บท
ตั้งค่า

ผลประโยชน์ร่วมกัน

ห้องทำงานเควิน

"สวัสดีครับคนสวย"

"สวัสดีค่ะคุณเควิน"

เควินยื่นเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะให้ซีอาร์โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลยสักคำ 

"อะไรหรือคะ?"

"เป็นสัญญาจ้างไงครับ"

ร่างสูงยันตัวกึ่งยืนกึ่งนั่งพึงบนโต๊ะทำงานตัวเอง พลางส่งสายตามองซีอาร์ ตาเป็นประกายแวววาวอย่างชัดเจน เมื่อเขาเองก็ไม่ต่างอะไรจากคาเตอร์ที่เจอผู้หญิงสาวโดดเด่นแล้วจะละสายตาออกมาไม่ได้

"เอ่อ..."

ทันทีที่ดวงตาจรดไล่ตามตัวอักษรจนครบทุกตัวแล้ว หญิงสาวกลับรู้สึกอึดอัดใจ ชักสีหน้าตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม เพราะไม่รู้ว่าจะทำได้ตามที่สัญญาจ้างได้ระบุเอาไว้หรือไม่ เมื่อคาเตอร์ยังคงไม่อ่านหรือตอบแชทเธอเลยตอนนี้

"จากที่คุณซีส่งรายงานการเข้าไปคุยกับรางศิธารามา ผมเชื่อว่าคุณซีทำได้ครับ"

เควินรู้ดีว่าคนพี่จะต้องชอบซีอาร์มากๆเช่นเดียวกับเขาเป็นแน่ เพราะรสนิยมของทั้งคู่ไม่ต่างกันเลย ถึงจะอยากได้และเชยชมซีอาร์มากแค่ไหนแต่ทว่าเพื่อแผนการที่ใหญ่กว่าเลยต้องยอมปล่อยเธอไปและจะไม่ล้ำเส้นคนน้องด้วยความต้องการของเขาเอง

"ผมมียาตัวหนึ่งที่อยากให้คุณซีนำไปลองเสนอให้กับรางศิธาราเพิ่มเติม"

เอกสารเสนอขายยาถูกยื่นตรงไปยังด้านหน้าของซีอาร์ในทันใด เมื่อจุดประสงค์หลักไม่ได้แค่ต้องการขายยาตัวอื่นๆในบริษัทให้รางศิธาราอย่างเดียว เควินต้องการขายตัวยาสำคัญที่คาเตอร์พยายามห้ามไม่ให้เล็ดลอดแพร่กระจายออกสู่สังคมภายนอกในช่วงเวลานี้

"B-rich!!"

"ใช่ครับ!! B-rich เป็นยาตัวใหม่ที่เรานำสารประกอบสำคัญเข้ามาจากอังกฤษ"

คนน้องที่ได้ยินชื่อยาหูผึ่งขึ้นมาในทันที เพราะมันคือยาตัวเดียวกับที่เธอกำลังตามหาหลักฐานสำคัญของสารประกอบเพื่อเอาผิดไบโอฟรีม นิ้วเรียวจึงรีบคว้าเอกสารขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เร่งมือเปิดตรงเข้าไปอ่านในส่วนประกอบของยาอย่างรวดเร็ว แต่ต้องชะงักนิ่งเมื่อมันไม่มีรายละเอียดชื่อของสารประกอบสักตัวอยู่ในนี้

"ไม่มีส่วนประกอบของยาตัวนี้เลยหรอค่ะคุณเควิน!!"

"ผมยังไม่อยากให้ส่วนประกอบของตัวยาถูกเผยแพร่ออกไปมากกว่าในบริษัทของเราครับ"

คำตอบของเควินทำให้ซีอาร์นั่งนิ่ง เพราะเธอค่อนข้างมั่นใจว่ายาตัวนี้คือตัวเดียวกันที่เธอกำลังตามหาหลักฐานอยู่

"คุณซีลองนำเสนอในรูปแบบของการออกฤทธิ์และโฟกัสที่ประโยชน์ของยาที่จะช่วยคนไข้โรคหัวใจดีกว่า"

"…"

"ได้มั้ยครับ?"

