บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 โดนทิ้ง

รินดาทำหน้ามุ่ยขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำเย้ยหยันของภูวิศ แต่ทำอย่างไรได้ตอนนี้เธอต้องพึ่งพาอาศัยเขานี่ คนตัวเล็กเลยได้แต่กำหมัดแน่น ข่มอารมณ์ไว้ไม่ให้โมโหออกมา

“ไปได้แล้วยัยเด็กกะโปโล”

“ใครเด็กกะโปโล”

“ที่นี่มีใครบ้างล่ะ?”

“หึ๊ย!!!!!”

หญิงสาวเค้นเสียงออกจากลำคอด้วยความไม่พอใจ “คอยดูนะเด็กกะโปโลคนนี้จะทำให้นายหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลย!!”  รินดาคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ภูวิศผายมือให้รินดาเปิดประตูรถเข้าไปนั่งด้านใน เธอทำตามอย่างว่าง่าย มือเรียวเปิดประตูรถแล้วก้าวขาเข้าไปหย่อนก้นนั่งที่เบาะนิ่ม พลางเอามือกอดอกตัวเองแน่น ไม่นานคนตัวสูงเกินก้าวขาเข้ามาในรถตามมาติดๆ

“คาดเข็มขัดด้วยเด็กน้อย”

รินดารีบคาดเข็มขัดอย่างไว กระชากมันสุดแรงแสดงออกให้เห็นว่าเธอไม่ค่อยพอใจนัก เจ้าของรถมองการกระทำของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็อดขำไม่ได้ รถหรูค่อยๆ พุ่งทะยานออกจากงานเลี้ยง

“บ้านอยู่แถวไหน”

“อยู่หมู่บ้านศรีสาคร"

คนตัวเล็กเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ พลางกลอกตามองบน ทำทีท่าไม่สนใจคนที่อยู่ข้างๆ ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน ภูวิศชำเลืองมองรินดาอยู่เป็นระยะ ถึงแม้เธอจะดูเหมือนเด็กกะโปโล แต่เธอก็น่ารักใช่เล่น จนเขาเองก็เผลอแอบมองอยู่หลายครั้ง

ภายในรถไร้เสียงพูดคุย ไม่มีใครเอ่ยอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ภูวิศขับรถสายตาจ้องมองไปยังด้านหน้า พลางคิดอยากหาเรื่องแกล้งคนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆ รถคันหรูเลี้ยวไปคนละเส้นทางที่จะกลับบ้านของรินดา ทำเอารินดาใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม คนตัวเล็กหันไปมองคนข้างกาย ส่งสายตามองด้วยความสงสัย

“นี่คุณไม่ใช่ทางกลับบ้านฉันนี่...คุณกำลังจะพาฉันไปไหน”

รินดาเอ่ยถามเสียงสั่น ตอนนี้เธอรู้สึกตื่นตระหนกตกใจไม่น้อย พลางคิดว่าไม่น่าไว้ใจคนแปลกหน้าให้มาส่งง่ายๆ เลย

“ผมยังไม่อยากพาคุณกลับบ้าน ผมยังอยากดื่มต่อ ไปนั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ”

ภูวิศเอ่ยขึ้นหน้าตาเฉย อยู่ๆ จะให้เธอไปนั่งกินเหล้ากับเขาเนี่ยนะ ใครล่ะจะอยากไปให้ตายเถอะ

“ฉันไม่ดื่มกับคุณหรอก พาฉันไปส่งบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ”

“ผมเป็นคนขับ...ผมจะพาไปไหนก็ได้เพราะนี้รถผม”

“หึ๊ย!!!...แล้วคุณอาสาจะมาส่งฉันทำไม?”

รินดาเริ่มโมโหกับท่าทียียวนและน้ำเสียงกวนๆ ของภูวิศ ที่ตอนนี้กำลังปั่นประสาทยั่วโมโหเธอ

“ก็ไม่รู้สินะ...อยู่ๆ ก็อยากกินเหล้าขึ้นมา”

“ที่งานเลี้ยงยังกินไปพออีกเหรอ ถึงจะไปต่อที่ผับเนี่ย ไม่อย่างนั้นปล่อยฉันลงตกนี้แหละ เดี๋ยวฉันเรียกแท็กซี่กลับเอง”

“เอางั้น?”

“ใช่!!...ฉันไม่ไปกินเหล้ากับคุณหรอก ไอ้บ้า!!”

