บท
ตั้งค่า

บทที่ 20 พาชมตลาดดอกไม้

“ดอกไม้ชนิดนี้เขาเรียกว่าดอกลำดวน เป็นดอกไม้ประจำชาติของกัมพูชาด้วยนะ สมัยก่อนนิยมนำมาไหว้พระ หรือไม่ก็ใช้ติดที่ผม”

“คล้ายกับดอกจำปีงั้นเหรอคะ” ชายหนุ่มไม่ตอบคำถาม ก่อนจะยิ้มอ่อน แล้วหยิบดอกลำดวนที่มือของหญิงสาวขึ้นมาติดที่ผมเธอ อันนายืนนิ่งปล่อยให้เขาจับศีรษะโดยไม่คัดค้าน

“เท่านี้ก็สวยแล้ว” ก่อนเจ้าของร้านที่เป็นหญิงชาวกัมพูชาจะรีบยกนิ้วโป้งขึ้นมา เพื่อยืนยันว่าดอกไม้ชนิดนี้เหมาะกับเธออย่างมาก แม้จะสื่อสารกันไม่เข้านัก อันนาก็รับคำชมอย่างอ่อนน้อม ก่อนชายหนุ่มจะจูงมือเธอเดินไปยังอีกฟากหนึ่ง อันนาเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับฝ่ามือของเขามากขึ้น เธอปล่อยให้ชายหนุ่มจูงไปมาได้อย่างอิสระ

“เป็นไงบ้าง ดอกไม้สดพวกนี้ คุณพอจะใช้ได้ไหม”

“ยิ่งกว่าใช้ได้อีกค่ะ มีดอกไม้แปลก ๆ ที่สามารถนำมาดัดแปลงให้สวยงามได้อีกเยอะเลยค่ะ ไม่ทราบว่าเพื่อนของคุณเธียรใช้สีอะไรเป็นตรีมงานคะ”

“สีแดง” เธียรวิชญ์ตอบ ก่อนที่อันนาจะปล่อยมือเขาแล้วหันไปยังร้านด้าน

“นอกจากดอกกุหลาบแล้ว ดาวกระจายแดงแบบนี้ก็น่าจะใช้ได้ด้วย” อันนานึกภาพร่างในหัว พร้อมกับเดินไปหยิบดอกดาวกระจายสีแดงสดขึ้นมา ก่อนเธียรวิชญ์จะคว้ามือเธอมาจับดังเดิม

“มีอีกตั้งหลายร้าน อย่าพึ่งตัดสินใจสิ ผมจะพาคุณไปดูทางนั้น” เธียรวิชญ์ดึงมืออันนาเดินไปจนทั่วเกือบทั้งตลาด เพราะดอกไม้นานาชนิดทั่วทั้งประเทศจะมารวมกันอยู่ที่ตลาดแห่งนี้ ก่อนจะกระจายสู่พื้นที่ต่าง ๆ นอกเมือง

“ดอกไม้สีแดงชนิดนี้ก็สวยนะคะ” เธอปล่อยมือเขาอีกครั้ง แล้วเดินตรงมายังดอกไม้มีแดงมีลักษณะเป็นใบเรียวยาว กรีบใบมีสีแดงสดระเรื่อ

“ฉันแทบไม่เคยเห็นดอกไม้ชนิดนี้ มีสีแดงสดขนาดนี้มาก่อน”

“ดอกไม้ชนิดนี้พนักงานของผมชอบเอาไปจัดตบแต่งที่กาสิโนบ่อย ๆ มีชื่อว่าดอกซาฟารี พันธุ์นี้จะมีแค่ที่กัมพูชาเท่านั้น”

“ดอกซาฟารีที่ไทย สีจะไม่แดงเท่านี้ แต่ก็นิยมนำมาจัดในงานแต่งกันอยู่มาก” อันนาวางมือจากดอกไม้ ก่อนที่เธียรวิชญ์จะดึงมือเธอขึ้นมาจับอีกเช่นเคย แล้วพากันเดินสำรวจบริเวณนั้นกันอีกครู่ใหญ่ ก่อนได้เวลาอันสมควรแล้ว เธียรวิชญ์และอันนาจึงพาร่างอันเหนื่อยล้าเดินกลับมายังรถคันหรูที่จอดอยู่

“เหนื่อยจังเลย” อันนาพูดพลางนั่งรอลมแอร์ที่เธียรวิชญ์เปิดจนสุด เขาแอบยิ้มก่อนจะหันไปหยิบผ้าเช็ดหน้ายื่นให้กับเธอ

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวาน ก่อนเขาจะเคลื่อนรถออกในทันที

“ความจริงแล้ว ถ้าคุณต้องการดอกไม้ชนิดไหน จำนวนเท่าไหร่ก็บอกผมละกัน ผมจะให้คนจัดการให้”

“อย่างนี้ฉันก็มีกำไรแย่เลยสิคะ” เธียรวิชญ์ปล่อยยิ้มออกมากับคำพูดของเธอ ก่อนจะหันใบหน้าหล่อเหลากลับมา

“ผมทำแบบนี้เพราะหวังผลนะ รู้ไหม” อันนาใบหน้าร้อนผ่าว ก่อนจะเบี่ยงหน้าไปทางอื่น แล้วแอบอมยิ้มออกมาให้กับคำพูดน่ารักของเขาเช่นกัน

สองข้างทางใจกลางเมืองพนมเปญ มีสิ่งแปลกตาให้เธอสงสัยอยู่ตลอดเวลา และดูเหมือนเธอเองก็พร้อมจะเรียนรู้วัฒนธรรมเหล่านั้น คำถามมากมายหลั่งไหลออกมา จนเธียรวิชญ์ตอบแทบไม่ทัน หากแต่เขาไม่ได้รู้สึกรำคาญเธอแต่อย่างใด ไม่นานนักเสียงของคนข้าง ๆ ก็ดูเหมือนจะค่อย ๆ เงียบไป เธียรวิชญ์หันกลับมาพบว่าเธอนอนหลับสนิทไปเรียบร้อยแล้ว

“หมดแรงพูดไปแล้วเหรอนี่” เธียรวิชญ์ตบไฟเลี้ยวเข้าจอดเทียบขอบถนน ก่อนหันมาปรับเบาะเอนลง ให้เธอได้นอนสะดวกขึ้น ก่อนจะเขี่ยผมที่ปกคลุมหน้าบางส่วนออก ใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวทำให้เขาเผลอมองอย่างเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับมา แล้วขับรถมุ่งหน้าตรงไปยังกาสิโน

เธียรวิชญ์จูงมืออันนาเดินเข้ามาทางประตูด้านหลัง เพื่อไม่ให้รบกวนแขกในส่วนของด้านหน้า การ์ดหลายสิบนายที่ยืนรักษาความปลอดภัยต่างก้มหน้าลงเพื่อแสดงความเคารพเขา ในจังหวะนั้นอันนาพยายามดึงมือออกจากเขาเพื่อรักษาเกียรติ หากแต่ถูกเธียรวิชญ์กระชับแน่นไม่ยอมปล่อย เธอจึงได้แต่ก้มหน้าเดินตามเขาเข้าไปด้านใน ก่อนที่ชายหนุ่มจะหยุดเดิน เมื่อเห็นร่างของวีดายืนนิ่งอยู่ด้านหน้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel