10 ธาตุแท้
ฉันนั่งคิดอยู่เป็นนานสองนานว่าจะทำยังไงเพื่อให้ได้เข้าไปทำงานที่เจนวานิช อาจต้องเล่าย้อนว่าตอนที่ฉันกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย พ่อบอกให้ฉันเลือกเรียนบริหาร แต่แล้วฉันทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความต้องการของพ่อ ฉันเลือกเรียนคณะจิตรกรรม…เพราะฉันรักศิลปะ ฉันรักการวาดรูป ตอนนั้นพ่อโกรธมาก พ่อแทบจะตีฉันด้วยซ้ำ แต่รู้ไหมว่าทำไมเขาถึงไม่ตี
‘ถ้าแม่ยังอยู่…พ่อจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้พูดกับรัน’
‘แล้วรู้ไหมว่าทำไมแม่ไม่อยู่? เพราะพ่อทำให้แม่เป็นทุกข์จนตรอมใจตายไง’
ประโยคเด็ดที่เป็นไม้ตายของฉัน ใช่…ฉันมันเป็นนังลูกชั่วที่พอพ่อทำอะไรให้ไม่ถูกใจก็จะอ้างการตายของแม่ขึ้นมาเพื่อทำให้เขารู้สึกผิด แต่รู้อะไรไหม…ยี่สิบกว่าปีก่อน ในตอนที่ฉันยังเด็ก…ฉันจำได้ดีว่าพ่อทิ้งเราสองแม่ลูกไปมีผู้หญิงคนใหม่ ความเจ็บปวดนั้นมันยังฝังใจมาจนถึงตอนนี้ ต่อให้เมื่อเวลาผ่านไปแล้วพ่อจะกลับมาแก้ไขความผิดก็เถอะ บอกเลยว่าความสุขสบายและเงินทองไม่สามารถลบล้างความเสียใจได้จริงๆ
สองสิ่งที่ฉันยอมทำตามความต้องการของพ่อคือการยอมออกเดตกับพี่เธียร อีกสิ่งคือยอมรับหุ้น 20% มาจากพ่อ ก็ใช่…พ่อบอกว่าหุ้นจะทำให้ฉันมีค่า จะทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่ไม่มีใครเอื้อมถึง แต่พ่อไม่รู้…ว่าหุ้นบ้านี่แหละที่ทำให้ฉันต้องตาย!
“พ่อคะ” บางทีฉันก็คิดนะว่ามิรันตีผู้มากับไฟปากไวราวกับจรวดมิสไซล์
“ว่าไงรัน?”
“รันอยากเข้าไปทำงานที่เจนวานิช” ฉันต้องพูด เพราะพี่เธียรทำเป็นลืมเรื่องนี้
“อะไรกัน? ปกติไม่เคยเห็นสนใจเรื่องบริษัท อยู่ๆมาบอกว่าอยากไปทำงาน แล้วงานศิลปะของลูกล่ะ…ไม่ทำแล้วเหรอ?”
“งานอาร์ตก็เอาไว้ทำตอนมีเวลาว่างไงคะ รันไม่อยากรับเงินปันผลเฉยๆ อยากมีส่วนร่วมด้วย พ่อช่วยหาตำแหน่งดีๆให้รันหน่อยนะคะ” พอฉันพูดออกไปแบบนั้นพี่เธียรก็คว้าไวน์มากระดกรวดเดียวหมดแก้ว คงไม่พอใจแต่พยายามเก็บอาการอยู่ล่ะสิ เป็นไง…รู้สึกถึงความสั่นคลอนเบาๆหรือยังคุณสามี?
“ตำแหน่งดีๆที่ว่านั่นคืออะไร? ไปทำครีเอทีฟดีไหม?”
“ครีเอทีฟก็ดูเหมาะรับกันดีนะครับ…ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ได้ทำงานกับสายติสต์ รันต้องชอบแน่” ได้โอกาสไอ้ผัวชั่วที่มีแผนร้ายก็เสริมขึ้นมาทันที คิดว่าฉันรู้ไม่ทันเหรอ? พ่อน่ะหวังดีอยากให้ฉันได้ทำงานที่ชอบ ส่วนนายน่ะเหรอ? ก็แค่อยากจะผลักฉันให้ออกห่างจากงานบริหารให้ได้มากที่สุดไง!
