บทที่ 1 เป้าหมาย
21s Club : 22.30 PM
แสงสี ดนตรี และเบียร์เย็นๆ คือสิ่งที่อลิชาชอบ เพราะมันทำให้เธอไม่เหงาและไม่รู้สึกว่าชีวิตมันน่าเบื่อจนเกินไป เธอชอบมาที่คลับ...มาดื่ม มาฟังเพลงและเต้นจนสุดเหวี่ยง เธอชอบอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ อยู่ท่ามกลางผู้คน...เธออยากเป็นที่กล่าวขาน เธออยากเป็นที่รู้จัก พูดง่ายๆว่าเธออยากโด่งดัง...ด้วยเหตุผลที่ต่างออกไปจากที่คนอื่นคิด
“ลิชา ผู้ชายคนนั้นมองแกไม่วางตาเลย ฉันว่าอีกไม่เกินห้านาทีเขาต้องเข้ามาขอไลน์ไม่ก็ไอจีของแกแน่” พริบพราว หนึ่งในเพื่อนสนิทและหุ้นส่วนกิจการของอลิชาเอ่ยขึ้น ขณะที่พวกเธอกำลังเต้นอยู่ในแดนซ์ฟลอว์
“ฉันว่าเขาคงไม่ขอไอจีหรอก เพราะเขาน่าจะติดตามไอจีลิชาอยู่แล้ว” จีน่า ก็เช่นกัน ทั้งสามสาวเป็นเพื่อนรักที่เรียนแฟชั่นดีไซน์มาด้วยกัน และเวลานี้ก็ร่วมกันเปิดแบรนด์ดังที่ชื่อว่า Girls ขึ้นมา ซึ่งสาวๆที่ชื่นชอบการแต่งตัวในเมืองไทย ไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์นี้
“ก็จริง ตอนนี้แกมียอดฟอลโล่ไอจีอยู่เท่าไหร่นะลิชา?”
“ล้านห้าแสน” หญิงสาวในวัยยี่สิบห้าปีเอ่ยตอบ ถึงแม้ว่าอลิชาจะเพิ่งเรียนจบและกลับมาจากฝรั่งเศสได้ไม่นาน และถึงแม้ว่าแบรนด์ Girls จะเพิ่งเปิดตัวได้ไม่ถึงปี แต่ต้องยอมรับว่าแบรนด์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อลิชากลายเป็นคนดังที่มีผู้คนให้ความสนใจ ทั้งๆที่เธอไม่ใช่ดารา เธอเป็นเพียงดีไซเนอร์หน้าใหม่ไฟแรง แต่เธอกลับได้รับคำชื่นชมและแม้แต่คนดังรวมถึงดารายังยกย่องให้เธอเป็นไอคอนด้านแฟชั่น และไม่แปลกที่อลิชาจะมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เพราะไม่ว่าอลิชาจะใส่เสื้อผ้าอะไร รองเท้าแบบไหน หรือแม้แต่ถือกระเป๋าอะไร มันก็เป็นที่สนใจไปหมดทุกอย่าง ซึ่งหากว่าเป้าหมายของอลิชาคือการเป็นคนดัง ก็นับว่าเธอทำมันสำเร็จแล้ว ทว่าเธอปฏิเสธ...เธอบอกอยู่เสมอว่าเธอยังไปไม่ถึงเป้าหมาย เพราะเธอยังดังไม่พอที่จะทำให้ใครบางคนสังเกตเห็นเธอ
“นั่นไง เขาเดินมาแล้ว ว้าว! หน้าตาดีไม่พอ...หุ่นยังดีด้วย เขาเป็นนายแบบแน่ๆ ฉันว่าฉันคุ้นหน้าเขานะ” พริบพราวทำหน้าทำตาตื่นเต้น ทั้งๆที่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับพวกเธอ ทุกครั้งไม่ว่าอลิชาจะไปไหนหรือทำอะไร ก็มักจะมีแต่คนสนใจหรือเข้ามาขอไลน์เธออยู่เสมอ
“ฉันสงสารจัง เพราะเขาจะต้องหน้าแตกกลับไป” และจีน่ารู้ดีว่าการที่คนแปลกหน้าจะเข้าหาอลิชาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
“ขอเต้นด้วยได้ไหมครับ?” ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาสามสาวพร้อมกับคำถาม ซึ่งเขาก็ไม่ได้รอคำตอบ เลือกที่จะเข้าไปใกล้อลิชา เริ่มโยกกายให้เข้าจังหวะเพลงร่วมกับเธอ และ...กลิ่นน้ำหอมของเขามันทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
“รีบหนีเถอะ ฉันไม่อยากมีเรื่อง” พริบพราวกระซิบที่ข้างหูเพื่อนสาวเบาๆ
“อลิชาใช่ไหม? พี่ตามไอจีอยู่ ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่” นายแบบหนุ่มทักทายอลิชาด้วยความเป็นกันเองและเลือกที่จะแทนตัวเองว่า ‘พี่’
“ลิชามาที่นี่บ่อย ที่นี่เป็นที่ประจำ” เธอตอบเสียงเรียบ ไร้รอยยิ้มแสดงความเป็นมิตรใดๆ
“จริงหรือเปล่า? ที่นี่ก็เป็นที่ประจำของพี่เหมือนกัน พี่ชื่อซีนะ ยินดีที่ได้รู้จัก...” ซียื่นมือมาตรงหน้าอลิชาพร้อมรอยยิ้ม แต่หญิงสาวกลับไม่รับมิตรภาพนั้นไว้ เธอทำเหมือนว่าไม่เห็นมือของเขาที่ยื่นมา
“ค่ะ”
“จะเป็นไรไหมถ้าพี่อยากจะแลกไลน์กับลิชา” นายแบบหนุ่มเก็บมือตัวเองแทบไม่ทัน ก่อนจะเอ่ยขอในสิ่งที่สามสาวรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไร
“เป็นค่ะ” อลิชาตอบ
“หืม?”
