บท
ตั้งค่า

2 คนเลวที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี

MILANTI

บ้านโรจนโภคินทร์

ฉันยืนมองความว่างเปล่า แม้ว่าภายในบ้านหลังใหญ่นี้จะเต็มไปด้วยสิ่งของมีค่าและดอกไม้สวยงาม มีทั้งภาพวาดของฉันและภาพจากจิตรกรชื่อดังหลายคน แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉันจะรักมันมาก มีความสุขกับการได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกับสามี แต่เวลานี้…ทุกอย่างไม่มีค่าอะไรกับฉันอีกแล้ว สามเดือนมานี้ฉันแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวตนของฉันเมื่อก่อนมันเป็นยังไง ฉันจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองยิ้มแบบไหน ตั้งแต่วันนั้น…วันที่ฉันได้รู้ว่าคนเลวที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีไม่เคยรักฉันเลย

ไม่อยากจะย้ำให้รู้สึกซ้ำซาก แต่คงต้องพูดมันอีกครั้งว่าฉันรู้จักเขาคนนั้นมาสี่ปีเต็ม ฉันรักเขามากแบบไม่คิดเผื่อใจอะไรเลย เวลาที่อยู่ต่อหน้าฉันเขาดีทุกอย่าง สุภาพ อ่อนโยน อบอุ่นสุดๆ เขาทำเหมือนว่ารักฉัน…แต่แล้วก็ได้รู้ว่าทั้งหมดคือเรื่องหลอกลวง มันเริ่มขึ้นเมื่อสามเดือนก่อน วันนั้นฉันมีงานที่ต้องออกนอกสถานที่ แต่ลืมของก็เลยต้องกลับมาเอา ฉันขึ้นไปที่ห้องนอน…แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังออกมาจากห้องทำงานของพี่เธียร ฉันเดินไปดู…ภาพที่ได้เห็นคือสามีฉันกำลังโอบกอดผู้หญิงคนอื่นอยู่ พวกเขายิ้มให้กันอย่างหวานซึ้ง หัวร่อต่อกระซิก กอดรัดฟัดเหวี่ยงกะหนุงกะหนิงกันในบ้านฉัน! บ้านที่เป็นเรือนหอของเรา! และผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นังแพศยาเลขาที่ทำงานให้พ่อฉันเอง…ทำงานบนโต๊ะไม่พอ ต้องไปทำกันต่อถึงบนเตียง หึ! ชื่อของมันคือชัญญา…มันเป็นเมียลับของพ่อฉัน แล้วตอนนี้ก็มาเป็นเมียน้อยของสามีฉันอีกคน

ตอนนั้นฉันทำได้เพียงเก็บเรื่องสกปรกนั่นเอาไว้ในใจ ฉันร้องไห้แทบขาดใจแต่พออยู่ต่อหน้าพี่เธียรกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันโง่กว่าที่ใครๆจะคาดเดาได้ ฉันกลัว…กลัวว่าถ้าบอกเขาว่าฉันรู้ เราอาจจะต้องหย่ากัน แต่แล้วฉันก็ได้รู้ว่าพี่เธียรไม่ได้มีแค่ชัญญาคนเดียว ลับหลังฉันเขาไปไหนมาไหนกับนักร้องดังชื่อรินริน เขาพายัยบ้านั่นไปกินข้าวแล้วเดินควงแขนกันขึ้นคอนโด ฉันเจ็บแล้วเจ็บอีก…แต่เจ็บที่สุดคือตอนที่คิดได้ว่าการกระทำของเขามันบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่รักฉันเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ฉันรู้ว่าเขามีชู้ถึงสองคนด้วยกัน พี่เธียรก็ได้ขึ้นเป็น CEO แล้วพ่อฉันก็กลายเป็นคนขี้โกง เขาวางแผนไว้อย่างแยบยล ฉันไม่เคยเอะใจอะไรเลยสักนิด พ่อฉันเองก็เหมือนกัน เพราะท่านไว้ใจและรักพี่เธียรมาก รู้ตัวกันอีกทีคือเขาถือหุ้นเจนวานิชอยู่ 50% แล้วเขาก็ใช้ข่าวเสียๆของพ่อ ข่าวที่ไม่ใช่เรื่องจริงมาทำให้พ่อฉันหลุดจากตำแหน่ง CEO จากนั้นเขาก็ได้ทุกอย่างไป

แต่ฉันรู้หลังจากนั้น…ว่าเขาใช้วิธีไหนเอาหุ้นของพ่อฉันไปได้

พี่เธียรเป็นคนเก่ง ฉลาด แต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเขาจะเลวทรามต่ำช้าได้ถึงขนาดนี้ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของเรา ฉันจะให้โอกาสเขาได้ทำเรื่องดีๆเป็นครั้งสุดท้ายคือคืนหุ้นของฉันกับพ่อมาแล้วหย่าซะ เพราะไม่อย่างนั้นฉันจะเอาหลักฐานที่เขาคบชู้มาฟ้องหย่าแล้วเอาทุกอย่างคืนมาด้วยตัวเอง ส่วนปืนในกระเป๋านั่น…ก็อย่างที่รู้ ฉันไม่กล้าใช้มันหรอก

ใช่…ฉันพูดไปอย่างนั้นแหละว่าจะฆ่าเขา คิดว่าคนโง่อย่างฉันจะฆ่าใครได้งั้นเหรอ? ปืนในกระเป๋า…ฉันเอามาแค่ขู่เท่านั้นแหละ

ก่อนหน้านี้ฉันบอกให้ป้ารำภาที่เป็นแม่บ้านกับคนสวนและคนรถกลับบ้านไปพัก ฉันอ้างว่าอยากให้พวกเขาได้ใช้เวลากับครอบครัวในช่วงสิ้นปี แต่ที่จริงแล้ว…ฉันไม่อยากให้ใครมารับรู้เรื่องของฉันกับพี่เธียร

แม้กระทั่งวันนี้ฉันก็ยังลงมือเข้าครัวด้วยตัวเอง ทำอาหารที่จานโปรดเขา อบเค้กที่เขาบอกว่าชอบแต่แทบไม่เคยกินมัน ฉันทำทุกอย่างแล้วเอาไวน์มาวาง จัดโต๊ะอาหาร จัดดอกไม้ ฉันจะทำให้เหมือนว่ามีความสุขกับวันครบรอบของเราเหลือเกิน พอถึงเวลานัดพี่เธียรก็มา…เขาตรงเวลาเสมอ พอมาถึงก็เข้ามากอดฉันพร้อมรอยยิ้มแสนอบอุ่นที่เป็นเพียงการแสดง

“หอมจังเลยครับ” รอยยิ้มนี้…ฉันเคยหลงใหลมันจนแทบคลั่ง อ้อมกอดของเขา…กลิ่นตัวของเขา ฉันถวิลหาแต่มัน…นับจากคืนนี้ไป ฉันจะลืมมันให้หมด! ผ่านคืนนี้ไปได้…พี่เธียรจะกลายเป็นแค่อดีตอันเลวร้ายของฉันเท่านั้น

“นั่งก่อนค่ะ รันมีอะไรให้พี่เธียรด้วย” ฉันถอนตัวออกจากอ้อมกอด แล้วดันเขาไปนั่งที่โต๊ะซึ่งจัดไว้อย่างดี ก่อนจะเอากล่องของขวัญที่เตรียมให้เขาตั้งแต่สี่เดือนก่อน ตั้งแต่ตอนที่ฉันรักเขาหัวปักปำและโง่ไม่รู้เรื่องราวอะไร

“อะไรครับ?”

“ของขวัญวันครบรอบสี่ปีที่เรารักกัน สามปีที่คบเป็นแฟน หนึ่งปีที่เป็นสามีภรรยา” และวันสุดท้ายของกันและกัน

“รัน…วันนี้เป็นวันเกิดรันนะ พี่สิต้องเป็นคนให้ของขวัญ ไม่ใช่รันมาให้พี่” คนเฮงซวยพูดออกมาด้วยสายตารู้สึกผิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเปิดกล่องของขวัญออกมาดู มันคือเนกไทที่ฉันออกแบบลายผ้าด้วยตัวเอง สั่งตัดเอง มีเส้นเดียวบนโลก

“ชอบไหมคะ?”

“ชอบมากครับ” ไม่พูดเปล่า เขาจูบแก้มฉัน เผยรอยยิ้มออกมาบางเบาก่อนจะวางเนกไทลง ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเอะใจเลยสักนิด พี่เธียรแทบไม่ค่อยแตะของที่ฉันทำให้กิน ไม่เคยใช้ของที่ฉันให้ แล้วตอนนี้เขาก็ทำเหมือนเนกไทที่เพิ่งบอกว่าชอบไม่มีความหมายอะไร แค่มองมันผ่านๆก่อนจะเก็บเข้ากล่องแล้ววางบนโต๊ะ

“ถึงปากจะบอกว่าชอบ แต่พี่เธียรไม่เคยใช้ของที่รันให้เลยสักครั้ง ไม่ว่าจะผ้าเช็ดหน้า กระเป๋าเงิน นาฬิกา…รันรู้ว่าเนกไทเส้นนี้ เดี๋ยวก็คงไปนอนเหงาอยู่ในตู้”

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ? ที่พี่ไม่ใช้เพราะอยากเก็บรักษามันไว้ดีๆต่างหาก”

“รันซื้อมาให้ใช้ค่ะ ไม่ได้ซื้อมาให้เก็บ”

“เอาล่ะ เลิกเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่องดีกว่า รันไม่อยากรู้เหรอว่าพี่มีของขวัญอะไรมาให้รัน?”