“แต่ถึงจะเป็นงานครีเอทีฟ พ่อก็รู้ว่ารันทำได้ไม่นานหรอก นิสัยแบบรัน…ทำงานประจำนั่งโต๊ะไม่ได้แน่”
“หึ”
“หัวเราะอะไร?!” ฉันได้ยินชัญญาเยอะเย้ยฉันด้วยการแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ เลยหันไปถามทันที
“รัน…” แต่แล้วพี่เธียรก็ห้ามฉันเอาไว้
“ก็รันได้ยินผู้หญิงคนนี้หัวเราะ เหมือนว่ากำลังเยาะเย้ยที่พ่อสบประมาทว่ารันทำงานที่เจนวานิชไม่ได้”
“รัน!” คราวนี้เป็นพ่อฉันที่ตะเบ็งเสียงแข็งขึ้นมา
“แตะไม่ได้เลยนะเมียคนนี้ของพ่อ! คนเก่าไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย”
“หยุดเถอะครับ ถือว่าพี่ขอร้อง พี่ไม่อยากเห็นรันทะเลาะกับคุณพ่อ” พี่เธียรกุมมือฉันแน่นอยู่ใต้โต๊ะ โน้มตัวมากระซิบที่ข้างหู
“ฟังนะรัน พ่อไม่ได้สบประมาทลูก แต่พ่อรู้ว่าลูกไม่ได้ชอบงานออฟฟิศ”
“รันทำได้! แล้วรันก็จะทำ! แต่รันไม่เอาตำแหน่งครีเอทีฟ…รันอยากได้ตำแหน่งที่สูงกว่านั้นค่ะ” ฉันยืนยันความต้องการของตัวเองกับพ่อแล้วก็พี่เธียร จ้องตาพวกเขาไม่วางเพื่อบอกว่าฉันจะไม่ยอมลงให้ง่ายๆ
“ก็ได้ๆ เอาไว้พ่อจะหาตำแหน่งดีๆให้ พอใจหรือยัง? ถ้าพอใจแล้ว…ก็จบเรื่องนี้ซะ อย่าทำให้เสียบรรยากาศเลย” สุดท้ายพ่อก็ต้องยอม ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองชนะในศึกพ่นน้ำลายครั้งนี้ เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงคือการบอกให้ชัญญาได้รู้ว่ายังไงซะ ฉันก็เป็นลูกสาว…และลูกสาวก็ย่อมสำคัญกว่าเมียเก็บ เพราะงั้นนับวันรอที่แกจะโดนเขี่ยทิ้งได้เลย!
“รันทำแบบนั้นทำไม?”
พี่เธียรถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยความไม่พอใจขณะที่เราช่วยกันเก็บโต๊ะอาหารหลังจากพ่อกับนังเมียเก็บกลับไปแล้ว ฉันรู้ว่าเขาคงกำลังสงสัยว่าทำไมถึงหาเรื่องชัญญา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะทำ จริงสิ…ทำไมก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยแคร์เรื่องชัญญาเลยนะ? ตอบแบบเร็วๆเลยนะ เพราะตอนนั้นฉันไม่รู้ไงว่านังบ้านี่จะมาแอบเป็นชู้กับสามีฉัน!
“พี่เธียรหมายถึงเรื่องอะไรคะ?”
“หาเรื่องชัญญา หาเรื่องคุณพ่อ ปกติรันไม่ใช่คนก้าวร้าวแบบนี้”
“ก้าวร้าวเหรอ?” ฉันวางจานในมือแล้วหันมองพี่เธียร นี่เขาเพิ่งว่าฉันก้าวร้าวงั้นเหรอ?!
“พี่ไม่ชอบที่รันก้าวร้าว”
“แล้วชอบแบบไหนคะ? แบบเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ ไม่หือไม่อือ อยู่แบบเงียบๆแล้วตายไปอย่างโง่ๆ นั่นสินะที่พี่เธียรชอบ!”
“รัน!”
“ใครจะรู้คะว่านี่อาจเป็นธาตุแท้ของรัน…ผิดคาดใช่ไหมคะ? พี่เธียรคงคิดว่าจะได้แต่งงานกับผู้หญิงหงิมๆ ขอโทษนะคะที่รันทำให้พี่เธียรผิดหวัง” บ้าจริง! แผนคือทำให้เขาตกหลุมรักไงมิรันตี นี่เธอกำลังหาเรื่องทะเลาะกับเขาอยู่นะ เผ่นก่อนดีกว่า…อารมณ์กำลังคุกรุ่นเลย เดี๋ยวจะไปกันใหญ่
“จะไปไหนครับ?” หนีไม่พ้น พอทำท่าจะเดินออกมาจากห้องครัว พี่เธียรก็เข้ามาคว้าแขนฉันไว้
“ไปอาบน้ำนอน!”
“เรายังคุยกันไม่เคลียร์เลย รันจะหนีไปแบบนี้ไม่ได้”
“เคลียร์แล้วค่ะ พี่เธียรว่ารันก้าวร้าวแค่นั้นจบ!”
“ไม่จบครับ! รันโกรธที่พี่ว่า…แทนที่จะแก้ตัวแต่กลับบอกว่ามันคือธาตุแท้ นั่นคือการประชดครับ…ถ้าพี่เข้าใจผิด สิ่งที่รันควรทำคืออธิบาย จะเดินหนีกันแบบนี้ไม่ได้” ดูเขาสิ นี่เขากำลังอินกับบทสามีผู้แสนดีอยู่หรือไงนะ เล่นซะเนียนเลย…ก็ว่าทำไมฉันถึงได้รักหัวปักหัวปำแบบนั้น
“แล้วถ้ามันไม่ใช่การประชดล่ะ? ถ้ามันคือธาตุแท้ของรันจริงๆ พี่เธียรจะรับได้ไหมที่มีเมียนิสัยเสีย?”
“รัน…”
“รันน่ะเผยธาตุแท้ของตัวเองแล้ว พี่เธียรล่ะ…เผยออกมาหรือยัง? เก็บโต๊ะไปนะคะ…รันจะไปอาบน้ำแล้วเข้านอน บาย!” จบคำนั้นฉันก็บิดแขนออกจากเกาะกุมแล้วเดินออกมา งงไปสิ! งงเป็นไก่ตาแตกไปเลยเธียร!
MILANTI END
