บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ลูกสาวของ ส.ส.องอาจ

“อันนาเธอเป็นถึงลูก ส.ส.องอาจ สุริยะโชติ เชียวนะ หากพูดชื่อพ่อเธอเมื่อไหร่ ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่...ฉันล่ะแปลกใจนัก ว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบออกงานสังคม เหมือนลูกหลานนักการเมืองคนอื่น ๆ เขา” แพทตี้จูงมืออันนามาลงนามเพื่ออวยพรวันเกิด ให้กับเจ้าของงาน หลังจากนั้นจึงเดินไปยังโซนเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก

“นี่อันนา เธอเดินให้มันสง่างามหน่อยได้ไหม จะก้มอะไรหนักหนา ที่พื้นมันมีอะไรงั้นเหรอ” แพทตี้พูดเชิงประชด

“ก็ดูชุดที่เธอให้ฉันใส่สิ สั้นขนาดนี้จะให้เดินถนัดได้ไง” อันนาพูดก่อนจะเงยหน้าขึ้น แล้วเผลอสบตากับชายหนุ่มหล่อเหลา ที่นั่งอยู่บนโซฟาสีแดงก่อนหน้าแล้ว เขาหันมายังเธอแล้วมองผ่านไปอย่างไม่สนใจนัก ทว่าใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับผิวกายขาวละเอียด บวกกับบุคลิกอันสง่างามทำให้อันนาเผลอมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง

“นั่นคุณเธียรวิชญ์ ภักดีขจร เจ้าของบ่อนกาสิโนที่กัมพูชา รวยมาก” แพทตี้ย้ำพลางทำตาเยิ้ม แล้วกล่าวเสริมอีกเล็กน้อย

“แต่เสียดาย รายนั้นไม่ค่อยสนใจผู้หญิงเท่าไหร่ นี่ฉันจะเล่าอะไรให้ฟังนะ ขนาดดาราแถวหน้าของเมืองไทย คุณเธียรวิชญ์ยังไม่ชายตาแลเลย แล้วสวยระดับเราจะได้รับประทานเขาไหมคะ ดับฝันสาว ๆ พวกนี้กันไปเป็นแถบ รวมถึงฉันด้วย”

“เขาไม่ใช่ผู้ชายเหรอ” คำถามของอันนาทำให้แพทตี้หลุดหัวเราะออกมา ก่อนส่ายศีรษะแล้วเล่าต่อ

“นอกจากจะไม่กินสาว ๆ แล้ว เก้ง กวาง เกย์ เขาก็ไม่กินเหมือนกัน ฉันก็อยากรู้นัก ว่าใครจะคว้าหัวใจเขาไปได้ เลือกมากขนาดนี้สงสัยจะชอบสาวตาน้ำข้าวเสียมากกว่า” อันนาเหลือบตามองเขาอีกครั้ง ก่อนจะละความสนใจ แล้วเดินไปนั่งยังโซฟาอีกชุดที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก

เสียงดนตรีดังยังคงสร้างสีสันให้งานดูมีชีวิตชีวา หากแต่อันนาเริ่มสังเกตเห็นผู้ที่คนทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ละคนแต่งตัวด้วยของแบรนด์เนมทั้งตัว เพื่อใช้บ่งบอกสถานะของตัวเอง รอยยิ้มที่มอบให้กันไม่แน่ใจนักว่าออกมาจากใจหรือเพียงแค่ฉากหน้า อันนาเริ่มสนุกกับการมองดูผู้คน จนลืมความเบื่อหน่ายที่เคยมี

“ฉันจะนั่งร่วมงานนี้อีกสักชั่วโมง รอเจอกับเจ้าภาพก่อน นายบอกให้คนขับรถเตรียมรอได้เลย” เธียรวิชญ์หันไปบอกการ์ดคนสนิท เพราะเบื่อหน่ายกับบรรยากาศเหล่านี้เต็มที มองไปทางไหนก็เจอกับบรรดาลูกหลานคนมีเงินพากันนั่งอวดความรวยของตัวเอง จนบางครั้งเธียรวิชญ์ถึงกับถอนหายใจ เบี่ยงหน้าไปทางอื่น