ล้อรถหยุดหมุนทันที ภูวิศเบรกรถกะทันหัน จนหน้ารินดาแทบจะกระแทกกับคอนโซลหน้ารถ รินดารีบปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถภูวิศทันที ประตูรถถูกปิดลงอย่างแรง คนที่อยู่ในรถก็ไม่ได้มีทีท่าจะรั้ง “ให้ตายสิ...เขาจะทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียวจริงๆ เหรอ”  รินดาคิดในใจ

ภูวิศไม่สนใจหญิงสาวที่ยืนหน้าบึ้งอยู่แม้แต่น้อย เขาขับรถพุ่งทะยานออกไปโดยไม่สนใจไยดีรินดา ที่ต้องยืนอยู่ท่ามกลางความมืด ถนนเปลี่ยวๆ คนเดียวเลย รินดามองตามรถภูวิศที่ขับออกไปจนลับตา

“ไอ้บ้าเอ๊ย!!...ทิ้งกันจริงๆ ด้วย แล้วตรงนี้ก็น่ากลัวซะด้วยสิ”

เธอหันไปมองรอบๆ รินดาเดินตามถนนมืดๆ อยู่คนเดียว มือก็กดโทรหากรวี แต่เพื่อนก็ยังคงปิดเครื่องอยู่ รินดาไม่อยากกลับรถแท็กซี่แต่ก็ต้องจำใจกลับ มือเรียวยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายเรียกแท็กซี่ให้มารับเธอ รินดายืนคอยอยู่ไม่นานแท็กซี่ก็เจอดเทียบตรงที่เธอยืนอยู่ เธอก้าวขาขึ้นแท็กซี่ไปด้วยใจที่หวาดหวั่น

.

.

ด้านภูวิศ

“ยัยนั่นจะเป็นยังไงบ้างวะ...กูใจร้ายเกินไปรึเปล่าวะเนี่ย ที่ทิ้งยัยเด็กกะโปโลไว้คนเดียวแบบนั้น”

เขาบ่นพึมพำอยู่คนเดียว จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แอบรู้สึกผิดกับรินดาอยู่เหมือนกัน พวงมาลัยรถหักเลี้ยวหันหัวรถกลับไปที่เดิม เพื่อที่จะไปรับรินดากลับบ้าน แต่พอถึงที่ที่เขาปล่อยเธอทิ้งไว้ก็ไม่เจอรินดาอยู่ที่นั่นแล้ว

“ไปแล้วเหรอวะ”

คนตัวใหญ่รูปร่างกำยำที่นั่งอยู่ในรถซุปเปอร์คาร์สีดำ ใช้สายตาสอดส่องมองไปทั่วรอบๆ บริเวณนี้ก็ไม่เห็นมีหญิงสาวที่เขาทิ้งไว้แล้วจึงขับรถออกไปทันที

.

.

“ไปที่หมู่บ้านศรีสาครค่ะ”

เสียงเล็กๆ ของรินดาเอ่ยขึ้นกับพนักงานขับรถแท็กซี่หน้าตาโหดเหี้ยม เขาดูน่ากลัวจนเธอแอบลอบกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้ง คนขับแท็กซี่ไม่ได้ตอบอะไร เขาขับรถไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ พลางเหลือบสายตามองมาที่กระจกมองหลังเป็นระยะๆ จนรินดาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้น รินดารีบถ่ายรูปทะเบียนรถ แล้วส่งไปที่ ส่ง Line ไปหากรวีทันที หวังว่าถ้าเพื่อนเปิดเครื่องมาก็คงจะเจอข้อความของเธอ

Rinda : (รูปสติ๊กเกอร์ทะเบียนรถที่ติดอยู่ตรงประตู)

Rinda : ตอนนี้อยู่ที่รถแท็กซี่ทะเบียนนี้ ท่าทางแปลกๆ เปิดเครื่องแล้วโทรมาหาหน่อยนะ”

รินดานึกก่นด่าภูวิศในใจ ที่ทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องที่น่ากลัว คนตัวเล็กแสร้งทำเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบกับใบหู

“ฮัลโหลแก ฉันอยู่บนแท็กซี่ทะเบียน ก-3952 นะ เดี๋ยวแชร์โลเคชั่นไปให้”

รินดาแสร้งทำเป็นโทรหาเพื่อนว่าได้ขึ้นรถทะเบียนนี้ เพื่อที่จะให้คนขับรู้ตัว ว่าเธอมีคนรับรู้แล้วว่าขึ้นรถมากับเขา แต่เหมือนว่าคนขับรถหน้าโหดจะรู้ทัน เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย พลางเหลือบสายตาไปมองรินดาผ่านกระจกมองหลัง

“เมื่อไรจะถึงวะเนี่ย ตรงนี้มันที่ไหนวะไม่คุ้นเลย”

หญิงสาวบ่นพึมพำอยู่คนเดียว พลางเอามือกอดอกตัวเองไว้แน่น เพราะตอนนี้ชุดเธอมันวาบหวิว เห็นเนินอกอิ่มอย่างชัดเจน

“พี่คะใกล้จะถึงรึยังคะ ทำไมหนูไม่คุ้นทางเลย”

รินดาเอ่ยถามคนขับแท็กซี่ด้วยเสียงสั่นเครืออยู่ในลำคอ สีหน้าท่าทางวิตกกังวลไม่น้อยจนคนขับรับรู้ได้

“ใกล้แล้วครับอีกนิดเดียวก็ถึง”

คนขับรถแท็กซี่ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก พลางยกยิ้มมุมปากอย่างใจเย็น พวงมาลัยรถหักเลี้ยวไปที่ซอยเปลี่ยว คนขับรถแท็กซี่พาเธอมาอยู่ที่ซอยเปลี่ยว ซึ่งไร้รถสัญจร ไม่มีแม้แต่แสงไฟ มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถที่ส่องสว่างอยู่ข้างทาง

“ถึงแล้วครับ”

รินดาใจหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม เอาแล้วไงเธอเจอดีจนได้ รินดากลืนน้ำลายอึกใหญ่ รีบหยิบกระเป๋าแล้วเปิดประตูรถวิ่งหนีไม่คิดชีวิต คนตัวเล็กวิ่งเพื่อเอาตัวรอดจากภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น พลางเหลือบไปมองข้างหลังเป็นระยะๆ เธอเห็นคนขับรถแท็กซี่วิ่งตามมาติดๆ รองเท้าส้นสูงเจ้ากรรมทำให้เธอวิ่งได้ไม่ถนัดขาพลิกล้มลงกับพื้นหญ้า

“โอ๊ย!!”

มือเรียวเอามือขึ้นมาจับข้อเท้าของตัวเองไว้แน่นเพราะความเจ็บปวด พลางถอดรองเท้าออกแล้วรีบพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน แต่ก็ไม่ทันคนตัวใหญ่ที่วิ่งเข้ามาตะครุบเธอเอาไว้แน่น

“จะหนีไปไหนคนสวย”

มันแสยะยิ้มร้ายให้รินดา ใบหน้าที่เกอะกัง หนวดเครารุงรังเต็มไปหมด ดวงตาปูดโปนจ้องมองเรือนร่างที่สวยงามไร้ที่ติ รินดาพยายามจะสะบัดตัวเองออกจากการเกาะกุมของชายโฉด แต่ก็ไม่เป็นผล มันใช้มือทั้งสองข้างจับแขนเธอไว้บีบแรงราวกับครีมล็อก จนเธอร้าวระบมไปหมด

“ปล่อยฉัน ช่วยด้วยๆ ... ใครก็ได้ช่วยด้วย”

หญิงสาวตะโกนสุดเสียงร้องเรียกให้คนช่วย แต่บริเวณนี้ไม่มีใครนอกจากเธอและชายผู้นี้ มือหนายกขึ้นมาปิดปากรินดาเอาไว้แน่นไม่ให้ร้องตะโกนออกมา

“เงียบถ้าไม่อยากเจ็บตัว”

รินดาสะบัดหน้าไปมาน้ำตาคลอเบ้า รู้แล้วต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่อยากเสียตัวครั้งแรกให้กับคนเลวๆ แบบนี้หรอกนะ ได้โปรดส่งใครก็ได้มาช่วยเธอที เธอคิดในใจพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น

มือเรียวเล็กยกขึ้นมาทุบตีคนขับแท็กซี่รัวๆ แต่ก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้มันเลยแม้แต่นิดเดียว นิ้วชี้กับนิ้วกลางข้างขวาจกที่ตาของไอ้แท็กซี่หื่น จนมันต้องผละตัวออกจากเธอ

รินดาใช้โอกาสนี้เพื่อที่จะวิ่งหนี แต่ก็ไม่ทันคนตัวใหญ่ มันกระชากแขนเธอเต็มแรงจนเซถลามาชนกับแผงอกแกร่ง กำปั้นหนักชกเข้าที่หน้าท้องของรินดาอย่างจัง เธอทั้งเจ็บทั้งจุกจนตัวงอเป็นกุ้ง ไอ้หื่นกามมันอุ้มเธอขึ้นพาดบ่า แล้วโยนเธอไปที่พงหญ้าที่ติดอยู่ข้างกำแพงมืด อย่างไร้การทะนุถนอม

“ฤทธิ์เยอะนักนะมึง”

ตอนนี้สาวน้อยหมดหนทางรอดแล้ว เมื่อชายโฉดกระโจนขึ้นคร่อมร่างบาง พลางเอาใบหน้าสากซุกไซ้ซอกคอระหง มือสากลากเลื่อนลูบไล้ตามผิวกายเธอ แล้วหยุดอยู่ที่เนินอกอิ่มบีบขยำมันเต็มแรงมือ รินดารู้สึกขยะแขยงกับสัมผัสนี้เหลือเกิน

“ฮือๆ ปล่อยฉันนะ ได้โปรดอย่าทำฉันขอร้อง”

เสียงร้องของรินดาไม่อาจหยุดการกระทำของชายใจโฉดได้ มือข้างซ้ายเริ่มลากเลื่อนขึ้นมาที่เรียวขาขาวจนขนอ่อนของเธอลุกตั้ง ตอนนี้รินดาสิ้นหวังแล้ว เพราะไม่มีใครช่วยเธอได้ เธอทำได้แค่เพียงยอมรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง และจะไม่มีวันยกโทษให้ภูวิศเลย ที่ทิ้งเธอไว้ตรงนั้น จนทำให้เธอมาเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel