บทที่ 3
“ไม่ต้องเกร็งนะคะ เราจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ทำใจให้สบายนะคะ” หมอสูตินารีพยายามปลอบซอนย่าที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างมีความหวังว่าการฝังสเปิร์มในไข่ในครั้งนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
........ใช่ ฉันตัดสินใจดีแล้ว ฉันตัดสินใจถูกแล้ว เพราะนี่คือสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุด อีกไม่นานความฝันที่จะได้เป็นแม่คนก็จะเป็นจริงซักที แม่จะดูแลหนูให้ดีที่สุดให้เหมือนกับที่ยายดูแลแม่มาคนเดียว ไม่ว่าหนูจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แม่ก็ขอให้หนูลงมาเกิดในท้องแม่เร็ว ๆ นะ... ขอบคุณเทคโนโลยีที่ทำให้ฉันได้เป็นแม่สมใจ โดยไม่ต้องเจ็บปวดจากผู้ชายคนไหนอีก ไม่ต้องเจ็บปวดอีกแล้วย่า เธอจะไม่ต้องเจ็บปวดอีกแล้ว ...
น้ำตาอุ่นๆ ก็ค่อย ๆ ไหลออกมาอาบแก้มของเธอ และดูเหมือนว่ามันจะไม่หยุดไหลง่าย ๆ
ภาพเหตุการณ์เมื่อ 5 ปีที่แล้วกลับมาฉายภาพในความทรงจำของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ภาพของว่าที่เจ้าสาวที่รอว่าที่เจ้าบ่าวของเธอมาจูงมือของเธอเข้าวิวาห์อันหวานชื่น แต่เขาก็ไม่ปรากฏตัวในงานแต่งของตัวเอง ปล่อยให้เจ้าสาวรอด้วยใจสลาย และหลังจากวันนั้นเธอก็ไม่เคยได้พบเขาอีก ไม่แม้แต่จะได้รับข่าวสารจากเขาหรือคนรู้จักของเขาเลย จนเวลาล่วงเลยผ่านไป 3 เดือน เธอก็ได้รับโทรศัพท์ทางไกลซึ่งเสียงปลายสายเป็นผู้หญิง
“สวัสดีค่ะ คุณซอนย่าใช่ไหมคะ ... ดิฉันเคธี เลขาของคุณนาธานค่ะ ไม่ทราบว่าสะดวกคุยไหมคะ”
ซอนย่ารวบรวมสติของเธอเพื่อพยุงร่างของตัวเองไม่ให้ล้มทรุดลงไปหลังจากที่ได้ยินชื่อผู้ชายฉีกหัวใจของเธอเป็นชิ้น ๆ ...คำถามมากมายที่เธออยากถามผู้ชายคนนี้เริ่มผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
“สะ..สวัสดีค่ะ สะดวกค่ะ” ใจของเธอเต้นแรงอย่างกับว่ามันจะออกมาเต้นข้างนอกร่างของเธอ
“พอดีทางเราทราบมาว่าคุณซอนย่าย้ายออกจากบ้านที่ถนนควีนแล้ว ไม่ทราบว่าการย้ายครั้งนี้เป็นแบบชั่วคราวหรือถาวรค่ะ ...... ฮัลโหล คุณซอนย่า ยังอยู่ไหมคะ ...ฮัลโหล....ฮัลโหล”
โลกของหญิงสาวปลายสายได้หยุดลงชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่าตัวเองต้องรู้สึกยังไงต่อไปเพราะมันเจ็บซะจนหายใจไม่ออก ผู้ชายที่เธอพร้อมจะมองทั้งชีวิตและจิตใจให้กลับมาทิ้งเธอไปในงานที่สำคัญที่สุดของลูกผู้หญิงคนหนึ่งแบบไม่มีคำอธิบายใด ๆ และไม่แม้แต่จะติดต่อมาเลยตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ก็ยังไม่ใช่เขาแต่เป็นเลขา นี่ฉันไม่มีค่ากับเขาเลยใช่ไหม ไม่เลยใช่ไหม
“ค...ค่ะ ยังอยู่ค่ะ .... ช..ใช่ค่ะ ย่าย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้นถาวรค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ ถ้าอย่างนั้นเคธีไม่รบกวนแล้วค่ะ”
“เดี๋ยวค่ะ ... คือ.. ย่ามีของที่อยากส่งคืนให้นา..คุณนาธาน ย่ารบกวนขอที่อยู่ไว้ได้ไหมค่ะ”
“ได้ซิค่ะ คุณซอนย่ามีปากกากระดาษพร้อมจดที่อยู่ไหมคะ”
.....คงลืมหมดแล้วซินะ สำหรับเขาแล้ว ฉันคงเป็นเพียงอดีตที่เขาทิ้งได้โดยไม่มีเยื่อใย คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงนาธาน ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้ ทำไม!?!?.....