“รับอะไรดีคะ” พนักงานเดินเข้ามาถามอย่างสุภาพ ก่อนเขาจะสั่งแอลกอฮอล์มาขวดหนึ่ง นั่งรินกินเพียว ๆ เพื่อขั้นเวลา

“คุณเธียรวิชญ์ครับ เจ้าภาพขอเชิญไปรอยังห้องวีไอพีก่อนได้นะครับ อีกประมาณครึ่งชั่วโมงเจ้าภาพจึงจะมา”

“ไม่เป็นไรดีกว่า ผมรอสะดวกรอตรงนี้”

“ได้ครับ” พนักงานกล่าวอย่างอ่อนน้อม ก่อนจะเดินจากไป เธียรววิชญ์หันทอดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วเผลอพักสายตาไปยังหญิงสาวคนเดิมที่นั่งอยู่ตรงโซฟาตรงข้าม พร้อมกับเธอหันมาสบตาเขาพอดี ก่อนรอยยิ้มหวานของฝ่ายหญิงจะส่งให้เขาอย่างเป็นมิตร เสี้ยววินาทีรอยยิ้มหวานนั้นก็จางหายไป เพราะบรรดาเพื่อน ๆ เข้ามาดึงความสนใจของเธอให้ละออกจากเขา

“แพทตี้ เธอพาใครมาด้วยอ่ะ ดูไม่คุ้นหน้าเลย” เพื่อนห่าง ๆ ของแพทตี้เดินเข้ามาทักทาย พร้อมกับเสียงดนตรียังดังกึกก้องอยู่ กลุ่มนั้นจับตามองตรงมายังอันนาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

“นี่คืออันนา เป็นเพื่อนสนิทของฉัน” หลังจากแพทตี้แนะนำ เหล่าบรรดาเพื่อนของเธอต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงง เพราะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน

“เธอพาเด็กที่ไหนมาร่วมงานสังคม กับพวกเราเหรอแพทตี้”

“นี่คืออันนาเป็นลูกสาวของ ท่าน ส.ส.องอาจ สุริยะโชติ ฐานะเท่านี้พอร่วมงานที่นี่ได้มะ” ก่อนเหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ของแพทตี้อ้าปากค้าง รีบนั่งลงร่วมโต๊ะด้วยทันที ก่อนจะกล่าวชมบิดาของอันนาว่าเป็นคนดีมีศีลธรรม เป็นต้นแบบของนักการเมืองที่ประเทศต้องการ คำชมต่าง ๆ ทำให้อันนาได้แต่นั่งยิ้มอย่างนึกภูมิใจในตัวบิดา

แม้หลายครั้งต้องฝืนตัวเองอยู่บ้าง เพื่อพูดคุยทำความรู้จักกับบรรดาเพื่อนใหม่ หากเธอเองต้องการปรับให้คุ้นชินกับสังคม ตามที่บิดาแนะนำไว้

“นายใหญ่ครับ” การ์ดที่เดินออกไปสำรวจโดยรอบ เดินกลับเข้ามาค้อมตัวลงเล็กน้อย

“อะไร” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ

“ผู้หญิงคนนั้น” การ์ดคนสนิทหันไปยังอันนา แล้วหันกลับมายังเจ้านายของตัวเอง ทำท่าอึกอักเหมือนมีบางอย่างจะพูด

“มีอะไรงั้นเหรอ” น้ำเสียงเข้มถามการ์ดเป็นครั้งที่สอง

“ผมได้ยินมาว่าผู้หญิงคนนั้นชื่ออันนา เป็นลูกสาวของ ส.ส.องอาจ สุริยะโชติครับ” ปฏิกิริยาของเธียรวิชญ์ตอบสนองในทันที ทว่ายังคงคุมมาดไว้อย่างดี แม้หัวใจของเขาแทบเต้นทะลุออกมาจากอก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel