EP.3 การกลับมา(1)
ลลิตาเดินเข้ามาในคฤหาสน์กฤติเดชในรุ่งเช้าของวันใหม่ ด้วยความร้อนใจพร้อมกับจารวีที่ออกมารับเธอถึงหน้าประตูพอเธอเจอกับแม่ก็เข้าไปสวมกอดอย่างคนที่ต้องการให้กำลังใจ สีหน้าของแม่ตอนนี้ดูไม่โอเคเอามากๆ
" แม่โอเคไหมคะ "
ลลิตาถามมารดาเพราะในตอนนี้แม่ของเธอดูซูบผอมลงไปมาก เธอเจอแม่ครั้งล่าสุดก็เห็นจะเป็น 2 เดือนที่แล้วที่ออกไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน ในตอนนั้นแม่ของเธอยังดูสดใสมากกว่านี้
" ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เลยลูก เราเข้าไปข้างในกันเถอะตอนนี้คุณพายุรอเราแล้ว "
จารวีบอกกับลูกสาวพร้อมกับจะจูงมือเธอเข้าไปข้างในแต่ลลิตารั้งแขนของแม่เอาไว้เสียก่อน
" แม่คะแล้ว..... "
ลลิตาละไว้ในฐานที่เข้าใจซึ่งจารวีก็เข้าใจดีจึงตอบออกไปเพื่อให้ลูกสาวสบายใจ
" คุณลมเหนือไปเคลียร์งานที่บริษัทของแม่เขาที่ต่างประเทศตั้งแต่ 2 วันที่แล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่เพราะทางโน้นก็มีปัญหาหนักเหมือนกัน "
จารวีบอกกับลูกสาวเพราะเธอได้ยินข่าวแว่วๆมาว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของคุณมาเรียแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วของคุณลมเหนือมีการคอรัปชั่นการเกิดขึ้น ลมเหนือจึงต้องบินด่วนไปที่นู่น นั่นจึงทำให้ลลิตารู้สึกโล่งใจขึ้นมามากขึ้น
" งั้นเรารีบไปกันเถอะค่ะแม่ "
ทั้งสองคนเข้ามาในตัวบ้านของคฤหาสน์กฤติเดช ความรู้สึกเดิมๆของลลิตาฉายชัดเข้ามา ก่อนหน้านี้เธอมีแต่ความทรงจำที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักกับที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังฝืนตัวเองไปจนถึงห้องรับแขกซึ่งตอนนี้มีคุณพายุนั่งรออยู่แล้วในสภาพที่ทั้งผอมและโทรมมากรวมถึงผิวพรรณที่ดูจะหม่นหมองลงไปมาก
" สวัสดีค่ะคุณท่าน "
ลลิตายกมือไหว้เจ้าของบ้านอย่างนอบน้อม
" ฉันบอกแล้วไงว่าให้เรียกฉันว่าพ่อ "
พายุบอกกับหญิงสาวเพราะเขาเอ็นดูลลิตาเหมือนลูก จารวีเป็นคนดีที่สำคัญยังเลี้ยงลลิตาออกมาให้เป็นเด็กดีอีกต่างหาก แม้ว่าเธอจะแก่นเซี้ยวและทันคนแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีจิตใจที่อ่อนโยนที่สำคัญทั้งสองแม่ลูกไม่เคยต้องการเงินทองจากเขาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเขาเองก็พิสูจน์มาตั้งหลายต่อหลายครั้งแล้ว
" อย่าดีกว่าค่ะ วันใหม่เกรงใจคุณท่าน "
ลลิตาตอบปฏิเสธไปซึ่งพายุก็เจอกับคำปฏิเสธแบบนี้ทุกครั้งจึงได้แต่ส่ายหน้า
" หนูคงรู้จากแม่มาแล้วว่าฉันเป็นมะเร็งและจะอยู่อีกได้ไม่เกิน 3 เดือน "
พอพายุพูดจบลลิตาก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าเรื่องทุกอย่างมันจะเร็วขนาดนี้ คนที่ดูแข็งแรงเอามากๆอย่างคุณพายุโหมงานหนักทุกวันไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย แล้วอยู่ๆพอล้มป่วยก็เป็นหนักเลยเธอจึงใจหาย
" มันน่าจะยังมีทางรักษาอยู่นะคะ หมอสมัยนี้เก่งมากๆลองไปปรึกษาหมอที่ต่างประเทศดูไหมคะ "
ลลิตาเสนอทางเลือก แม้ว่าจะไม่ทำให้หายขาดแต่วิวัฒนาการการรักษาของทุกวันนี้มันก็ทำให้คนไข้สามารถอยู่ได้นานขึ้นถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
" ฉันไม่อยากไปไหนแล้วล่ะ อยากใช้เวลาที่เหลืออยู่อยู่กับลูกหลานให้ได้มากที่สุด ฉันมันแก่แล้วใช้ชีวิตมาก็คุ้มแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกฉันยังมีเรื่องที่ค้างคาอยู่แค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นเอง และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของเธอวันใหม่ "
เมื่อพายุพูดจบลลิตาก็ถึงกับคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ
" ฉันอยากให้เธอกลับมาอยู่ที่นี่ด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ฉันจะจากไปจะได้ไหม "
พายุเอ่ยในสิ่งที่ต้องการออกไปแต่ลลิตากลับทำหน้าลำบากใจ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียวด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ผู้มีพระคุณที่ส่งเสียเธอเรียนจนจบกำลังขอในสิ่งที่เธอสามารถทำให้ได้เพียงแค่เธอไม่อยากทำเท่านั้น แต่ถ้าเธอไม่ทำเธอก็จะกลายเป็นคนอกตัญญูเกินไป ในเมื่อสิ่งที่ท่านขอก็ไม่ได้มากมายอะไรลลิตาถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างไม่ปิดบัง
" กลับมาอยู่ดูแลคุณท่านด้วยกันนะลูก ตอบแทนบุญคุณที่ท่านอุตส่าห์เลี้ยงเรามา "
จารวีบอกกับลูกสาวเพราะยังไม่ทันที่ลูกสาวเธอจะได้ตอบแทนบุญคุณอะไรเลยคุณพายุก็กำลังจะจากไปเสียก่อน นี่จึงเป็นวิธีเดียวที่ลูกสาวของเธอจะสามารถตอบแทนบุญคุณของท่านได้ในตอนนี้
" ก็ได้ค่ะ หนูจะกลับมาอยู่ที่นี่ดูแลคุณท่านช่วยแม่เองค่ะ "
ลลิตารับปากด้วยความลำบากใจ แต่ถึงอย่างนั้นคนแบบเธอก็ไม่ใช่คนอกตัญญู ส่วนจารวีและคุณพายุยิ้มออกมาอย่างคนโล่งใจที่สามารถทำให้ลลิตากลับมาอยู่บ้านด้วยกันได้
" ถ้าอย่างนั้นย้ายเข้ามาวันนี้เลยนะลูก เดี๋ยวให้คนที่บ้านไปขนของที่คอนโดมานี่ก็ได้ "
จารวีบอกกับลูกสาวแต่ลลิตากลับปฏิเสธ
" เดี๋ยวช่วงเย็นหนูไปเก็บของเองก็ได้ค่ะแม่ "
" เอาอย่างนั้นก็ได้ลูก "
" ลุงมีเรื่องจะขอร้องอีกอย่างนึงคือเรื่องนี้เจ้าเหนือยังไม่รู้และลุงก็ไม่ได้อยากให้ลูกชายของลุงมารับรู้เรื่องนี้ด้วย เพราะฉะนั้นลุงจะขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้ไหม ลูกอยากให้ลูกชายของลุงจดจำแต่ช่วงเวลาที่มีความสุขด้วยกันดีกว่า "
พายุขอร้องหญิงสาวอย่างลลิตาและเธอก็ตกลงแต่โดยดีและก็นั่นแหละเรื่องที่เธอกังวลเสมอมาก็คือเรื่องของผู้ชายที่ชื่อลมเหนือ เขาคือผู้ชายคนเดียวที่เธอต้องการอยู่ให้ห่างมากที่สุด จะผิดไหมที่เธอใช้คำว่าเกลียดทุกอย่างที่เป็นเขา สำหรับเธอเขาคือซาตาน
" หนูช่วยเซ็นต์ตรงนี้ให้ลุงหน่อยได้ไหม คุณด้วยนะจารวี "
คุณพายุยื่นเพียงกระดาษเปล่ามาให้พร้อมกับให้ลลิตาและจารวีเซ็นต์ชื่อลงไป
" นี่มันกระดาษเปล่านี่คะคุณลุง ให้พวกเราเซ็นต์ทำไมหรอคะ "
ลลิตาถามอย่างสงสัย
" เซ็นต์ไปเถอะหนู รับรองว่าลุงจะไม่ทำให้หนูเสียหายเด็ดขาด เชื่อใจลุงไหม "
เมื่อโดนยิงคำถามแบบนั้นมาลลิตากับจารวีก็ไม่มีทางเลือกจึงได้แต่เซ็นต์ลายเซ็นต์ลงไปในกระดาษเปล่านั้น
" เรียกทนายมาหาลุงด้วยนะ ลุงอยากจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย "
ลลิตาและจารวีที่ได้ฟังเช่นนั้นก็เข้าใจ คุณท่านคงอยากให้เธอทั้งสองคนเซ็นต์เป็นพยานที่จะยกมรดกให้กับลูกชายของเขานั่นแหละ ลลิตาจึงรับปากและจัดการเรียกทนายให้มาที่บ้านพร้อมกับทนายที่เมื่อมาถึงแล้วก็เข้าไปคุยกับคุณพายุเพียงแค่ 2 คนส่วนเธอกับแม่ก็มาดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านข้างล่างแทน