ใบหน้าหวานครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆ ราวกับว่ากำลังสงสัยอะไรบางอย่างในตัวยาทำให้เควินถึงกลับต้องหันมาจ้องมองหน้าเธอด้วยความแปลกใจใกล้ๆอีกครั้ง

"เอ่อ…ได้ค่ะ!! ซีจะพยายาม"

นิ้วเรียวเล็กรีบคว้าปากกาขึ้นมาเซ็นลงชื่อในเอกสารสัญญาในทันที เมื่อโอกาสมาถึงแล้วและเธอตัดสินใจดีแล้ว พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หลักฐานของตัวยา B-rich มาให้ไว้ที่สุดก่อนที่เธอจะตกไปเป็นของเล่นของใครคนใดคนหนึ่งระหว่างเจ้านายอย่างเควินหรือลูกค้าอย่างคาเตอร์

"ดีมากครับคนสวย ทำให้เต็มที่นะครับ แล้วคุณซีจะได้ในสิ่งที่ต้องการ"

"งั้นซีขอตัวกลับก่อนนะคะ"

ร่างเล็กรีบลุกจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นสายตาของเควินกำลังมองมาทางเธออย่างหื่นกระหาย ซึ่งไม่ต่างอะไรจากสายตาและท่าทางของคาเตอร์เลยสักนิดเดียว

บนรถ

ดวงตากลมคอยจดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือ เมื่อซีอาร์เปิดดูข้อความไลน์ที่ตัวเองได้ส่งสติกเกอร์ไปแต่คาเตอร์ยังคงเงียบ ไม่เปิดอ่านไลน์เธอเช่นเคยทำให้หญิงสาวเริ่มเดาทางไม่ถูกไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคาเตอร์คิดอะไรอยู่กันแน่

"จะโทรหาเขาเลยดีมั้ยนะ ไม่ได้!! เผื่อเขาติดธุระจริงๆ มันจะน่าเกลียดไป"

ต่อให้รู้ว่าเขาคิดยังไง ซีอาร์กลับก็ทำอะไรไม่ได้ จึงเลือกที่จะขับรถกลับไปตั้งหลัก เพื่อว่างแผนเข้าหาเขาใหม่อีกครั้ง

"แต่ถ้าเขาไม่ตอบกลับมาละ?"

"เอางี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราเข้าไปหาที่โรงพยาบาลอีกรอบดีมั้ยนะ"

ความกระวนกระวายมากมายตรงเข้ามาในความคิด ยิ่งทำให้ซีอาร์ไม่มีสมาธิขับรถต่อ เธอรีบเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นเพื่อไปให้ถึงบ้านเร็วที่สุด

"เอาละยัยซี นิ่งๆไว้ พรุ่งนี้ค่อยไปเจอเขาที่โรงพยาบาลแล้วกัน"

เมื่อไม่มีทางเลือกทันทีที่ถึงบ้าน เธอรีบตรงดิ่งเข้ามาในครัว พร้อมกับรื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทำขนมทุกอย่างออกมา เพื่อทำขนมคุกกี้ง่ายๆไว้เป็นของขวัญให้กับเขาในวันพรุ่งนี้

เช้าวันต่อมา

โรงพยาบาลรางศิธารา

"สวัสดีค่ะคุณคิง วันนี้คุณหมอคาเตอร์อยู่ในห้องมั้ยค่ะ?"

ร่างเล็กอรชรเดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานเลขาส่วนตัวของคาเตอร์ เธอส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเอ่ยทักทายพร้อมยกนิ้วเรียวเล็กขึ้นไหว้ชายวัยกลางคนที่อายุมากกว่าเธอเป็นเท่าตัว

"สวัสดีครับคุณซี คุณหมอคาเตอร์อยู่ในห้องครับ ให้ผมแจ้งว่าคุณซีอาร์มาขอพบนะครับ"

"ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ"

ใบหน้าสวยหวานพยักหน้าส่งยิ้มให้เลขา ก่อนที่คิงจะเดินตรงไปยังห้องทำงานของคาเตอร์ในเวลาต่อมา

ในห้องทำงาน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"เชิญครับ"

"คุณหมอคาเตอร์ครับ คุณซีอาร์มาขอพบ"

เมื่อได้ยินชื่อของหญิงสาวที่เขาปรารถนา คาเตอร์ที่กำลังก้มเซ็นเอกสารอยู่บนโต๊ะถึงกลับหยุดชะงักทุกอย่างลงกะทันหันด้วยความดีใจและตื่นเต้นอยู่เต็มอก  แต่ต้องทำเป็นตีหน้านิ่งปรายตามองเลขาคนสนิทเพียงแค่ห่างตาเดียว ก่อนจะตอบคิงออกไป

"ผมยังไม่สะดวกครับ!!"