“อะไรคะ?” ให้เดาไหม? ไม่สร้อยก็แหวน หรือไม่ก็น้ำหอมกับกระเป๋า คงเป็นอะไรที่ไม่ต้องใช้ความคิดหรือเสียเวลาไปกับมัน แค่เลือกมาส่งๆแล้วสั่งให้พนักงานผู้โบสวยๆแค่นั้น

“นี่ครับ”

“พี่เธียร…” บอกตามตรงว่าผิดจากที่ฉันคิดไว้เยอะ สิ่งที่พี่เธียรหยิบออกมาจากกระเป๋าสูทมันคือสร้อยเก่าๆที่มีล็อกเกต มันเป็นสร้อยของแม่ฉัน…เป็นสร้อยที่ฉันคิดว่าทำหายไปแล้ว หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ

“มันไม่ใช่ของราคาแพง แต่พี่รู้ว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจ พี่รู้ว่ารันรักสร้อยเส้นนี้มาก พี่เห็นมันขาด รูปในล็อกเกตก็เก่าจนมองแทบไม่ออก พี่เลยเอาไปทำใหม่มาให้”

“…” ไม่! ฉันไม่หวั่นไหว! ห้ามหวั่นไหวเด็ดขาด! ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงโผเข้ากอดเขาทั้งน้ำตาไปแล้ว แต่ตอนนี้ฉันรู้…ว่ามันเป็นแค่การแสดง เพราะงั้นฉันจะไม่หวั่นไหวไปกับมันแน่

“พี่ใส่ให้นะ”

“ขอบคุณนะคะ” ฉันเอ่ยออกไปสั้นๆ มองดูพี่เธียรกลับไปนั่งตามเดิมหลังจากสวมสร้อยให้ฉันเสร็จ

“เมื่อเช้ารันบอกว่ามีอะไรอยากคุยกับพี่เหรอ?”

“เรื่องที่เราเคยคุยค้างกันไว้น่ะค่ะ” ฉันจิบไวน์ ลอบมองพี่เธียรเล็กน้อย “เรื่องลูก…”

“หืม?” ตกใจขึ้นมาเลยสิ นายไม่เคยอยากจะมีลูกกับฉัน ถึงได้ป้องกันมาตลอด ฉันเพิ่งหายโง่เมื่อไม่นานมานี้เอง! แต่ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรต่อ เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือของพี่เธียรเสียก่อน “ขอตัวเดี๋ยวนะ”

“?!” เอาจริงดิ? เขาไม่รอฟังคำตอบจากฉันด้วยซ้ำ หยิบมือถือขึ้นมารับสายแล้วก็เดินออกไปทันที ในเวลาแบบนี้…เขากล้ารับสายได้ยังไงกัน?!

พี่เธียรออกไปคุยโทรศัพท์ราวๆสิบนาที ก่อนจะกลับเข้ามาที่ห้องอาหารพร้อมสีหน้าที่ต่างจากตอนแรกราวฟ้ากับเหว สีหน้าของเขาเคร่งเครียด แววตาของเขาฉายแววสิ้นหวัง อยากรู้จริง…ว่าใครกันที่โทรมาหาเขา

“มีอะไรหรือเปล่า?” ฉันแสร้งทำเป็นถาม ต่อให้เขามีเรื่องเครียดฉันก็ไม่สน ยังไงวันนี้ฉันก็จะจบทุกอย่างอยู่แล้ว

“มีลูกแมวตัวน้อยกำลังพยศน่ะ พี่กำลังคิดว่าจะจัดการยังไงดี ว่าแต่ก่อนหน้านี้รันจะพูดอะไรนะ?” ลูกแมวพยศบ้าอะไรของเขากันเนี่ย?

“รันอยากมีลูกค่ะ”

“…” พอฉันพูดออกไปแบบนั้น พี่เธียรก็ทำหน้าเครียดยิ่งกว่าเดิม

“รันบอกว่าอยากมีลูก”

“ช่วงนี้งานพี่ยุ่งมาก ตั้งแต่ที่คุณพ่อโดนข่าวเสียหายจนหลุดออกจากตำแหน่ง…รันก็รู้ว่าพี่แทบไม่มีเวลา”

“ไม่มีเวลาหรือไม่อยากมีลูกกับรันกันแน่คะ?” บ้าจริง! ใจเย็นๆหน่อยสิมิรันตี…เธอมีเวลาอีกทั้งคืน

“ทำไมพูดแบบนั้นครับ?”

“ไม่รู้สิคะ รันแค่คิดว่าเราแต่งงานกันมาจนครบปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีลูกด้วยกัน…พี่เธียรคงลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเราไม่เคยได้ไปฮันนิมูนกัน แล้วพี่เธียรก็ดูไม่ค่อยจะสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ เหมือนมีแค่รันคนเดียวที่อยากจะมีลูก”

“พี่แค่…” หาข้ออ้างอยู่ล่ะสิ คิดสิ…ว่าจะพูดยังไงให้นังโง่แบบฉันเชื่อใจแล้วปล่อยให้นายสวมเขาต่อไป

“ช่างมันเถอะค่ะ” ฉันไม่ได้จะมาเอาผิดไอ้สารเลวนี่เรื่องลูก มันยังมีอีกหลายเรื่องที่ฉันอยากจะต้อนเขาให้จนมุมก่อนจะพูดเรื่องหย่าออกมา “แต่พี่เธียรไม่เคยพูดเรื่องบริษัทให้รันฟังเลยนะคะ”

“เพราะพี่คิดว่ารันไม่สนใจเรื่องนี้ พี่ไม่อยากให้รันเครียดน่ะ รันสนใจแค่งานศิลปะที่รันรักไปก็พอแล้ว”

“แต่รันอยากรู้ค่ะ อยู่ๆทำไมพ่อถึงโดนกล่าวหาว่ายักยอกเงินบริษัทคะ? ไหนจะเรื่องข่าวที่พ่อล็อบบี้ผู้บริหารอีก? แล้วก็…พี่เธียรไม่เห็นบอกรันเรื่องหุ้นของพ่อเลย…พี่เธียรได้หุ้น 30% ของพ่อมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”

“พี่ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาคุยเรื่องนี้กันเลยนะรัน”

“เวลาแบบนี้แหละค่ะเหมาะที่สุดแล้ว…หกเดือนที่แล้วพี่เธียรซื้อหุ้นจากรันไป 20% พอมาตอนนี้ก็มีหุ้นของพ่อรันเข้ามาอีก ก็เท่ากับว่าพี่เธียรถือหุ้นมากที่สุดแล้ว แถมยังได้ตำแหน่ง CEO ด้วย พูดง่ายๆเจนวานิช คอร์ปอเรชั่นเป็นของพี่เธียรแล้ว…” หกเดือนก่อนเขาซื้อหุ้นไปจากฉันจริง รู้ไหมเขาพูดอะไร? เขาบอกว่าเขามีแค่เงิน…มีแค่ตำแหน่ง COO แต่ไม่มีหุ้น เขารู้สึกเหมือนเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือน เขาอยากทำอะไรโดยไม่ต้องมานั่งเกรงใจใคร เลยขอซื้อหุ้นต่อไปจากฉัน ตอนนั้นฉันไม่เอะใจเลยสักนิดว่าเขาคิดจะทำเรื่องเลวทรามอย่างการฮุบบริษัทที่พ่อฉันสร้างมากับมือ

“รันกำลังพูดเรื่องอะไร?” ดูเขาตอนนี้สิ เขากำลังโกรธหนัก แต่ก็ยังเก็บอาการเอาไว้ หน้าเขานิ่งสุดๆ สองมือที่วางอยู่บนโต๊ะก็กำแน่น พูดมันเลยตอนนี้ดีไหม?

“รันแค่สงสัยว่าพ่อรันจะยักยอกเงินบริษัทไปทำไม เขาจะทำแบบนั้นกับบริษัทที่เขารักเท่าชีวิตเพื่ออะไร แล้วทำไมเขาถึงให้หุ้นกับพี่เธียรง่ายๆ”

“นี่รันคิดว่าพี่สร้างเรื่องขึ้นมาทำร้ายพ่อรันหรือไง?”

“รันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย…” ใช่! นายทำ!

“งั้นรันกำลังจะพูดอะไรกันแน่?!”

“ชัญญากับรินริน! พี่เธียรนอนกับสองคนนั้น!” ฉันไม่อยากยืดเยื้ออีกต่อไปแล้ว “พี่เธียรมีชู้!”

“หึ!” ให้ตายเถอะ…เขาทำเพียงแสยะยิ้มออกมาในตอนที่ฉันพูดมันออกไป!

“จะไม่แก้ตัวอะไรเลยเหรอ?”

“มีอะไรให้ต้องแก้ตัว? รันคิดไปแล้วนี่ว่ามันคือความจริง”

“พี่เธียร!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel