บทที่ 3
ปฏิเสธข้าทาสเก่า
เสียงกระดิ่งเงินที่แขวนอยู่หน้าประตูเรือนดังกรุ๋งกริ๋งเบา ๆ ตามแรงลมยามเช้า
อากาศเย็นสบายแบบนี้น่าจะทำให้จิตใจสงบได้บ้าง
แต่สำหรับฉันแล้ว — วันนี้เป็นวันที่ฉันตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำให้ "เรือนพักของเฟยหลิง" เปลี่ยนแปลงจากรากฐาน
เปลี่ยนจากรังของงูพิษ...ให้กลายเป็นป้อมปราการของข้า
ฉันนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้หอมกลางห้องโถงหลักของเรือน ทอดสายตามองกลุ่มข้าทาสบริวารที่กำลังทยอยเข้ามาอย่างไม่เต็มใจนัก
แต่ละคนก้มหน้า หลบตา แสร้งทำตัวนอบน้อม แต่ฉันมองเห็นได้ทันที
ในสายตาของพวกเขา
มีทั้งความดูถูก ความหวาดกลัว และความลังเลซ่อนอยู่
พวกเขายังคงคิดว่าฉันคือเฟยหลิงคนเดิม
เฟยหลิงที่โง่เง่า เย่อหยิ่ง และวู่วาม
เฟยหลิงที่พวกเขาสามารถหลอกใช้ ตักตวงผลประโยชน์ และทรยศได้โดยไม่ต้องกลัวผลลัพธ์
ฉันยกยิ้มเย็นที่มุมปาก
วันนี้...ฉันจะสอนให้พวกเขารู้ว่า ท่านหญิงเฟยหลิงคนเดิมได้ตายไปแล้ว
**
"ทุกคนเงยหน้าขึ้น" ฉันเอ่ยเสียงเรียบเย็น
ข้าทาสเกือบยี่สิบชีวิตค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นอย่างหวาด ๆ
ฉันลุกขึ้นยืนช้า ๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างสง่างาม
"ข้าจะกล่าวเพียงครั้งเดียว" ฉันประกาศเสียงชัด "ผู้ใดที่คิดทรยศ คิดขายข้อมูล คิดหักหลัง...จงก้าวออกมาเสียแต่โดยดี"
ไม่มีใครขยับ
แน่นอน
ใครบ้างจะยอมรับความผิดของตนเองตรง ๆ ต่อหน้าผู้ถืออำนาจ
ฉันหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนดีดนิ้วหนึ่งที
เสียงฝีเท้าเร่งรีบดังก้องขึ้นในความเงียบ
กลุ่มทหารองครักษ์ที่ฉันลอบสั่งให้ชุนฮวาจัดหามายืนเรียงแถวเข้ามาในห้องโถง
ใบหน้าของพวกเขาแข็งกร้าว ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ
สีหน้าของข้าทาสเปลี่ยนไปทันที
บางคนหน้าซีดเผือด
บางคนเหงื่อแตกพลั่ก
บางคนตัวสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด
ฉันยิ้มบาง ๆ
"ผู้ใดสมัครใจสารภาพ..." ฉันเว้นจังหวะ "...ข้าจะลดโทษให้"
เงียบงัน
แม้แต่เสียงหายใจก็แทบไม่ได้ยิน
ฉันพยักหน้าเบา ๆ
"ในเมื่อไม่มี..." ฉันปรายตามององครักษ์ที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างกาย "งั้นก็เริ่มจากคนที่ข้าเคยเห็นพวกเจ้ากระซิบกระซาบหลังเรือนเมื่อวานก่อนเถิด"
องครักษ์สองนายตรงเข้าคว้าตัวชายหนุ่มข้าทาสคนหนึ่งที่ตัวสั่นงันงก
"ข้าบริสุทธิ์! ท่านหญิง ข้าบริสุทธิ์!" เขาร้องลั่น
ฉันเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าเขา มองลงมาด้วยสายตาเย็นเฉียบ
"เจ้าบริสุทธิ์?" ฉันเอ่ยเสียงเบาแต่ก้องไปทั้งห้อง "แล้วเหตุใดวันนั้นเจ้าจึงส่งสารลับให้สหายที่ทำงานในตำหนักอวี้เหวิน?"
ชายหนุ่มหน้าซีดเผือด
เสียงร่ำไห้เบา ๆ ดังขึ้นจากมุมหนึ่ง
ฉันหันไปมองต้นเสียง เห็นสาวใช้คนหนึ่งยกมือปิดปากตัวเอง น้ำตาไหลพราก
ดี
ความหวาดกลัวเริ่มแทรกซึมเข้าสู่หัวใจพวกเขาแล้ว
**
ฉันหันหลังให้กลุ่มข้าทาส แล้วเอ่ยเสียงเรียบ
"ตั้งแต่วันนี้ไป ข้าจะสร้างกฎใหม่"
"ผู้ใดภักดี จะได้ตอบแทนด้วยความเมตตา"
"ผู้ใดทรยศ จะได้ชดใช้ด้วยเลือด"
คำพูดของฉันราวกับตอกตะปูลงบนโลงศพที่พวกเขาขุดขึ้นมาเอง
ฉันสั่งให้องครักษ์นำตัวผู้ต้องสงสัยออกไปสอบสวนในเรือนลับทันที
เสียงกรีดร้องและร้องขอความเมตตาดังก้องไปตามทางเดินหิน
แต่ฉันไม่สะทกสะท้าน
ในโลกนี้ หากข้าไม่แข็งแกร่ง
ข้าก็จะถูกบดขยี้
และข้าไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นอีก
เมื่อเสียงกรีดร้องสุดท้ายค่อย ๆ เลือนหายไปตามทางเดิน
ความเงียบสงัดก็ปกคลุมห้องโถงอีกครั้ง
ฉันหันกลับมาเผชิญหน้ากับข้าทาสที่เหลือ
สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ฉันอย่างตื่นตระหนก หวาดกลัว และเคารพอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะกระพริบตา
ดี
นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ
ไม่ใช่ความรักจอมปลอม
ไม่ใช่คำสัญญาว่างเปล่า
แต่เป็นความกลัวที่แท้จริง
เพราะในโลกนี้ มีเพียงผู้ที่ทำให้คนอื่นหวาดกลัวได้เท่านั้น
ที่จะอยู่รอดในสนามรบแห่งอำนาจ
**
ฉันเดินกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ไม้หอมตัวเดิม
ปล่อยให้เสียงรองเท้าแตะพื้นไม้ดังขึ้นเบา ๆ ในความเงียบ
"จากนี้ไป" ฉันเอ่ยเสียงเรียบ "ทุกคนในเรือนจะถูกจัดกลุ่มใหม่"
"ข้าจะมีสายสืบคอยตรวจสอบพฤติกรรมของพวกเจ้าในทุกยาม"
"หากผู้ใดมีใจสองใจ..." ฉันทอดเสียงให้เย็นเฉียบ "ข้าจะลงโทษโดยไม่ละเว้น"
ไม่มีเสียงโต้แย้ง ไม่มีเสียงกระซิบ ไม่มีเสียงแม้แต่การขยับตัว
ทุกคนก้มหน้านิ่งราวกับกลายเป็นรูปปั้นหิน
ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างพึงพอใจ
"ไปได้"
เสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้นเมื่อข้าทาสทยอยกันถอยออกจากห้องโถง
แต่ไม่มีใครกล้าหันหลังให้ฉันโดยไม่คำนับก่อน
ฉันเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ หลับตาลงอย่างอ่อนล้า
การสร้างอำนาจไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่เมื่อก้าวแรกได้วางอย่างมั่นคงแล้ว...
เส้นทางต่อไปก็จะเปิดกว้าง
**
เย็นวันนั้น ฉันนั่งปรึกษากับชุนฮวาอย่างละเอียดถึงแผนการจัดระเบียบเรือนใหม่
"เราจะคัดคนใหม่เข้ามา" ฉันกล่าว "ใช้คนเก่าที่พิสูจน์ความซื่อสัตย์แล้ว และรับคนจากเครือข่ายสายลับของข้า"
ชุนฮวาพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น
"บ่าวจะจัดการให้เร็วที่สุดเพคะ"
"ดี" ฉันพยักหน้า
"และอย่าลืม..." ฉันหยิบพัดทองขึ้นมากางเบา ๆ
"ปล่อยข่าวลือออกไปในวังด้วย"
"ว่าเฟยหลิงคนใหม่...โหดเหี้ยมกว่าที่ใครเคยคิด"
ชุนฮวาเบิกตากว้างนิดหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม
"รับทราบเพคะ ท่านหญิง"
**
คืนนั้น ฉันนอนไม่หลับ
ไม่ใช่เพราะความกลัว
แต่เพราะหัวใจเต็มไปด้วยความคึกคักราวกับม้าศึกที่พร้อมจะออกไปต่อสู้ในสนามรบ
จากนี้ไป
ข้าจะไม่ใช่เพียงแค่ท่านหญิงเฟยหลิง
แต่ข้าจะเป็นเฟยหลิง...ผู้ปกครองเรือนนี้อย่างแท้จริง
เฟยหลิง...ที่ไม่มีใครเอาชนะได้
เฟยหลิง...ที่แม้แต่สวรรค์ก็ไม่อาจลิขิตได้
**
เช้าวันถัดมา ฉันลุกขึ้นแต่เช้า
แดดยามเช้าส่องประกายอ่อน ๆ ลงบนพื้นหินขาวสะอาด
ลมฤดูใบไม้ผลิพัดเอากลิ่นดอกเหมยโชยมาปะปนกับกลิ่นชาดำที่วางอยู่บนโต๊ะ
ฉันจิบชาเบา ๆ พลางพิจารณาแผนการขั้นถัดไป
จัดการเรือนตัวเอง — สำเร็จแล้ว
เป้าหมายต่อไป...
คือล้างบางคนของอวี้เหวินหรงที่แฝงตัวอยู่ในวัง
ข้าต้องเร่งมือ
ก่อนที่หมากของฝ่ายนั้นจะเดินเข้ามาประชิดตัว
**
"ท่านหญิง" ชุนฮวาเข้ามาโค้งตัวรายงาน
"ข่าวลือแพร่ไปทั่วแล้วเพคะ ว่าท่านหญิงเฟยหลิง...ได้เปลี่ยนไปจนแม้แต่ปีศาจยังต้องหวั่นเกรง"
ฉันหัวเราะในลำคอเบา ๆ
ดีมาก
เมื่อศัตรูประเมินข้าผิดพลาดครั้งแรก
ชัยชนะของข้า...ก็เริ่มขึ้นแล้ว
**
ฉันลุกขึ้นยืน พลางมองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ทอดยาวไกล
ใจกลางวังหลวงแห่งนี้ — คือสนามรบที่ไร้เสียง
แต่ต่อให้ต้องต่อสู้จนเลือดหยดสุดท้าย
ข้าก็จะไม่ถอย
เพราะจากนี้ไป...
ข้าไม่เพียงแต่จะเอาตัวรอด
แต่ข้าจะปีนขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด
แล้วหัวเราะเยาะชะตากรรมที่พยายามบีบข้าให้ตายอย่างหมาข้างถนน
**
โลกใหม่ใบนี้...
จะเป็นของข้า
ไม่ใช่ของใครหน้าไหนทั้งนั้น
