ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
ห้องนอนซีอาร์
ร่างเล็กนั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือ จ้องมองข้อความไลน์ที่พิมพ์ค้างไว้ในไลน์ของคาเตอร์ เพื่อชั่งใจที่จะกดส่งไปหาเขา แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาของพี่สาวและแม่ ทำให้เธอตัดสินใจกดส่งข้อความไปในทันที
Line : Cater
C-R : "เจอกันที่เพนท์เฮ้าส์ ตอน 20.00น.ค่ะ"
เมื่อตัดสินใจส่งไปแล้วเธอไม่ได้คิดจะเปิดมันดูอีกเลย ได้แต่นั่งซึม ปลดปล่อยหยดน้ำตาไหลพรากลงมาอาบแก้มด้วยความรู้สึกผิดที่ทำอะไรเพื่อครอบครัวไม่ได้สักอย่าง
"พอแล้วซีอาร์ ไม่มีเวลาให้ท้อและเสียใจอีกแล้วนะเว้ย"
นิ้วเรียวรีบเช็ดหยดน้ำตาออก ไขว่คว้าเอกสารข้อมูลของยาตัวใหม่มาศึกษาอย่างละเอียด ก่อนจะไปคุยกับคาเตอร์ในค่ำคืนนี้
"มันไม่มีส่วนประกอบแล้วฉันจะอธิบายกับหมอคาเตอร์ว่ายังไงดีเนี่ย"
"เฮ้อ!! งานหยาบยิ่งกว่าหยาบอีก!!"
เอกสารถูกม้วนเข้าหากันเป็นลอนยาว พลางกระหน่ำตีลงที่ศีรษะของตัวเองด้วยความเหนื่อยหน่าย และเซ็งสุดชีวิตเมื่อสิ่งกำลังจะทำไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
โรงพยาบาลรางศิธารา
ติ่ง!!
ดวงตาคู่คมจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองที่กลับเข้าห้องมาไม่เจอคนน้องยืนอยู่หน้าห้องเช่นเคย แต่ทว่าเมื่อเสียงข้อความไลน์มือถือดังแทรกขึ้นภายในห้องที่เงียบสงบ ใบหน้าหล่อกลับเผยรอยยิ้มกริ่มออกมาในทันทีที่รู้ว่ามันคือข้อความจากซีอาร์
"หึ!! พี่รู้ว่ายังไงแล้วซีก็ต้องยอมพี่อยู่แล้วคนสวย"
แม้จะเปิดอ่านข้อความ แต่เขากลับเลือกที่จะไม่ตอบกลับเธอไป ได้แต่นั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่ในห้องคนเดียว เมื่อคิดเรื่องราวบางอย่างของเธออยู่ภายในใจ
เวลา 20.00 นาที
เพนท์เฮ้าส์คาเตอร์
รถยนต์คันเล็กกะทัดรัดเคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังลานจอดรถของเพนท์เฮ้าส์ตามตำแหน่งที่คาเตอร์เคยส่งให้เธอ หญิงสาวนั่งหายใจทิ้งอยู่เกือบ 5 นาทีเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ตัวเองสู้ต่อไป นิ้วเรียวยาวจึงรีบเปิดกระจกลงมาจ้องมองหน้าตาของตัวเองที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเบาบาง เร่งจัดแต่งทรงผมให้เข้าที่ดูดีไว้ก่อน ก่อนจะคว้ามือถือและกระเป๋าเอกสารเดินลงจากรถตรงเข้าไปยังล็อบบี้ในเวลาต่อมา
ติ่ง!!
ประตูลิฟต์เปิดกว้างออกปรากฏร่างของใครบางคนเดินตรงออกมาพร้อมๆกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า ราวกับว่าเรื่องราวบึ้งตึงและเมินเฉยเธอไม่เคยเกิดขึ้นจริง
"สะ สวัสดีตอนเย็นคะคุณหมอคาเตอร์"
"พี่ดีใจนะครับที่ซีมา"
รอยยิ้มบางๆส่งให้เขาเพียงแค่ชั่วขณะ เธอรีบเบือนสายตาหนีไปอีกทางเมื่อดวงตาคู่นั้นเอาแต่จ้องหน้าเธอจนรู้สึกถึงความอึดอัดใจ
"ขึ้นไปคุยกันข้างบนดีกว่าครับ"
คาเตอร์รีบคว้ากระเป๋าเอกสารของคนน้องมาถือเอาไว้ในมือ เร่งเท้าเดินนำหน้าคนน้องไปด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง ต่างจากเธอที่ไม่อยากจะเข้ามาเหยียบที่นี่เลยด้วยซ้ำ
'ฉันจะต้องยอมเขาจริงๆ เหรอเนี่ย'
คำถามมากมายดังแทรกขึ้นภายในใจ แม้จะไม่เต็มใจที่จะมาแต่ทว่าซีอาร์ไม่มีทางเลือกไปมากกว่านี้แล้ว ได้แต่จำใจเดินตามเขาเข้าไปในตัวลิฟต์อย่างว่าง่าย
ชั้น 10
"เข้ามาสิครับ"
ประตูห้องถูกเปิดออกกว้างมากขึ้น หลังจากเขาและเธอเดินพ้นออกมาจากประตูลิฟต์มา เธอยังคงยืนด้านนอกของห้องโถงรับแขกกวาดสายตามองสำรวจเข้าไปภายในห้องเพื่อหาทางหนีทีไล่ ก่อนจะสะดุ้งตัวเมื่อเสียงของคาเตอร์ดังแทรกเข้ามาภายในจิตใจของเธอ
"ค่ะ!!"
'เอาวะ ยัยซีเพื่อครอบครัว'
ความคิดดังกึกก้องภายในใจ หญิงสาวรีบก้าวขาเรียวยาวเข้ามาหยุดอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก ก่อนจะยกมือขึ้นรับแก้วน้ำส้มจากคาเตอร์ด้วยท่าทางหวาดระแวง
"ขอบคุณค่ะ"
ร่างเล็กค่อยๆหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟาตัวหนา ส่งยิ้มจางๆให้เขาที่ยังคงจ้องมองเธอตาแทบไม่กะพริบอยู่ใกล้ๆกัน
"เอ่อ ซีอยากคุยเรื่องข้อตกลงที่คุณหมอคาเตอร์พูดในวันนั้นค่ะ"
"ครับ!!"
ร่างใหญ่ขยับตัวเข้ามาใกล้คนน้องมากขึ้น คอยจ้องมองสำรวจใบหน้า ไล่วนไปมาตามซอกคอขาวและเรือนร่างของเธอ พลางอมยิ้มด้วยความพึงพอใจในขณะที่ซีอาร์กำลังเผลอหยิบเอกสารหลายๆ อย่างในกระเป๋าที่วางอยู่บนพื้นผิวโต๊ะ
"เอ่อคือว่าซีจะยอมทำตามเงื่อนไขของคุณหมอคาเตอร์ แต่มันจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของซีด้วยเหมือนกันนะคะ"
"หึ!!"
เสียงเค้นหัวเราะดังเบาบางในลำคอ เมื่อคาเตอร์ไม่คิดว่าเธอจะมามีข้อแม้กับเขาทั้งที่ถือไพ่เหนือกว่า หมอหนุ่มไม่ตอบอะไรออกมาได้แต่จ้องหน้าคนน้องนิ่งๆ จนกระทั่งซีอาร์เริ่มรู้สึกอึดอัดรีบหลบสายตาเขาทันที
"ลองบอกเงื่อนไขของซีมาสิครับ"
"ซีมีแค่เงื่อนไขแค่ข้อเดียวเท่านั้นค่ะ"
ร่างเล็กรีบคว้าเอกสารสัญญาที่ตัวเองร่างขึ้นมายื่นให้คาเตอร์อ่าน ก่อนที่จะกดสายตาคู่กลมนั้นลงต่ำ เพื่อรอฟังคำตอบจากเขา
"สั่งซื้อยาของไบโอฟรีมทุกตัว!!"
