บท
ตั้งค่า

24 คนที่รอคอยมาทั้งชีวิต

“พริมแค่ไม่อยากให้พราวฟ้าเป็นห่วงเท่านั้นเอง เพื่อนของพริมคนนี้เจอเรื่องร้าย ๆ มาเยอะ พริมไม่อยากให้เพื่อนต้องกลุ้มใจเรื่องของพริมอีก” เขมชาติดันตัวหญิงสาวออกก่อนจะมองหน้าอย่างค้นคว้าหาคําตอบ

“เอาไว้พริมพร้อมกว่านี้ก่อนได้ไหมคะ...แล้วพริมจะบอกทุกอย่าง” นํ้าเสียงที่อ่อนลงของคนในอ้อมแขนทําให้ชายหนุ่มเริ่มใจอ่อน ทําไมเขาต้องใจอ่อนทุกทีให้กับผู้หญิงคนนี้ ทั้ง ๆ ที่เขามีเรื่องข้องใจตั้งมากมายที่ต้องการจะถาม แต่แค่คําพูดที่เอื้อนเอ่ยออกมาจากของคนตรงหน้า ก็แทบทําให้เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะถามต่อแล้ว แต่อย่างน้อยเขมชาติก็ยังรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ที่ได้รู้ว่าพริมโรสพักอยู่กับเพื่อนผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่เขากังวลแต่แรก

เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสําหรับเขาในตอนนี้ เขาต้องทําให้เธอไว้ใจให้ได้เขาต้องทําให้เธอ ยอมรับให้ได้

“คุณเป็นห่วงคนอื่นก่อนห่วงตัวเองอย่างนี้เสมอเลยหรือไง”

“พริม...” นิ้วชี้ของชายหนุ่มเลื่อนมาแตะริมฝีปากบางนั้นก่อนจะพูดจบ

“คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น...ผมจะรอจนกว่าคุณจะพร้อมและไว้ใจผม” เขมชาติสบตากับหญิงสาวอย่างมีความหวัง

“ผมรอมาทั้งชีวิตแล้ว... ถ้าผมต้องรออีกหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก ถึงเราจะเพิ่งเจอกันไม่นาน แต่ผมก็มั่นใจว่าคุณ...คือคนที่ผมรอมาตลอด” พริมโรสได้แต่ตะลึงกับคําพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากของชายหนุ่มตรงหน้า เธอไม่นึกมาก่อนว่าภายใต้ใบหน้าที่เย็นชา ไม่สนใจใครที่ไหน บุคลิกที่แข็งภายนอก เขมชาติกับซ่อนความอ่อนไหวไว้มากมายอย่างนี้

“พริมขอโทษ” คําพูดสั้น ๆ แค่ประโยคเดียวที่พริมโรส กล่าวออกมานั้น ทําให้เขมชาติมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคําถามว่าเธอขอโทษเขาด้วยเรื่องอะไร แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างอะไรกับเขาเลย กลับเพิ่มความสงสัยให้เขาต้องกลับไปคิดเพิ่มอีก เพราะก่อนที่หญิงสาวจะเปิดประตูรถลงจากรถไป เธอได้หันไปพูดกับเขาว่า

“ในชีวิตของฉันเคยทําผิดมาแล้วก็มาก ไม่ว่าต่อจากนี้ฉันจะทําอะไร ไม่ว่าฉันจะเจ้าเล่ห์แค่ไหน ฉันแค่อยากให้คุณรู้ไว้...ว่าฉันไม่เคยคิดร้ายคุณเลย”

เขมชาติเลื่อนรถไปจอดหลบฟากตรงข้ามก่อนจะขับออกไปจากซอยนั้น เมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ในบ้านเดินออกมาเปิดประตูให้พริมโรสที่กำลังรอเข้าบ้านแล้ว แต่ในขณะรอนั้นเขาไม่ยอมเสียเวลาเปล่า เพราะเขากดโทรศัพท์หาลูกน้องคนสนิททันที

“พรุ่งนี้ผมอยากได้ประวัติพนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทํางานภายในสามเดือนนี้มาให้หมด...แล้วผมมีเรื่องอยากขอร้องอีกเรื่อง ชงคมนายช่วยสืบประวัติของพริมโรสมาให้ฉันด้วย...ฉันขอแบบละเอียดด้วยนะ หาให้ได้และให้เร็วที่สุด”

เขมชาติยอมรับว่าเขารู้สึกสับสนในตัวเองมาก ใจหนึ่งเขาอยากจะไว้ใจและเชื่อใจพริมโรส แต่อีกใจเหมือนจะคอยยํ้าเตือนว่าอย่าเพิ่งประมาท เขมชาติไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่ไหนแต่ไรมา เขาเป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาด ไม่มีคําว่าลังเลแม้แต่น้อย แต่คราวนี้มันไม่ใช่อย่างนั้น ความเฉียบขาดที่เคยมีอยู่ในตัวดูเหมือนจะหายไปจนหมด

‘พริม คุณต้องการจะบอกอะไรผมกันแน่...’

