บทที่ 8
“เจ้าไม่ต้องกลัวนะเสี่ยวม่าน เจ้าอยู่ที่นี่ไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้ และถ้าหากว่าเจ้าอยากแก้แค้นอาก็จะช่วยเจ้าเอง”
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านอาข้าโชคดีเหลือเกินที่วันนี้ได้เจอกับท่าน”
ใบหน้างามของหลี่เสี่ยวม่านฉายรอยยิ้มแรกที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจที่ได้เจอกับหญิงวัยกลางคนผู้นี้ เธอคิดไว้ไม่มีผิดเหยียนฮุ่ยอินคนนี้เป็นขอนไม้ล้ำค่าที่ลอยมาเพื่อช่วยเธอเอาไว้
หลังจากตัดสิใจดีแล้วดวงตาคู่สวยก็ฉายแววแค้นเคืองอย่างมาดมั่นหมายจะเอาคืนคนที่ฆ่าล้างตระกูลของตน มองตรงไปเบื้องหน้า ก่อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“ข้าอยากล้างแค้นเจ้าค่ะท่านอา”
“ได้สิ ข้าจะช่วยเจ้าวางแผนเอง”
เหยียนฮุ่ยอินยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็วในชั่วกะพริบตา หญิงสาวขอตัวกลับไปแล้ว นัยน์ตาของหญิงวัยกลางคนแปรเปลี่ยนเป็นความล้ำลึกราวมหาสมุทรที่ไม่อาจหยั่งถึงได้
“พ่อบ้านลู่ เตรียมการให้พร้อมล่ะ”
“ขอรับฮูหยิน”
ห้าวันที่ผ่านมาชีวิตในบ้านสกุลเหยียนของหลี่เสี่ยวม่านเป็นไปอย่างราบรื่น จวนสกุลเหยียนแห่งนี้มีเพียงฮูหยินเหยียนและพวกบ่าวเท่านั้นไม่ได้มีคนอื่น ๆ เพราะเหยียนฮุ่ยอินเป็นหญิงม่ายสามีตายในสงคราม ไม่มีบุตรสืบสกุล ด้วยเหตุนี้หญิงวัยกลางคนผู้นี้จึงมีความยินดีมากที่จะให้หลี่เสี่ยวม่านมาอยู่กับตน
หญิงสาวได้รับแจ้งจากพ่อบ้านลู่ว่าในวันพรุ่งนี้ฮูหยินใหญ่สกุลเหยียนให้เธอไปพบเพื่ออธิบายแผนการแก้แค้นท่านอ๋องเหวินอวิ้นเซียนทันทีที่นางกลับมาถึงจวนสกุลเหยียน
“คุณหนูจะเข้าจวนสกุลเหวินไปแก้แค้นท่านอ๋องผู้นั้นจริง ๆ หรือเจ้าคะ”
คล้อยหลังพ่อบ้านลู่ ซูมี่ก็เอ่ยถามผู้เป็นนายของตนที่นั่งช่วยกันจัดการข้าวของที่คนของบ้านสกุลเหยียนไปขนมาจากบ้านสกุลหลี่มาให้
“จริงสิซูมี่ ข้าสัญญากับท่านพ่อไว้แล้วแม้จะแลกด้วยชีวิตข้าก็ยอม”
ซูมี่คิดว่าหากอยู่ที่จวนสกุลเหยียนแบบนี้ก็สบายดีแล้ว เธอก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดคุณหนูของตนจะต้องไปลำบากแก้แค้นอ๋องตาบอดผู้นั้นด้วย แต่เมื่อเห็นความมุ่งมั่นของหญิงสาวแล้วก็ได้แต่สงบปากสงบคำ
“ท่านอา เสี่ยวม่านมาแล้วเจ้าค่ะ”
หลี่เสี่ยวม่านทำความเคารพคนที่ลงจากรถม้า หลังจากที่ออกมายืนรอรับนางที่หน้าประตูจวนสกุลเหยียนกับบรรดาบ่าวสกุลเหยียน
“เสี่ยวม่านอาได้จัดการวางแผนให้เจ้าแล้ว”
“เจ้าค่ะท่านอา”
หญิงสาวต่างวัยทั้งสองคนเดินคุยกันเรื่องแผนการแก้แค้นที่ฮูหยินเหยียนได้เตรียมไว้ให้กับคุณหนูหลี่ ขณะที่พากันเดินตรงไปยังเรือนหลักของสกุลเหยียน โดยมีร่างบางของหลี่เสี่ยวม่านคอยประคองเหยียนฮุ่ยอันไปตลอดทาง
“แต่งงานหรือเจ้าคะ!”
หลี่เสี่ยวม่านเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อได้ยินคนข้างตัวพูดอย่างนั้น เธอคิดไม่ถึงว่าตัวเองนั้นจะต้องแต่งเข้าไปเป็นอนุคนที่ห้าของท่านอ๋องเหวินอวิ้นเซียนหัวใจของเธอก็เกิดเต้นไม่เป็นส่ำขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
“ใช่ หากว่าเจ้านั้นอยากจะใกล้ชิดท่านอ๋องก็ต้องแต่งเข้าไปเป็นอนุ แต่ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องหาทางให้ได้ใกล้ชิดกับท่านอ๋องให้ได้เองเพราะยังมีฮูหยินใหญ่กับอนุคนอื่นที่จะขวางเจ้า”
แววตาของหลี่เสี่ยวม่านเต็มไปด้วยความลังเลเหยียนฮุ่ยอินนิ่งเงียบทิ้งระยะให้คนร่างบางตรงหน้าได้ใช้ความคิด ก่อนที่หลี่เสี่ยวม่านจะตัดสินใจรับคำเพราะคิดไว้แล้วว่าหากเธอเข้าไปเป็นเพียงบ่าวในจวนนั้นคงจะหาโอกาสเข้าใกล้เขาได้ยากยิ่งกว่าการแต่งเข้าไปเป็นอนุเป็นแน่
“ข้าจะแต่งเจ้าค่ะ แล้วข้าต้องทำอย่างไรบ้างหรือเจ้าคะ”
“ดีมาก อาให้พ่อบ้านลู่เตรียมบทเรียนสำหรับเจ้าไว้แล้วล่ะ พรุ่งนี้ก็เริ่มได้เลยส่วนเรื่องแต่งเข้าข้าจะติดต่อทางจวนของเจ้าเมืองเอง”