"ได้ครับ เดี๋ยวผมบอกคุณซีอาร์กลับไปก่อนนะครับ"

"ผมแค่บอกว่าผมไม่สะดวกตอนนี้ ให้เขารอไปก่อน"

ถึงจะอยากแกล้งซีอาร์แต่ในใจไม่ได้อยากให้เธอกลับเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าให้เลขาออกไปบอกเธอแบบนั้นมีหวังเขาคงอกแตกตายเสียก่อนได้เจอหน้าเธอแน่ๆ

"อ๋อได้ครับ!!"

แผ่นหลังของคิงลับสายตาออกไปจากห้อง เรียวปากหยักเอาแต่อมยิ้มกริ่ม เมื่อภายในใจดีใจแทบคลั่งตายที่ซีอาร์มาหาเขา แต่ต้องทำเป็นเล่นตัว เมื่อคิดอยากจะแกล้งเด็กนิสัยไม่ดีที่ชอบทำให้เขากระวนกระวายใจต้องมารอข้อความจากเธอนานตั้งหลายวัน

นอกห้องทำงาน

"คุณซีอาร์ครับ คุณหมอคาเตอร์ยังไม่สะดวกตอนนี้ คุณรอก่อนได้มั้ยครับ?"

"อ๋อได้ค่ะ ซีรอได้ค่ะ!!"

ต่อให้เธอต้องรอเขาเป็นครึ่งค่อนวัน ซีอาร์ก็คงต้องรอ ในเมื่อตัวเองแบกความตั้งใจมาแล้วจะได้เจอเขาสักที เธอจึงทรุดตัวนั่งรอคาเตอร์อยู่หน้าห้องจนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง เขายังคงเงียบไม่ออกมาเสียทีจนน่าแปลกใจ เมื่อมันใกล้เที่ยงวันเข้าไปแทบทุกที ในครานี้

ดวงตากลมยังค่อยชะเง้อมองบานประตูซ้ำไปซ้ำมา อย่างใจจดใจจ่อ ไม่ว่าจะยกมือถือขึ้นมากดเล่นไปพลางๆก็ไร้เงาของคาเตอร์เช่นเคย ต่างจากคนพี่ที่เอาแต่จ้องมองทุกอิริยาบถของเธอผ่านกล้องวงจรปิดในมือถือ พร้อมกับอมยิ้มกรุ้มกริ่มตาหวานเยิ้มราวกับคนเมากัญชา สะใจและเอ็นดูคนน้องไปในตัว แม้จะอยากออกไปดึงเธอเข้ามากอดมากแค่ไหน แต่ก็น้องหักห้ามใจตัวเองเอาไว้เพื่อดัดนิสัยเธอบ้าง

"เอ่อ คุณคิงค่ะ"

"รอสักครู่นะครับ"

ดวงตากลมจ้องมองเห็นเลขากำลังจะเดินเข้าไปในห้องของคาเตอร์ เธอรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ในทันที  แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรออกไป คิงกลับเบรกเอาไว้เดินหายเข้าไปในห้องของผู้เป็นนายนานเกือบ 10 นาที

ร่างเล็กทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาอีกครั้ง แต่ทว่ากลับยังไม่ทันที่ก้นงอนจะติดแนบชิดกับโซฟาได้สนิทต้องร้อนรนลุกพรวดขึ้น เมื่อดวงตากลมมองเห็นร่างใหญ่เดินออกมาจากห้องพร้อมกับเลขาคนสนิท

"สะ สวัสดีค่ะคุณหมอคาเตอร์!!"