“พริม...เป็นอะไรหรือเปล่า” พราวฟ้าถามเพื่อนทันทีที่เดินออกมาเปิดประตูให้ ถ้าจําไม่ผิดพราวฟ้าได้ให้กุญแจกับเพื่อนไปแล้ว แต่ทําไมพริมโรสยังกดกริ่งให้เธอมาเปิดประตูให้อีก ไหนจะกระเป๋าใบโตที่สะพายออกจากบ้านไปตอนเช้า แต่ตอนนี้กลับมาตัวเปล่า จะว่าเพื่อนเธอเอากระเป๋าไปลืมที่ไหนก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเพื่อนเธอคนนี้เป็นคนที่มีความจําดีเป็นเลิศ...ดีจนบางครั้งตัวเธอเองยังนึกกลัว อีกทั้งแววตาของพริมโรสตอนนี้ดูหม่นหมองเศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเจ้าตัวกําลังอยู่ในโลกส่วนตัว ในโลกส่วนตัวที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของการสูญเสียในอดีต ถ้าเทียบกับเรื่องของเธอแล้ว พราวฟ้าคิดว่าเรื่องที่พริมโรสเคยเผชิญมามันหนักหนาสาหัสกว่ากันมาก

“เปล่า” คําตอบสั้น ๆ และไม่คําอธิบายอะไรต่อ ทําให้พราวฟ้ามองหน้าด้วยความขัดใจ แม้ว่าอยากจะรู้มากแค่ไหน แต่ถามอะไรตอนนี้คงไม่ได้ เรื่องปากแข็ง ๆ ต้องยกให้พริมโรส ถ้าเธอไม่ยอมปริปากบอกอะไรใคร ก็ไม่มีวันที่ใครจะล่วงเธอความคิดเธอได้

“ขอบคุณนะพราว...ที่เป็นห่วง ตอนนี้พริมง่วงมากเลย ขอตัวไปนอน ก่อนนะ” พอพริมโรสพูดจบก็รีบเดินเข้าห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นล่างไปทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้พราวฟ้าได้พูดอะไรอีก ทําให้คนที่ถูกทิ้งไว้ได้แต่ส่ายหน้าอยู่กับที่

ที่ทำงาน

เช้าวันนี้เขมชาติเข้าไปในห้องสิ่งแรกที่เขามองหาคือกระเป๋าของพริมโรส ซึ่งดูเหมือนจะยังคงวางอยู่บนโต๊ะขนาดเล็กข้างโซฟาเหมือนเดิม ความที่เป็นคนที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของชาวบ้านทําให้เขารู้สึกลําบากใจไม่น้อยที่จะเปิดดูของในกระเป๋านั้น แต่คงเพราะความอยากรู้ที่มีมากกว่า ทําให้เขากล้าค้นดูสัมภาระในนั้น

เขมชาติหยิบกระเป๋าพร้อมกับเดินไปนั่งเก้าอี้นวมหลังโต๊ะทํางานตัวใหญ่ สมุดสเกตช์ภาพขนาดใหญ่ที่อยู่ในนั้น ทําให้เขมชาติรู้สึกสนใจมากเป็นพิเศษ เขาเปิดดูภาพในนั้นทีละภาพอย่างช้า ๆ ตอนแรกที่พริมโรสบอกว่าวาดรูปขายนั้น เขาคิดว่าหญิงสาวพูดเล่นเพราะว่าดูจากบุคลิกแล้วไม่น่าจะใช่

แม้จะเป็นแค่ภาพสเกตซ์แต่ว่าลายเส้นที่ขีดลงไปนั้นกลับสื่อถึงอารมณ์ และความงามได้เป็นอย่างดี แสดงว่าคุณนายระเบียบฝีมือดีไม่ใช่เล่น เมื่อพลิกไปเรื่อย ๆ เขมชาติกลับมาสะดุดภาพในแผ่นสุดท้าย ภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ แม้จะเป็นเพียงแค่รอยดินสอร่าง แต่เขากลับคุ้นตากับภาพนี้อย่าง ประหลาด ก่อนจะเหลือบตาไปเห็นลายเซ็นที่เซ็นกํากับไว้ตรงมุมล่างของกระดาษ ลายเซ็นนี้เขาแน่ใจว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน และเมื่อเขาพยายามอ่านลายมือนั้นอีกครั้ง ทําให้เขาต้องครุ่นคิดมากกว่าเดิม เพราะถ้าอ่านไม่ผิดตรงมุมลายนั้นเขียนไว้ว่า…‘ดอกพริม...’

ขณะที่เขมชาติกําลังคิดถึงชื่อที่ดูเหมือนเขาจะเคยได้ยินมาจากไหน มือก็ล้วงของชิ้นต่อไปขึ้นมาดู ไม่ว่าจะเป็นซีดีเพลงคลาสสิก ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็สองสิ่งนี้ก็ไม่น่าจะเข้ากันได้ ทําให้เขาได้แต่ทําใจว่าพริมโรสเป็นผู้หญิงแปลก ๆ ที่เขาเดาใจไม่ถูก และ ของที่เรียกความสนใจจากเขาได้มากที่สุดคงจะเป็นสมุดบันทึกเล่ม หนา

เขมชาติเปิดอ่านอย่างสนใจ เพราะเขาอย่างรู้ว่าหญิงสาวบันทึกอะไรไว้บ้าง และเขาก็พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นเบอร์โทรติดต่อซะมากกว่าที่จะเป็นบันทึกประจําวัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel