บทที่ 9
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านอาที่ช่วยเหลือเสี่ยวม่าน”
น้ำตาร้อน ๆ ของหลี่เสี่ยวม่านคลอเบ้าตากลมโตอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อเห็นว่าอีกคนคอยช่วยเหลือตนขนาดนี้แต่เธอก็พยายามกะพริบตาถี่เอาไว้เพื่อไม่ให้มันไหลออกมา
“เจ้าอย่าได้คิดมากไปเลย ข้าเองก็อยากจะแก้แค้นแทนท่านพี่เหมือนกัน”
เหยียนฮุ่ยอินส่งยิ้มให้อีกคนอย่างใจดี มือคู่นั้นลูบหัวหญิงสาวตรงหน้าอย่างปลอบโยนเพราะเข้าใจหัวอกของหลานสาวเป็นอย่างดี สร้างความอบอุ่นในใจให้หญิงสาวไม่น้อยทีเดียว
หลี่เสี่ยวม่านตั้งใจเตรียมพร้อมกับการแต่งเข้าสกุลเหวินเพื่อเป็นอนุคนที่ห้าของท่านอ๋องเหวินอวิ้นเซียนเป็นอย่างมาก ตามที่พ่อบ้านลู่ได้จัดแจงบทเรียนต่าง ๆ ที่จำเป็นตามที่ฮูหยินเหยียนได้กำชับมาอย่างครบถ้วน เช่นการปักผ้า การทำอาหาร หรือแม้แต่การดูแลคนตาบอด
นอกจากงานแบบนี้แล้วก็ยังมีการใช้มีดสั้นเพิ่มเข้ามาซึ่งเหยียนฮุ่ยอินก็ได้ให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการป้องกันตัวของหลี่เสี่ยวม่านเมื่อเข้าไปอยู่ในจวนของสกุลเหวินนั่นเอง
“คุณหนูหลี่ฝีมือพัฒนารวดเร็วมากขอรับ”
พ่อบ้านลู่มารายงานความคืบหน้าการฝึกเตรียมตัวเข้าจวนสกุลเหวินของหลี่เสี่ยวม่านให้กับเหยียนฮุ่ยอินฮูหยินซึ่งก็สร้างความพึงพอใจให้นางได้เป็นอย่างมาก
“คุณหนูเมื่อยแขนไหมเจ้าคะ”
ซูมี่ที่กำลังจะยกฟูกมาปูนอนที่ข้าง ๆ เตียงของคุณหนูหลี่ถามอีกคนขึ้นมาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่นั่งบนเตียงนั้นบีบนวดแขนตัวเองไม่หยุด หลังจากที่วันนี้หญิงสาวต้องฝึกใช้มีดสั้นเกือบทั้งวัน
“เอาสิ ข้าเมื่อยแขนหมดเลยซูมี่”
เด็กสาวลุกขึ้นเดินมานวดแขนให้คนที่นั่งอยู่เรื่อย ๆ หลี่เสี่ยวม่านหลับตาพริ้มครางออกมาอย่างชอบใจ
“อือ เจ้านวดเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
“ข้านวดให้ท่านป้าอู่บ่อย ๆ เจ้าค่ะ”
“อืม คิดถึงทุกคนจังเลยนะ”
หลี่เสี่ยวม่านที่นัยน์ตาเลื่อนลอยในใจก็กระหวัดคิดไปถึงเมื่อครั้งที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ ความเศร้าคืบคลานเข้ามาในความรู้สึกของหญิงสาวอีกครั้ง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นเคืองชายผู้ที่เป็นคนทำลายชีวิตของเธอ
“เราต้องทำให้สำเร็จนะซูมี่ เพื่อสกุลหลี่ของเรา”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
เนื่องจากมีความแค้นเป็นแรงผลักดัน หลี่เสี่ยวม่านที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นสามารถฝึกบทเรียนต่าง ๆ ที่ฮูหยินเหยียนตระเตรียมไว้ให้ได้จนครบถ้วนกระบวนความ
นอกจากนั้นแล้วหญิงสาวยังได้ฝึกกิริยามารยาทเพิ่มเข้าไปอีก ดังนั้นความน่ามองที่คุณหนูหลี่ที่มีความสวยเป็นทุนเดิม
อยู่แล้วก็ยิ่งทวีคูณเพิ่มขึ้นไปอีก
“คุณหนูหลี่สง่างามมากขอรับ”
“ขอบคุณพ่อบ้านลู่”
คนตัวบางส่งยิ้มให้กับคนที่เอ่ยชมตนอย่างจริงใจเธอเองก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากที่สามารถทำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี เห็นทีว่าความสำเร็จคงจะอยู่ไม่ไกลนัก
“ท่านอ๋องตาบอดจริง ๆ อย่างนั้นหรือ”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
มือบางกำกระดาษที่เขียนข้อมูลของอ๋องเหวินอวิ้นเซียนขึ้นมาอ่านอย่างไม่เชื่อสายตา เขาตาบอดเหตุใดจึงโลภมาก คิดครอบครองทรัพย์สมบัติมากมายไม่หยุด เพียงแค่จินตนาการไปว่าเขาคงเป็นอ๋องแก่ ๆ อ้วนลงพุง นั่งกินทั้งวันหลี่เสี่ยวม่านก็อดรู้สึกขนลุกขึ้นมาไม่ได้
“งั้นข้าต้องคิดหาวิธีเข้าหอให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็คงหาโอกาสที่จะฆ่าเขาได้ยาก”
หลี่เสี่ยวม่านหยิบมีดสั้นที่เหยียนฮุ่ยอินมอบให้สำหรับฝึกขึ้นมาดู ปลอกของมันที่เป็นไม้แกะถูกสลักเป็นรูปดอกไม้นานาพันธุ์ดูสวยงามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
“เจ้าพร้อมไหมซูมี่”
“เจ้าค่ะ”
หญิงสาวเก็บมีดสั้นไว้ในตู้แล้วหันกลับมานั่งมองเด็กสาวรับใช้คนสนิทของตนอย่างใช้ความคิด หากซูมี่ไปด้วยก็อาจจะช่วยให้เธอผูกมิตรกับบ่าวในจวนสกุลเหวินได้ไม่ยาก