“คือลิชาไม่เคยให้ไลน์ใครที่เพิ่งเจอกันแค่ครั้งเดียว หวังว่าพี่ซีคงเข้าใจ” เธอรู้วิธีที่จะชักจูงคน รู้วิธีที่จะบอกให้เขาทำในสิ่งที่เธอต้องการ ที่สำคัญ...เธอรู้ว่าจะต้องปฏิเสธยังไงให้พวกเขาไม่รู้สึกหน้าแตกจนหมอไม่รับเย็บ
“ละ...แล้วเราจะได้เจอกันอีกครั้งเหรอ? ถ้าไม่แลกไลน์กันไว้”
“ได้เจอสิ พี่ซีเพิ่งบอกเองไม่ใช่เหรอว่าพี่มาที่นี่บ่อย เดี๋ยวเราก็คงได้เจอกันอีก...”
“งั้น...พี่ก็หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก” ขณะที่บอกออกมา ซีก็ยื่นมือมาจับเอวบางไว้แน่น ประชิดตัวเข้ามาใกล้
“ลิชา! กลับไปที่โต๊ะกัน!” ซึ่งจีน่ารู้ดีว่าเพื่อนของเธอไม่ชอบให้ใครมาถือวิสาสะแตะต้องตัว จึงเข้ามาดึงแขนของอลิชาให้ออกจากเกาะกุมของนายแบบหนุ่ม ก่อนที่อลิชาจะลงมือเสียเอง
“เดี๋ยวสิ” แต่ซีก็รั้งเอวบางไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้ของดีหลุดไปจากมือ
“จะมาขอไลน์หรือมาขอเอาคะ? เพิ่งเคยเจอกัน...คุยกันไม่ถึงห้าประโยคด้วยซ้ำ อย่ามาโดนตัว!” ดีไซนเนอร์สาวคนดังจ้องหน้านายแบบนิ่ง ปัดมือหนาออกจากเอวอย่างแรง
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง? พี่แค่อยากเต้นด้วย...”
“อยากเต้นก็เต้นสิ จะมาจับเอวทำไม?! คิดว่าฉันง่ายเหรอ?!”
“ก็แล้วไม่ง่ายเหรอวะ?! แค่ดูการแต่งตัว แค่ดูเวลาที่ถ่ายรูปลงไอจี...แค่นั้นก็น่าจะรู้แล้วปะว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหน?!”
พลั่ก!!!
“โอ้ย!!” เสียงร้องดังขึ้น ตามด้วยเสียงฮือฮาของผู้คนที่กำลังมองมา ใช่...อลิชาต่อยหน้านายแบบหนุ่มเข้าเต็มแรงจนหน้าหงาย ก่อนที่เธอและเพื่อนอีกสองคนจะเดินออกไป โดยไม่ลืมทิ้งท้ายประโยคสำคัญเอาไว้
“ฉันจะเป็นผู้หญิงแบบไหนมันก็เรื่องของฉัน! นายไม่มีสิทธิ์มาตัดสิน! ไอ้สวะ!”
