง
ที่เหลือก็เพียง ให้ความรักชักนำไปในทางที่ถูกที่ควร หากเขาเป็นคู่แท้ของเจ้า ย่อมต้องหาทางลงเอยที่ดีที่สุด แต่หากเขามีสตรีอื่นในดวงใจอยู่แล้ว เจ้าก็ต้องพยายามหักห้ามใจ เช่นนี้ดีหรือไม่” เจียงลี่อินพยายามเรียบเรียงความคิดไล่เรียงออกมา
“ดี ดีมาก ขอบใจเจ้ามาก อิ๋งอิ๋ง” เจียงลี่มี่ที่คิดตามพยักหน้าเออออ
นางต้องหาทางใกล้ชิดเขาให้ได้
“มัวแต่คุยกัน โน่น ขบวนแม่ทัพเซี่ยของเจ้ามาโน้นแล้ว มองลงไปเร็วเข้า มองจดจ้องไปทางเขาจนกว่าเขาจะหันกลับมาเห็น จากนั้นพยายามสบตาต่ออีกครู่หนึ่ง ยิ้มแล้วเบนหน้ามองออกไปทางอื่น แสดงท่าทีเขินอายน้อยๆ อย่ามากเกินไป
วิธีนี้น่าจะทำให้เขาสังเกตเห็นเจ้า อย่างน้อยก็สร้างข้อกังขาในใจ หากเขาพอจดจำเจ้าได้ก็อาจจะแสดงกิริยาตอบรับ แต่หากเขาไม่สนใจ พวกเราคงต้องหาทางอื่น” เจียงลี่อินกำกับพี่สาวฝาแฝดเมื่อเห็นว่านางมัวแต่สติล่องลอย
“ทำตัวสบายๆ มีมี่ อย่าเขินอายจนน่ารำคาญ”
เสียงเตือนของน้องสาวทำให้เจียงลี่มี่ตั้งสติได้ นางมองจ้องไปยังผู้นำขบวนซึ่งสวมเสื้อเกราะและหมวกเหล็กเต็มพิกัดจนมองแทบไม่เห็นหน้าตา
สายตาของหญิงสาวหลายคนมองจ้องอย่างพยายามจะทะลุเข้าไปในสายตาของชายหนุ่มซึ่งขี่ม้านำขบวนอยู่ แต่เขาตั้งคอตรงเล็งสายตาไปข้างหน้าอย่างไม่เหลือบแลสิ่งใด
“แม่ทัพเซี่ย คุณหนูกู่อยู่ทางนี้ มองขึ้นมาสักหน่อยเถิด”
เสียงหญิงสาวจากห้องด้านข้างตะโกนลงไปดังลั่นเรียกความสนใจของผู้คน
ชายหนุ่มบนหลังม้าเงยหน้าขึ้นมานิดหนึ่งก่อนจะโฉบสายตาผ่านไปรอบๆแล้วบังคับม้าเดินตรงไปอย่างไม่กระโตกกระตาก
“พวกเจ้าดูสิ แม่ทัพเซี่ยมองขึ้นมาจริงด้วย”
“เขามองมาทางข้า”
“ไม่จริง เขามองมาทางข้าต่างหาก”
“มองข้าต่างหาก เจ้าอย่าได้เพ้อเจ้อ”
“มองทุกคนนั่นแหละ”
เสียงถกเถียงกันอย่างเซ็งแซ่เรียกสติของเจียงลี่มี่ให้กลับคืนมา