ปิ่ง!!! .... เสียงนาฬิกาตั้งเวลาของคุณหมอได้ดังขึ้นปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ เสียงรองเท้าส้นเตี้ยของคุณหมอดังมาพร้อมกับเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออก ซอนย่าลืมตาขึ้นจากฝันร้ายสู่โลกแห่งความจริงที่เธอได้เลือกเอง
“รู้สึกยังไงบ้างคะ” คุณหมอสาวถามคนไข้ที่นอนพาดขาสูงอยู่บนเตียงเฉย ๆ เพื่อให้น้ำเชื้อสเปิร์มได้ฝังตัวเข้าไปในไข่
“ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะคุณหมอ .. เอิ่ม... คือย่าหมายถึงว่า ย่าโอเคค่ะ เสร็จแล้วใช่ไหมคะ”
“เดี๋ยวหมอขอตรวจอะไรเพิ่มเติมนิดหน่อยก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ ... หลังจากนี้คุณย่าก็ใช้ชีวิตปกติไปนะคะ แล้วเดี๋ยวเดือนหน้า หมอขอนัดเข้ามาตรวจอีกครั้ง”
“ได้ค่ะ .. อืม ไม่ทราบว่าผู้บริจาคสเปิร์มก็ไม่ทราบเหมือนกันใช่ไหมคะว่าใครเลือกใช้สเปิร์มของเขาบ้าง.. คือย่าเองก็ไม่อยากเปิดเผยข้อมูลของตัวเองเช่นกันค่ะ”
“คุณย่าไม่ต้องห่วงนะคะ เรื่องนี้ทางเรารับรองได้ค่ะว่าทั้งข้อมูลของผู้บริจาคและผู้รับบริจาคจะไม่ถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน สบายใจได้ค่ะ”
“อ่า ขอบคุณมากค่ะ งั้นย่าขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะคะ”
... ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน สูง 185 ผมดำ ตาสีน้ำทะเล IQ และ EQ โดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก... แม่ว่าแม่เลือกพ่อพันธุ์ที่ดีที่สุดเท่าที่แม่จะทำได้ แต่หนูอย่ายีนส์ด้อยของแม่มาเกิดก็พอนะ คุณแม่ขอร้องงงงง ...
ตอนนี้ในหัวของหญิงสาววัย 33 เต็มไปด้วยความหวังที่มาพร้อมกับความสุขใจที่จะได้เป็นแม่คนอย่างที่เธอตั้งใจไว้ซักที 5 ปีที่ผ่านมาเธอทุ่มสุดตัวเพื่อสร้างอาณาจักรของตัวเองด้วยความสามารถที่เธอมี ในหัวของเธอมีแต่เรื่องงาน และตัวเลขในบัญชีธนาคารที่เพิ่มขึ้นทุกวันจากร้านอาหารไทยของแม่ ที่พ่อเลี้ยงของเธอลงทุนให้ตั้งแต่เธอและแม่ย้ายมาอยู่ที่อเมริกา ที่เธอเข้ามาบริหารเต็มตัวหลังจากที่แม่และพ่อเลี้ยงของเธอได้จากเธอไปอย่างกระทันหันจากอุบัติเหตุรถยนต์หนึ่งเดือนหลังจากงานแต่งที่ไม่ได้แต่งของเธอ
ผู้หญิงตัวคนเดียวที่ถูกทอดทิ้งทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจจากคนที่เธอรักต้องรวบรวมความกล้าหาญและสติมากแค่ไหนที่จะยืนอยู่ด้วยลำแข้งตัวเองหลังจากที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสองเหตุการณ์ในเวลาติด ๆ กัน และคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุดคือเป็นใครไม่ได้นอกจากนารา