รอยยิ้มเบาบางปรากฏบนใบหน้าหล่อคมของคาเตอร์ เมื่อนึกถึงความเจ้าเล่ห์ของซีอาร์ ที่ไม่ยอมเสียผลประโยชน์ง่ายๆถ้าไม่มีข้อแลกเปลี่ยน
"ซีแน่ใจนะครับว่าสามารถยอมรับเงื่อนไขในข้อเสนอของพี่ได้ทุกอย่าง แลกกับแค่ให้พี่ซื้อยาของไบโอฟรีมทั้งหมดนี้"
"เอ่อ…"
ร่างเล็กถึงกลับชะงักนิ่งไปชั่วขณะเมื่อคาเตอร์ถามเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้น เธอยังคงอึกๆอักๆคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะตอบเขาว่ายังไง แต่แล้วภาพของพี่สาวและแม่กลับวนไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำของเธออีกครั้งจนได้
"ความต้องการ...ทุกอย่างของพี่ซีรู้ใช่มั้ยครับว่าหมายถึงอะไรบ้าง?"
"ซีไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามีอะไรบ้างแต่ซีจะพยายามหาทุกอย่างมาให้ถ้าหมอคาเตอร์ต้องการ"
"หึ!!"
คาเตอร์ถึงกับยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับเสียงเค้นขำเบาบางในลำคอที่ได้ยินน้องตอบเขาออกมาแบบนั้น ซึ่งเขาก็รู้ว่ายังไงแล้วซีอาร์ต้องรู้อยู่แล้วว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร แต่เธอแกล้งที่จะพูดเช่นนั้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเขาเสียมากกว่า
"เอาเป็นว่าข้อตกลงของเราได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คุณหมอตกลงมั้ยคะ?"
"ครับ!!"
ท่าทางนิ่งเงียบของคาเตอร์ คลอเคลียกับสายตาที่ยังคงจ้องมองหน้าของเธอที่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่นัก ทำให้หญิงสาวถึงหวาดหวั่นใจเมื่อไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ภายในใจที่เธอไม่รู้ในตอนนี้
"ปากกาค่ะ"
ปากกาถูกยื่นมาจากนิ้วเรียวเล็กตรงมาหาเขา เพื่อให้เซ็นเอกสารสัญญาที่ตัวเองร่างขึ้นมา ซึ่งคาเตอร์ก็ยอมหยิบปากกากับคนน้องมาอย่างว่าง่าย ก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาและจรดปากกาเซ็นลงในกระดาษแทนคำพูดใดๆหลุดออกมา
"เรื่องข้อตกลงของเราเรียบร้อยแล้ว ส่วนอันนี้เป็นยาตัวใหม่ของไบโอฟรีมค่ะ"
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ซีอาร์รีบดึงกระดาษสัญญาออกจากมือของคาเตอร์และยื่นเอกสารรายละเอียดของยาตัวใหม่ให้เขาอย่างรู้งาน
"เป็นยานำเข้าจากอังกฤษ เป็นยากลุ่มต้านเกล็ดเลือด"
ดวงตาคู่คมหันมาจ้องมองยังเอกสารยาตัวใหม่ที่อยู่ในมือของตัวเอง ถึงกลับนั่งนิ่งเมื่อมันคือสิ่งที่เขารู้จักเป็นอย่างดี และเป็นสิ่งที่เขาพยายามห้ามปรามเควินอยู่ตลอดเรื่องการเผยแพร่ออกสู่ตลอดด้านนอก
'B-brich? แกคิดจะใช้ซีหลอกฉันงั้นเหรอ มันจะง่ายเกินไปหน่อยมั้ยน้องชาย'
คาเตอร์จ้องมองเอกสารในมือนิ่งพลางคิดในใจเมื่อเควินให้ซีอาร์เอายาออกมาสู่คนนอกแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เขาคงแพร่ไปในองค์กรอื่นอยู่นอกเหนือกับที่ตกลงกันเอาไว้เป็นแน่
"คุณหมอคาเตอร์ค่ะ"
"ครับ!!"
"ฟังซีอยู่มั้ยค่ะ?"
คาเตอร์รีบหันกลับมาจ้องมองหน้าคนน้องในทันทีที่เธอดึงเข้าหลุดออกจากความคิด ก่อนจะส่งยิ้มให้เธอและค่อยขยับตัวเข้าไปใกล้จนเบียดตัวเธอมากกว่าเดิม
"ตัวหอมจังเลยครับ"
เมื่อรู้อยู่แล้วว่ามันคือยาตัวไหน เขาไม่จำเป็นต้องมานั่งสรรพคุณให้เสียเวลา ค่อยๆยื่นใบหน้าหล่อคมเข้าไปใกล้เธอใช้จมูกคลอเคลียอยู่ข้างใบหู แล้วพวงแก้มคนน้องอยู่อย่างนั้นจนเริ่มทนไม่ไหว เมื่อแก่นกลางลำตัวเริ่มพองขยายขึ้นกะทันหัน
"ส่วนเรื่องใบสั่งซื้อจะให้…"
"ชูวร์!!"
นิ้วยาวค่อยๆเร่งเสยปลายคางเธอขึ้น เพื่อให้ใบหน้าหวานสุดยั่วยวนใจหันมาจ้องมองตาและใบหน้าของเขาเช่นเดียวกัน ก่อนที่คาเตอร์จะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆเธอยิ่งขึ้น
"พี่ไม่อยากคุยเรื่องงานแล้วครับ"
หัวใจดวงน้อยเต้นสั่นเมื่อเสียงที่แหบพร่าของเขาใกล้เธอจนแทบหยุดหายใจ เธอพยายามคิดหาทางออกให้ตัวเอง ในขณะที่ใบหน้าหล่อนั้นเริ่มขยับเขามาใกล้ๆ และกำลังจะจูบลงที่เรียวปากของเธอในอีกไม่ช้า ทว่าซีอาร์พยายามฝืนแรงนิ้วของเขา รีบเบื่อนหน้าหนีไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว
"ซีขอเขาห้องน้ำหน่อยได้มั้ยค่ะ?"
คาเตอร์ถึงกลับต้องลอบถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดที่โดนเธอขัดจังหวะ แม้จะอยากกดเธอลงที่โซฟาซะให้รู้แล้วรู้รอดแต่เขาต้องทำเป็นใจเย็นเข้าไว้ก่อนไก่จะตื่นไปมากกว่านี้ เร่งหันใบหน้าหล่อกลับมายิ้มจางๆให้หญิงสาว พร้อมกับพยักหน้าให้รีบเธอลุกไปเข้าห้องน้ำให้ไวก่อนจะไม่มีโอกาสอีกเลย
ในห้องน้ำ
"ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้นะยัยซี เขายังไม่สั่งซื้อยาสักตัวเลย จะปล่อยให้เขาทำแบบนี้ไม่ได้"
"เอาไงดีเนี่ย!!"
นิ้วเรียวรีบกดชักโครกในห้องน้ำ เพื่อไม่คาเตอร์สงสัยว่าเธอเข้ามาทำอะไรในห้องน้ำ แต่ทว่าเธอกลับรีบหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อกดเสียงเรียกเข้าให้ดังแทรกขึ้น
"ฮัลโหล ว่าไงชมพู"
"ห๊ะอะไรนะ!! ตอนนี้อยู่ที่ไหน?"
ซีอาร์แกล้งทำเป็นว่าเพื่อนโทรเข้ามาพอดี ส่งเสียงพูดดังสนั่นด้วยท่าทางตื่นตกใจให้คาเตอร์ที่นั่งอยู่ข้างนอกได้ยิน ก่อนจะเสแสร้งแกล้งเป็นเล่นละครต่อไปอีกเพื่อหาทางหนีรอดจากเขาไปให้ได้
"โอเค ฉันจะรีบไปตอนนี้เลย"
เธอรีบกุลีกุจอเปิดประตูห้องน้ำออกมา ก้าวขายาวเข้ามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของคาเตอร์ด้วยท่าทางร้อนรน
"เอ่อคุณหมอคาเตอร์ค่ะ!!"
"ครับ!!"
"พอดีเพื่อนเกิดอุบัติเหตุรถชน ซีขออนุญาตตัวกลับไปหาเพื่อนก่อนนะคะ"
ซีอาร์แกล้งทำเป็นตกอกตกใจ เพื่อให้สมจริงมากที่สุด ก่อนจะรีบคว้าเอกสารและกระเป๋าทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะมากอดกุมเอาไว้แน่น
"อ๋อ!!"
"ส่วนเรื่องยา เดี๋ยวซีเขียนใบเสนอราคามาให้นะคะ"
"อ๊ะ อ๋อ โอเคครับ ได้ครับ"
แม้จะเสียดายและเสียโอกาสที่จะได้ครอบครองเรือนร่างที่เย้ายวนของเธอ แต่เขาจำใจต้องยอมปล่อยเธอไป เพราะไม่มีข้ออ้างที่จะดึงรั้งเธอเอาไว้ในสถานการณ์แบบนี้ คาเตอร์จึงได้แต่ตอบและพยักหน้าส่งกลับไปให้เธอเพียงแค่นั้น
"เดี๋ยวพี่ไปส่งครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ซีลงไปเองดีกว่านะคะ"
ร่างเล็กรีบหอบข้าวของเดินตรงดิ่งออกจากห้องไปด้วยท่าทางร้อนรนสุดๆ แต่มันกลับทำให้คาเตอร์รู้สึกหงุดหงิดจนแทบเก็บอาการไม่อยู่เมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางของเธอที่ดูไม่แคร์ความรู้สึกของเขาเท่าไหร่เลยสักนิดเดียว
"แม่งเอ๊ย!!"
คำหยาบถูกสบถออกมาจากเรียวปากหยักด้วยความโมโห เมื่อเห็นว่าครั้งนี้เขาพลาดไป เมื่อที่ไม่มีใครเคยหลุดมือเขาไปแบบนี้เลยสักคนเดียว
"หึ!! เหลี่ยมเยอะนะครับคนสวย!!"
"แต่ยังไงซะ ซีไม่มีวันหนีพี่ไม่พ้นได้ตลอดหรอกนะ"
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปลดปล่อยออกมาจากใบหน้าหล่อเมื่อสุดท้ายแล้วไม่ว่ายังไงคาเตอร์พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อได้เธอมาครอบครอง
บนรถ
"เฮ้อ!! เกือบแล้วไม่ละโชคดีที่เขาไม่สงสัยอะไรเยอะ เล่นละครเก่งนะเนี่ยเรา"
แม้ภายในใจจะสั่นเครือที่โกหกเขาไปแบบนั้น แต่ยังไม่วายชมตัวเองในกระจกด้วยความรู้สึกโล่งใจ ก่อนจะรีบเร่งเหยียบคันเร่งพุงตัวออกไปนอกลานจอดรถของเพนท์เฮ้าส์อย่างรวดเร็ว
"โทรหายัยชมพูดีกว่า"
นิ้วเรียวรีบกดโทรออกหาเพื่อนสนิท เพื่อระบายความรู้สึกที่เจอมาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ก่อนที่ปลายสายจะรีบกดรับและกรอกเสียงสะดีดสะดิ้งกลับมาพร้อมๆกัน
"ฮัลโหล...เริ่ดปะแก?"
"ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นค่ะ!!"
"เอ้า!! เป็นไปได้ไงยัยซี?"
ชมพูถึงกับถามสวนกลับมาด้วยความเร็วแสง เมื่อรู้ความแพรวพราวของคาเตอร์อยู่แล้ว ถ้าเพื่อนไปถึงรังขนาดนั้นแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นไปไม่ได้จริงๆ
"ก็เกือบแหละ แต่เขายังไม่ได้เซ็นใบสั่งซื้อเลยนะเว้ย"
"ว๊ายยยย!!"
"ฉันยื่นข้อเสนอไป เขาก็ได้แต่ยิ้มและก็ใช้สายตาสุดจะกรุ้มกริ่มนั้นมองที่ฉัน อึดอัดจนแทบจะมุดพื้นหนีซะให้รู้แล้วรู้รอดแล้วเนี่ย"
ซีอาร์ยังคงบ่นพึมพำถึงสายตาสุดยั่วยวนของเขา ที่เอาแต่มองเธอตั้งแต่เจอกันจนกระทั่งหลุดออกมาได้ในครั้งนี้
"แต่เขายอมรับข้อเสนอของแกอยู่ใช่ปะ?"
"เขาเล่นตัวมาก!!"
"ก็แหงละสิ!! นั้นมันตัวพ่อเลยนะเว้ย"
ชมพูกระแทกเสียงกลับมาด้วยท่าทางสุดแสนจะหมั่นไส้คาเตอร์ เมื่อความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเขาไม่เป็นสองรองจากใคร
"เฮ้อ!!"
"เฮ้ยว่าแต่แกหลุดรอดออกมาได้ยังไง?"
คำถามของชมพูทำให้ซีอาร์ถึงกับหัวเราะดังลั่นรถออกมากะทันหัน เมื่อมันเป็นเหตุผลเดียวที่เธอโทรหาชมพูในครั้งนี้
"ฉันโกหกว่าเกิดเกิดอุบัติเหตุอ่ะ"
"ว๊ายย!! ยัยซี!! บ้ามากๆ แช่งฉันได้ไงเนี่ย!!"
"ขอโทษ ขอโทษชมพู แต่มันจะช่วยยื้อเวลาให้ฉันได้เตรียมเอกสารสั่งซื้อได้ทันนะเว้ย"
ครั้งนี้ถือว่าเธอยังโชคดีที่รอดออกมาได้ทันเวลา แต่ทว่าครั้งหน้าไม่รู้ว่าซีอาร์จะหาวิธีไหนยื้อเวลาออกไปได้อีก ถ้าเขายังคงเล่นตัวยังไม่เซ็นเอกสารสั่งซื้อสักที
"แล้วทำไมไม่เอาไปด้วย?"
"ก็เขายังไม่ได้รับปากว่าจะสั่งซื้อกับฉันเลยนิ"
"เฮ้อ!! อย่ายืดเยื้อให้มันมากนักนะยัยซี เดียวถ้าเขาเทแกเมื่อไหร่แกจะไม่เหลืออะไรเลยนะเว้ย"
ชมพูเตือนซีอาร์อีกครั้งด้วยความเป็นห่วง เพื่อให้เพื่อนระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ และจะทำอะไรความรีบทำก่อนที่จะหมดโอกาสไปโดยปริยาย
"เออรู้แล้วน่า แต่จะให้ฉันยอมเขาง่ายๆโดยไม่ได้อะไรเลย ฉันก็ทำไม่ได้เหมือนกันปะวะ"
"เอาละต่อไปนี้อะนะ แกต้องทำให้เขาหลงแกหัวปักหัวปำหัวคะมำจนโง่หัวไม่ขึ้นเลยนะ แกถึงจะ…"
"ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้วไม่ต้องย้ำน่า"
ถึงแม้จะรู้ในความหมายของชมพูดี แต่ทว่าเธอกลับคิดไม่ออกไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเพื่อมัดใจคาเตอร์ให้หลงรักเธอหัวปักหัวปำอย่างที่เพื่อนพยายามเสี้ยมสอน เพราะความจริงแล้วเธอยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาขนาดนั้นทุกอย่างเลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่นัก
Talk
หวังจะเคลมน้องแต่น้องแผนสูงกว่า55555 ใจเย็นๆนะพ่อ อดเปรี้ยวไว้กินเปรี้ยวจี๊ดอีกทีหนึ่ง