คนน้องฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่เจอเขาเสียทีหลังจากที่นั่งรอมานาน 2 ชั่วโมงกว่า แต่ทว่าเรียวปากอวบอิ่มต้องหุบยิ้มลงในทันใดเมื่อเห็นคนพี่ตึงหน้านิ่งใส่เธอราวกับว่าเขาไม่เคยรู้จักกันมากก่อน 

"คือเรื่อง…"

"พี่ไม่สะดวกคุยตอนนี้ ถ้าอยากคุยกับพี่ไปเจอที่เพนท์เฮ้าส์ตอน 2 ทุ่มของวันนี้นะครับ"

"เอ่อ!! ซีไม่..."

"ถ้าซีไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ พี่จะได้พิจารณายาของบริษัทอื่นแทน"

พูดจบร่างใหญ่รีบตึงหน้าบึ้งตึงปรายตามองมาทางซีอาร์อีกครั้งก้าวขายาวเดินหนีเธอไปทิ้งไว้เพียงแค่ความมึนงงสงสัยของดีเทลสาวที่ยืนอึ้งอยู่หน้าห้องทำงาน

"นี่เขาไม่พอใจอะไรฉันวะเนี่ย?"

ยิ่งเห็นท่าทางและคำพูดของเขาที่แสดงออกมา ยิ่งทำให้ซีอาร์สงสัยว่าตนเองทำอะไรผิดไป คาเตอร์ถึงทำตัวเฉยชากับเธอแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้แทบจะสิงตัวกันอยู่แล้ว

"เพนท์เฮ้าส์งั้นเหรอ?"

"ถ้าฉันไปฉิบหายแน่ๆ ไม่อะๆ ฉันไม่ไป"

เมื่อแบกความหวังและกำลังใจมาเพื่อคุยกับเขาเรื่องข้อตกลงและซื้อยาจากไบโอฟาเสียที แต่พอหมอหนุ่มให้ไปเจอที่เพนท์เฮ้าส์ ซีอาร์กลับถอดใจ ไม่ขอทำตามข้อตกลงที่เขาเสนอมาให้ เธอรีบแขวนถุงขนมคุกกี้ไว้หน้าประตูห้อง ก่อนจะรีบขับรถกลับบ้านเพื่อวางแผนเข้าใกล้ไบโอฟรีมใหม่อีกครั้ง โดยไม่อยากจะสนใจหมากตัวนี้อีกแล้วในแผนการนี้

บ้านซีอาร์

"เอ๊ะ!! รถตู้พี่แซนนิ"

ทันทีที่รถอีโคคาร์ตรงรอดพ้นประตูรั้วบ้านเข้ามา ดวงตากลมกลับสอดส่องมองเห็นรถตู้ที่มีไว้ขนของของแซนดี้จอดเทียบท่าอยู่หน้าบ้าน ซีอาร์ถึงกับแปลกใจเพราะปกติแล้วรถคันนี้จะจอดอยู่ที่บ้านหลังใหม่ของพี่สาวและพี่เขย แต่วันนี้กลับมาจอดไว้ที่บ้านของเธอกับแม่แทน

เพล้ง!!

"อึก ฮือๆ"

เมื่อประตูรถคันเล็กถูกเปิดออกเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงแก้วตกกระทบพื้นบ้านดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจของพี่สาว

"แม่!! พี่แซน!!"

ร่างเล็กรีบวิ่งตาลีตาเหลือกลงจากรถและตรงเข้ามาในบ้านในทันใด กลับต้องตกใจเมื่อสิ่งที่เห็นคือเศษแก้วของขวดเหล้าแตกกระจัดกระจายเต็มพื้น ไม่ห่างจากร่างของแซนดี้ที่กำลังนั่งร้องห่มร้องไห้อยู่เช่นเดียวกัน

"เกิดอะไรขึ้นอะ?"

ไร้เสียงตอบกลับจากผู้เป็นแม่ เพียงแต่สกาวใจเร่งย่อตัวลงเพื่อเก็บเศษแก้วที่แตกกระจัดกระจายเต็มพื้น เพื่อเป็นคำตอบให้กับลูกสาวแทน

"แม่อย่าจับเดี๋ยวบาดมือให้พี่ก้านมาเก็บดีกว่า พี่ก้าน พี่ก้านค่ะ"

ร่างเล็กพยายามร้องเรียกชื่อสาวใช้ที่อยู่ด้วยกันกับเธอมาตั้งแต่เล็กๆเพื่อให้มาเก็บเศษแก้ว แต่ทว่ากลับไร้ซึ่งเงาของสาวใช้คนสนิท มีเพียงแต่ความว่างเปล่าอย่างน่าแปลกใจ

"ซีไม่ต้อง!!"

"ไม่ได้แม่ ให้พี่ก้านเก็บเถอะ พี่ก้านชำนาญมากกว่า"

"ก้านไม่อยู่แล้ว"

"อึก อือๆ"

สิ้นเสียงของผู้เป็นแม่ แซนดี้กลับปล่อยโฮออกมาเสียงดังลั่นห้องโถงอีกครั้งด้วยความเจ็บปวด ที่ทุกๆอย่างมันเป็นเพราะเธอที่บริหารจัดการเงินไม่ดีพอ

"แม่ให้ทุกคนออกจากงานหมดแล้วลูก อึก อือๆ"

"หมายความว่ายังไง?"

"ลูกค้ายกเลิกยาจากบริษัทกันเกือบจะหมดแล้วซี เงินหมุนเวียนก็ไม่มี พี่ไม่เหลืออะไรแล้ว บริษัทที่พี่สร้างมากับมือกำลังจะล้มละลาย อึก ฮือๆ"

แซนดี้พยายามพูดให้ได้ใจความมากที่สุดในขณะที่ร้องห่มร้องไห้เสียงสั่นเครืออยู่ที่พื้นห้องโถงรับแขก ยิ่งทำให้หัวใจทั้งดวงของคนน้องเต้นสั่นเครือไปด้วยความรู้สึกสงสารพี่สาวและเจ็บปวดที่ไม่สามารถช่วยอะไรไซโอฟาได้ทันเวลา

"พี่แซน!!"

"พี่เอาบ้านหลังนั้นเข้าจำนองกับธนาคาร เพื่อเอาเงินออกมาหมุนจ่ายพนักงานและหนี้ของบริษัท แต่ตอนนี้พี่ไม่ได้จ่ายมาจะสามเดือนแล้ว"

แซนดี้เล่าทุกๆอย่างและทุกๆเรื่องให้น้องสาวและแม่ได้ฟังไปพร้อมๆกัน เพราะตอนนี้เธอไม่สามารถปิดความลับเอาไว้คนเดียวได้อีกต่อไป เมื่อทุกๆอย่างมันอยู่เหนือการควบคุมของเธอ

"แล้วพี่ขุนว่ายังไงบ้างพี่แซน?"

"ไอ้ผัวสารเลว มันจะหย่ากับพี่"

"ห๊ะ!! หย่าเลยเหรอลูก อึก อือๆ"

ยิ่งได้ยินแบบนั้นซีอาร์ถึงกลับชะงัก เมื่อรู้สึกสงสารแซนดี้มากๆในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ ไหนจะเรื่องบริษัท และไหนจะเรื่องครอบครัวอีก เธอไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่ขวดเหล้าจะล้มระเนระนาดเต็มพื้นบ้านขนาดนี้

"หนูรู้ว่ามันมีเมียน้อยมาหลายเดือนแล้วแม่ แต่ที่ยังยื้อกันอยู่เพราะธุรกิจเท่านั้น อึก อือๆ"

"โธ่พี่แซน!!"

ซีอาร์รีบดึงคนพี่เข้ามากอดแน่น ยิ่งเธอมารับรู้ปัญหาในครอบครัวที่แซนดี้ไม่เคยบอกเธอกับแม่แบบนี้ยิ่งทำให้ซีอาร์เครียดหนักกว่าเดิม ทั้งสงสารพี่สาว ทั้งสงสารแม่ที่ต้องมารับรู้เรื่องในช่วงเวลาวิกฤตอย่างนี้ แต่ยังดีที่เธอยังพอมีเงินก้อนอยู่บ้างเอาไว้สำหรับจุนเจือครอบครัวต่อไปในอนาคต หากธุรกิจไปไม่รอดจริงๆคงต้องดึงออกมาใช้เพื่อปิดหนี้ให้กับพี่สาวก่อนที่ดอกเบี้ยจะบานท่วมหัวแบบนี้

Talk 

พ่อต้องแอบดูดกัญชามาแน่ๆ5555 เล่นตัวแต่พอดีนะพ่อ ยัยร้องเตลิดแล้วนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel