บทที่ 5 - เวลาปัจจุบัน ณ เกาะบีหลา
เกาะบีหลาเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ห่างจากตัวเมืองหรือเมนแลนด์ประมาณ 12 ชั่วโมง เข้าถึงได้สองทางเท่านั้นคือ ทางเรือและเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เพอร์เฟคมากสำหรับทั้งคนที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองหลวง คนรักธรรมชาติ รวมไปถึงคนที่อยากขาดการติดต่อจากคนที่ไม่อยากให้ติดต่อเพราะเกาะนี้แทบจะหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ได้ยาก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้รู้จักกันหมด และอาศัยอยู่ด้วยกันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า
โฮมสเตย์ "สายน้ำฝน" เป็นโฮมสเตย์ขนาดเล็ก มีแค่ 7 ห้องพัก เป็นสถานที่แห่งเดียวในเกาะที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากการบอกต่อปากต่อปาก
"ยินดีต้อนรับสู่เกาะบีหลาค่ะ การเดินทางมาที่นี่สะดวกสบายดีไหมคะ" เพตรากล่าวต้อนรับแขกที่เข้ามาเช็คอิน
"ทุกอย่างราบรื่นดีค่ะ กัปตันขับเฮลิคอปเตอร์ได้นิ่งมากค่ะ ขนาดฝนตกหนักขนาดนี้"
"อาน้อยได้ยินคงดีใจมากเลยค่ะ" เพตรายิ่งแฉ่งกับลูกค้าคู่รักที่แพลนมาฮันนีมูนที่นี่
อาน้อย น้องชายคนเดียวของพ่อเพตรา ที่เป็นทั้งคนขับเรือและเฮลิคอปเตอร์ คนสวน ช่างซ่อมมือทอง ซ่อมทุกอย่างที่ขวางหน้า แถมยังเป็นไกด์เดินป่าอีกด้วย
"น้ำมะตูมหวานเย็นฉ่ำชื่นใจค่ะ"
"ลูกสาวหรอคะ แฝดด้วย น่าตาน่ารักน่าเอ็นดู แถมขยันอีกด้วย ขอบคุณมากนะคะสำหรับน้ำหวาน" ลูกค้าสาวพูดชมเด็กแฝดไปพร้อมกับรับน้ำมะตูมจากสายฝน ในขณะที่ลูกค้าชายรับน้ำจากสายน้ำ
"ขอให้พักผ่อนที่นี่ด้วยความสบายกายและใจนะคะ" เด็กแฝดพูดประโยคที่ท่องมาจนชินจบ ก็เดินเอาถาดรองน้ำเข้าไปเก็บในครัว
"เดินทางมาเหนื่อย ๆ เราไปดูห้องพักกันดีกว่าค่ะ"
หลังจากที่พาลูกค้าเข้าไปพักที่ห้องพัก เพตราก็เดินมานั่งที่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อตรวจตราบัญชีแบบใจลอย ๆ
"ยัยตรา!!"
"ข ขา"
"ใจลอยไปไหน ใจลอยแบบนี้ตั้งแต่กลับมาละ มีอะไรเกิดขึ้นตอนเข้าเมืองหรือเปล่า โรงเรียนลูกไม่โอเคหรอ"
"ทุกอย่างโอเคค่ะ แค่วันสุดท้ายก่อนกลับเจอคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุดโดยบังเอิญ"
น้าสา น้องสาววคนเดียวของแม่เพตรา ที่เป็นทั้งพนักงานต้อนรับและแม่ครัวมือหนึ่งของโฮมสเตย์ และยังเป็นเหมือนพี่สาวที่เพตราเชื่อใจที่สุด น้าสาเข้ามาช่วยกิจการของเพตราเต็มตัวหลังเพตราคลอดเด็กแฝด ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับการจากไปของพ่อเพตรา ด้วยโรคหัวใจวายฉับพลัน
"พร้อมเล่าตอนไหนก็ค่อยเล่าละกัน เออพรุ่งนี้มีเช็คอินเช้าอีกหนึ่งคนนะ น้าบอกอาน้อยไปละ"
"ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวตรารับแขกเอง น้าสาจะได้ไม่ต้องรีบกลับมาจากสวน"
"จ้า... ไปสอนหนังสือเด็ก ๆ เถอะ วันนี้ไม่มีอะไรละ เดี๋ยวน้าจะเข้าครัวซักหน่อย"
"ค่ะ.... เด็ก ๆ !!! ได้เวลาเรียนแล้วลูก การบ้านที่ให้ไปทำกันครบหรือยังน้า"
เพตราเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องหนังสือซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรีเซปชั่น เด็กแฝดสองคนกำลังนั่งทำการบ้านภาษาอังกฤษรอคุณครูเพตราอยู่
เพตราตั้งมั่นตั้งแต่เด็กแฝดยังไม่คลอดว่า เธอจะโฮมสคูลลูกจนกว่าลูกจะอายุครบ 6 ปี ด้วยความรู้ทุกอย่างที่เธอมี เพตราเป็นเด็กเรียนดีมาก ได้เกรด 4 ทุกวิชามาโดยตลอด และเธอก็จบมหาลัยมาด้วยดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้านการจัดการอีเว้น เธอเลือกเรียนด้านนี้เพราะสำหรับเธอ เธอได้ใช้ทักษะวิชาการทุกอย่างที่เธอร่ำเรียนมา ไม่ว่าจะเป็นการคิดคำณวนงบ การสื่อสารกับลูกค้าทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ศิลปะด้านการตกแต่งสถานที่ ศาสตร์แห่งแสงสีเสียงเป็นต้น และเหตุผลสำคัญไปกว่านั้นคือ การที่ได้อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
"แม่ขา ฝนกับน้ำต้องไปโรงเรียนปีหน้าจริง ๆ หรอคะ" สายฝนเปิดบทสนทนาก่อนเข้านอนกับแม่
"ใช่จ่ะ ฝนไม่ชอบโรงเรียนหรอลูก"
"อืม ไม่ใช่ไม่ชอบค่ะ แต่ฝนชอบที่นี่มากกว่า"
"น้ำชอบโรงเรียนค่ะ มีสนามเด็กเล่นใหญ่มากกก" สายน้ำผายมือออกพร้อมกับสายตาแสดงออกถึงความตื่นเต้น "มีห้องสมุดที่มีนิทานเยอะด้วยนะฝน จำไม่ได้หรอที่เราไปนั่งอ่านกันตอนแม่คุยธุระกับคุณครู"
"ฝนจำได้ แต่ที่โรงเรียนไม่มีแม่ตรา น้าสา แล้วก็อาน้อยนะน้ำ ไม่มีคุณเต่า คุณปู คุณปลาด้วย" สายฝนเอาความจริงในแบบของเธอออกมาสู้ด้วยสายตาแอบเศร้า
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวนั่งฟังลูกสาวของคนถกเถียงกันแล้วก็แอบยิ้มออกมาไม่ได้ ด้วยความเอ็นดู
"เอาหล่ะๆ ๆ ๆ เรายังมีเวลาอีกตั้งหลายเดือนกว่าโรงเรียนจะเปิด แม่ดีใจนะที่น้ำชอบโรงเรียน" เพตราหันไปลูบหัวสายน้ำเบา ๆ ก่อนที่จะหันมาพูดกับสายฝนว่า "ถึงแม่ว่าโรงเรียนจะไม่มีน้าสา อาน้อย คุณเต่า คุณปู และคุณปลา แต่ทุกวันหยุดยาวและตอนปิดเทอม หนูก็ยังได้กลับมาบ้านเรานะลูก อีกอย่างใครว่าไม่มีแม่ตรา สายน้ำสายฝนของแม่อยู่ที่ไหน แม่ตราก็จะอยู่ที่นั่น"
เพตราดึงลูกสาวสองคนเข้ามากอด ลึก ๆ แล้วเธอเองก็ใจหายไม่น้อยทุกครั้งที่คิดเรื่องการย้ายเข้ามาอยู่ที่ตัวเมืองตอนลูกเข้าโรงเรียน
"ดึกแล้ว นอนกันดีกว่า พรุ่งนี้ใครตื่นสาย อดกินแพนเค้กไม่รู้ด้วย"
สองทุ่มเป็นเวลานอนของเด็กแฝด และเวลาหลังจากนั้นก็เป็นเวลาส่วนตัวของเพตรา
บ้านของเพตราเป็นบ้านหลังเดียวที่มีสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต เธอมักจะนั่งอ่านข่าวบ้านเมืองทั้งในและนอกประเทศบ้าง โทรคุยกับนาราบ้าง อ่านหนังสือบ้าง ทำบัญชีบริษัทบ้าง เตรียมตำราเรียนเพื่อเอามาสอนลูก ๆ ในวันต่อไปบ้าง ดูหนังบ้าง หรือถ้าช่วงไหนยุ่งมากเธอก็จะเข้านอนพร้อมลูก แต่วันนี้ข่าวบันเทิงอัพเดทเด้งขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอพร้อมกับภาพเป้าหน้าฟ้าประทานของเจ้าพ่อคาสโนว่าแห่งวงการมายา ด้วยคำฟาดหัวข่าวที่ว่า ภาคิณหายไปไหน!?!?
"มีวันไหนไหมที่นายจะไม่ถูกฟาดหัวข่าว จะหายไปไหนก็ไปเถอะ อย่ามาโผล่แถวนี้ก็พอ ครั้งเดียวก็เกินพอ" เพตราบ่นพึงพำกับตัวเองก่อนที่จะปิดคอมลงและไปนอน
กริ่ง กริ่ง กริ่ง เสียงนาฬิกาปลุกบอกเวลาตีห้า เพตราเด้งตัวขึ้นมาเตรียมตัวออกไปรับแขกเช็คอินที่กำลังเดินทางมาอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า
เพตรากำลังเตรียมน้ำมะตูนในครัว ได้ยินเสียงเท้าของคนประมาณสองสามคนที่เดินเข้ามาในใกล้ส่วนรีเซปชั่น เธอถือถาดน้ำออกมาเพื่อต้อนรับแขก
เพล้ง!!! ทั้งถาดและแก้วน้ำลงไปกองอยู่ที่พื้น ส่วนคนทำหล่นยังคงยืนอึ้งกับภาพที่เห็นตรงหน้า