♥
ที่ชั้นสองของคลับ ร่างสูงคนหนึ่งกำลังยืนมองลงไปที่แดนซ์ฟลอว์ด้านล่าง เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง เขาเห็นมาตั้งแต่แรก ตั้งแต่ที่อลิชากับเพื่อนสองคนเดินเข้ามาในร้าน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอ
“ไอ้ติณณ์...” และชื่อของเขาก็ถูกเอ่ยขึ้น “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร...กูเห็นมึงยืนมองเขามานานแล้ว อย่าบอกนะว่าสนใจ?” แทนไท เพื่อนรักเพียงคนเดียวของติณณ์เอ่ยถามอย่างสงสัย
“อลิชาไง เด็กผู้หญิงตัวอ้วนที่มึงเคยเจอ...ตอนไปเล่นเกมบ้านกู”
“ตอนไหนวะ? กูจำไม่ได้...แล้วเขาก็โคตรสวย ไม่เห็นเหมือนเด็กตัวอ้วนอย่างที่มึงพูดเลย”
“สิบห้าปีที่แล้ว ก่อนที่กูจะย้ายไปอังกฤษ”
“เชี่ย! นานขนาดนั้นใครจะไปจำได้วะ?! กูไม่ได้ความจำดีเหมือนมึงนะ ว่าแต่...ถ้าเขาเป็นคนรู้จัก ทำไมมึงไม่เข้าไปคุยวะ?”
“เดี๋ยวก็ได้คุย เพราะเวลานั้นมันใกล้เข้ามาแล้ว”
“เวลาอะไรของมึงวะ?”
“กูต้องไปแล้ว มีธุระต่อ” ติณณ์วางมือบนบ่าของแทนไท ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น โดยที่ด้านหลังของเขามีลูกน้องสี่คนติดตามไปด้วย...
♥
ติณณ์เดินนำลูกน้องลงมาที่ชั้นล่างของคลับ ทันทีที่ผู้คนเห็นเขา ก็พากันหลีกทางให้ บ้างรู้จักเขาเป็นอย่างดี บ้างไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่เมื่อเห็นท่าทีที่น่าเกรงขามก็ต้องหลีกหนีให้ไกล ซึ่งขณะที่เขากำลังเดินผ่านโต๊ะของอลิชาไปนั้น พริบพราวก็เห็นและเอ่ยชื่อเขาขึ้นมาทันที
“นั่นมัน...”
“อะไรของแกพริบพราว?” จีน่าถาม
“ผู้ชายคนนั้นน่ะ เขาเป็นเจ้าของที่นี่ ไม่ใช่แค่ที่นี่...เขาเป็นเจ้าของคลับอีกหลายที่เลย เป็นนักธุรกิจด้วย แต่ฉันว่าเขาคือมาเฟีย” ชื่อของเขาติดอยู่ที่ปาก พริบพราวจำเขาได้ดี แต่นึกชื่อเขาไม่ออก
“ไหนมาเฟีย? แกพูดถึงใครวะ ฉันยังไม่ทันเห็นเลย” อลิชาเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอมือถือ
“ก็แกเอาแต่เล่นมือถือ แกจะเห็นได้ยังไง เขาเดินผ่านไปแล้ว”
“แกบอกว่ามาเฟียคนเมื่อกี้เป็นเจ้าของที่นี่เหรอ?”
“ใช่ เขามีชื่อเสียงนะ แต่เป็นชื่อเสียงแบบดาร์กๆน่ะ พวกมาเฟียก็เป็นแบบนี้แหละ”
“แกตื่นเต้นอะไรกับมาเฟีย? พวกนั้นก็แค่นักเลงที่หากินกับธุรกิจสีเทา” อลิชาส่ายหน้าไปมา
“ฉันไม่ได้ตื่นเต้นที่เขาเป็นมาเฟีย แต่ฉันตื่นเต้นที่ได้เจอเขา...เขาน่ะ หล่อพอๆกับพระเอกเลย หุ่นนี่ยิ่งกว่านายแบบ ยังหนุ่มแถมรวยโคตร ที่สำคัญ...เขากร๊าวใจสุดๆไปเลย”
“วันก่อนแกยังบ้าหนุ่มในเครื่องแบบอยู่เลย วันนี้แกจะคลั่งโจรแล้วเหรอ?”
“เขาไม่ใช่โจรย่ะ! เขาเป็นผู้มีอิทธิพลในย่านนี้...เรียกง่ายๆว่ามาเฟีย ติณณ์! ฉันนึกชื่อเขาออกแล้ว เขาชื่อติณณ์!”
“ว่าไงนะ?” เมื่ออลิชาได้ยืนชื่อนั้น หัวใจดวงน้อยของเธอก็เต้นแรงขึ้นมาในทันที “เมื่อกี้แกบอกว่าเขาชื่ออะไรนะ?!”
“ติณณ์...”
พรึ่บ!
พอได้ยินชื่อของเขาอีกครั้ง อลิชาก็ลุกวิ่งออกไปจากโต๊ะอย่างรวดเร็ว
“ไอ้ลิชา! แกจะไปไหนวะ?!”
