บท
ตั้งค่า

9 การกลับมา

“ใครมาแต่เช้า ตาองศาหรอ” รัศมีเอ่ยถามเด็กในบ้าน ขณะที่ตากำลังดูข่าวในโทรทัศน์

“เปล่าค่ะ”

“แล้วใครมา”

“คือ..คือว่า”

“ฉันถาม ทำไมไม่ตอบมัวอ้ำอึ้งอยู่ได้” รัศมีที่เริ่มหงุดหงิดเด็กในบ้านว่าขึ้น

“ไม่ใช่คุณองศาค่ะ”

“ไม่ใช่ตาองศาแล้วเป็นใคร ก็บอกฉันมาสิ”

“เอ่อ...”

“เดี๋ยวฉันเดินออกไปดูเอง” เมื่อเด็กในบ้านไม่ยอมพูด รัศมีจึงตัดสินใจออกไปดูออก อย่างตัดรำคาญ เพราะเสียงกดออดก็ดังไม่หยุด

“นั่นคุณผู้หญิงจะไปไหนนังน้อย”

“ไปหน้าบ้านจ้ะป้าบัว มีคนมา”

“เอ้ามีคนมาแล้วทำไมแกไม่เปิดประตูให้เขาเข้ามา”

“คุณหลินมา น้อยไม่รู้ต้องทำยังไง”

“แล้วคุณผู้หญิงรู้ไหมว่าคุณหลินมา” บัวถาม

“นังน้อย!” ซึ่งพอเห็นน้อยส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอก็รีบเดินตามออกไปทันที

“ป้าบัว รอน้อยด้วย”

“เปิดประตู” เสียงรัศมีออกคำสั่งเมื่อมาถึงประตูหน้าบ้าน ด้วยประตูเลื่อนไม่สามารถมองเห็นด้านนอกได้เธอจึงบอกให้คนเปิดประตู

“จะดีหรอครับ” ซึ่งพอลูกน้องไม่ทำตามเธอก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดี

“มันจะอะไรนักหนากะอีแค่เปิดประตู ต้องให้ฉันไปเลื่อนเปิดเองเลยไหม”

“ครับ ๆ ผมจะเปิดเดี๋ยวนี้”

“แก!” ทันทีที่ประตูเปิดออกเสียงไม่พอใจของรัศมีก็ดังขึ้นมาทันที

“สวัสดีค่ะ”

“ยังมีหน้ากลับมาเหยียบที่นี่อีกหรอ!”

“น้ำเหนืออยู่ไหมคะ”

“จะอยู่หรือไม่อยู่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับแก”

“หลินมาวันนี้ หลินไม่ได้อยากมีเรื่อง หลินแค่อยากเจอหน้าลูก เพราะงั้นคุณแม่อย่าพูดอะไรแบบนี้เลยนะคะ” ธริกาพยายามพูดดีด้วย ทั้งที่เธอไม่อยากจะพูดอย่างนับถือคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

“อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ ฉันมีลูกคนเดียว ตั้งแต่เกิดเรื่องชั่ว ๆ ที่เธอทำ ฉันก็ไม่นับญาติกับแกอีกแล้ว”

“แน่ใจหรอคะว่าเป็นฉันที่ทำ” เมื่ออีกฝ่ายพูดมาแบบนี้ เธอก็ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองเคารพอีกต่อไป

“แก!” มือยกขึ้นชี้ อย่างไม่พอใจ

“นังเด็กเมื่อวานซืนอย่างแก อย่ายืนเถียงฉันฉอด ๆ แบบนี้นะ”

“เถียงหรอคะ?” นิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเอง

“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ มีแต่คุณป้าที่ยืนพูดอยู่คนเดียว”

“นี่! ไม่มีใครสั่งสอนหรือไงว่าอย่าพูดต่อล้อต่อเถียงกับผู้ใหญ่แบบนี้”

“คุณผู้หญิงคะ ใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ” บัวที่เดินมาถึงรีบห้ามศึกแม่สามีลูกสะใภ้ทันที แม้ว่าตอนนี้สถานะของทั้งสองจะเป็นอดีตไปแล้ว

“มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดกันนะคะ”

“แกมาก็ดี ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับมัน ปิดประตูบ้านแล้วไล่มันกลับไปซะ”

“เดี๋ยวก่อนค่ะ” เป็นธริกาที่พูดขึ้น เมื่อเห็นรัศมีกำลังเดินกลับเข้าบ้านไป ซึ่งมันกำลังจะทำให้ความตั้งใจที่เธอจะมาหาลูกในครั้งนี้สูญเปล่า ถ้าวันนี้กลับไปโดยที่ไม่ได้เจอหน้าลูกเธอคงนอนไม่หลับแน่ ๆ

หลังจากเคลียร์กับปานวาดจบ เธอก็พาลูกเข้านอน แต่พอลูกหลับแล้วเธอกลับไม่หลับไปพร้อมลูกเหมือนปกติ ภายในใจคิดถึงแต่ลูกชายคนโตอยู่ตลอด จะเรียกว่าเธอตื่นเต้นจนนอนไม่หลับก็ว่าได้ เพราะงั้นตื่นเช้ามาเธอก็รีบพาลูกสาวมาที่บ้านหลังนี้เพื่อมาเจอลูกชาย

อันที่จริงเธอก็ไม่ได้อยากพาลูกสาวมาด้วย เพราะไม่อยากให้คนบ้านนี้รับรู้ถึงการมีอยู่ของน้ำหนาว แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ เธอไม่ไว้ใจที่จะให้น้ำหนาวอยู่บ้านหลังนั้นคนเดียวกับญาติ ๆ ของเธอ การมาหาน้ำเหนือในครั้งนี้เธอจึงให้ลูกสาวรออยู่ในรถก่อน เพราะเธอคิดไว้แล้วว่าเหตุการณ์อย่างตอนนี้ต้องเกิดขึ้น เธอไม่อยากให้ลูกสาวได้ฟัง หรือรับรู้อะไรที่มันแย่ ๆ

หลังให้รัศมีหยุด ซึ่งนั่นก็ทำให้รัศมีเดินกลับมาหาเธอ

“มีอะไร”

“ขอฉันเจอน้ำเหนือด้วยค่ะ”

“ไม่มีวันซะหรอก ในเมื่อแกเลือกทิ้งหลานฉันไปแล้วแกก็ไม่ควรกลับมาอีก”

“ทิ้งหรอคะ เป็นฉันหรอคะที่ทิ้งลูก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณ...”

ตัดมาที่สองพ่อลูกที่พึ่งกลับจากเดินทางแล้วแวะเอาของฝากมาฝากคนที่บ้าน

“คุณย่ายืนคุยกับใครครับพ่อ ทำไมถึงไม่เข้าไปคุยในบ้าน”

“นั่นสิ” กลทีป์ที่ตอนนี้รับหน้าที่เป็นคนขับตอบลูกชายไป แต่ยิ่งเขาขับรถเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ คิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากันมากขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว

“หลิน...” และเมื่อขับรถเข้ามาใกล้มากพอก็ทำให้เขาได้รู้ว่าคนที่ยืนคุยอยู่กับแม่เขาหน้าบ้านคือใคร จนทำให้เขาหลุดพูดชื่อเธอออกมา

“นั่นแม่ ใช่แม่ไหมครับพ่อ” น้ำเหนือว่าอย่างตื่นเต้น ดวงตาคมดุเหมือนผู้เป็นพ่อจับจ้องคนที่ยืนคุยกับคุณย่าของตนไม่วางตา แม่หน้าตาเป็นยังไงเขาจำได้ดี

เมื่อติดต่อแม่ไม่ได้เขาเลยขอรูปแม่จากพ่อมาดู แน่นอนว่าเขาดูมันบ่อยจนเขาจำได้ขึ้นใจว่าแม่เขาหน้าเป็นยังไง

และยังไม่ทันที่ผู้เป็นพ่อจะตอบอะไร เด็กชายก็เปิดประตูลงจากรถ ก่อนจะร้องเรียกแม่เสียงดัง

“แม่ครับ”

“แม่จริง ๆ ด้วย” ร้องเรียกแม่เพียงครั้งเดียวแม่ก็หันมาหา ทำให้เด็กชายยิ่งมั่นใจว่าคนตรงหน้าคือแม่ไม่ผิดแน่ ๆ เขาเลยรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างไม่ลังเล และไม่ฟังร้องเรียกของพ่อด้วย

“น เหนือ...”

เมื่อได้ยินเสียงลูกร้องเรียกและเห็นลูกกำลังจะวิ่งมาหา คนเป็นแม่ก็รู้สึกตัวชาวาบอย่างทำอะไรไม่ถูก ใจอยากจะเดินเข้าไปกอดลูก แต่ขามันกลับก้าวไม่ออก ทำให้เธอได้แต่ยืนนิ่งน้ำตาคลอ อ้าแขนรับรอลูกวิ่งมาหาอยู่กับที่

หมับ

“แม่กลับมาหาเหนือแล้ว แม่กลับมาหาเหนือแล้วจริง ๆ ด้วย ฮึก” เด็กชายน้ำตาคลอกอดขาผู้เป็นแม่ไว้แน่น ก่อนจะแม่จะทรุดตัวลงนั่งเสมอเขาแล้วกอดเขาตอบเช่นกัน

“ลูกแม่”

“นี่มันอะไรกันตาองศา ทำไมมันมาอยู่นี่ได้” รัศมีที่เห็นหลานกอดธริกาแน่นแบบนั้นก็ไม่กล้าไปแยกสองคนออกจากกัน กลัวจะเป็นคุณย่าใจร้ายในสายตาหลาน ถึงเธอจะไม่ชอบแม่ของหลาน นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเกลียดหลาน เพราะในตอนนี้เธอมีหลานชายคนเดียวที่จะช่วยเธอสืบสกุล

“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ” กลทีป์ว่า โดยที่สายตาเขาจับจ้องไปยังลูกชายและอดีตภรรยา ที่ยังคงกอดกันไม่ปล่อย ยิ่งเห็นแบบนั้นเขาก็ยิ่งตระหนัก ว่าเขาจะปล่อยให้ลูกอยู่กับเธอ หรือใช้เวลากับเธอมากไม่ได้

“คนของแกที่คอยตามดูหายไปไหน”

“เรื่องพวกนั้นผมสั่งยกเลิกไปนานแล้วครับ”

“แล้วทีนี้จะเอายังไง แม่ไม่ยอมให้มันมาอยู่มาใกล้ หลานชายแม่แบบนี้หรอกนะ”

ระหว่างที่รัศมีและกลทีป์คุยกับอยู่ ธริกาเองก็ผละลูกชายออกจากอ้อมกอด ก่อนจะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ซึ่งลูกชายเธอก็ยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้เธอเช่นกัน นั่นก็ยิ่งทำให้คนเป็นแม่แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

“ไม่ต้องร้องนะครับ แม่กลับมาแล้ว แม่กลับมาอยู่กับเหนือแล้ว แม่จะไม่ทิ้งเหนือไปไหนอีก แม่สัญญา”

“จริงนะครับ”

“จริงครับ”

“พ่อครับ แม่บอกว่าแม่จะกลับมาอยู่กับเหนือแล้ว แม่จะมาอยู่กับเหนือแล้วครับ” น้ำเสียงมีความสุขพูดบอกพ่อ แต่ก็ไม่ยอมออกห่างจากแม่เลยแม้แต่น้อย

“คุณย่าครับ เหนือจะได้อยู่กับแม่แล้วนะครับ”

“เหนือลูก มาหาย่ามาเด็กดี” รัศมีหาได้ยินดีกับสิ่งที่หลานชายพูดไม่

เธอพยายามเรียกให้หลานชายมาหาโดยที่ตอนนี้เธอยืนอยู่ข้าง ๆ ลูกชาย

“ไปหาคุณย่าทำไมหรอครับ คุณย่ามีอะไรพูดมาได้เลยครับ เหนืออยากอยู่ใกล้ ๆ แม่” เมื่อได้ยินหลานชายตอบมาแบบนั้นรัศมีก็หน้าเสียทันที ก่อนจะพยายามพูดหว่านล้อมให้หลานชายเดินมาหาตน ยิ่งเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นเธอก็ยิ่งรู้สึกไม่อยากให้หลานชายเข้าไปใกล้ เธอกลัวว่าผู้หญิงแพศยาคนนี้จะมาแย่งเอาหลานชายของเธอไป

“นั่นสิคะคุณแม่ มีอะไรก็พูดมาเลยค่ะ” เป็นธริกาที่พูดขึ้นบ้าง โดยตอนนี้เธอลุกขึ้นยืนข้าง ๆ ลูกชาย พร้อมกับมือข้างหนึ่งที่โอบกอดลูกจากด้านข้างอย่างแสนรัก

“นะเหนือลูก มาหาย่ามาเด็กดีของย่า”

“เหนืออยากอยู่กับแม่ อยู่ใกล้ ๆ แม่ เหนือคิดถึงแม่” สิ่งที่น้ำเหนือพูดสร้างความไม่พอใจให้ผู้เป็นย่าอย่างมาก แต่เธอก็พยายามเก็บอาการ

ตรงข้ามกับธริกาที่เป็นแม่ หัวใจเธอเปี่ยมสุข แต่ในขณะเดียวกันมันก็เจ็บปวดไปด้วย เธอไม่รู้มาก่อนว่าลูกจะคิดถึงเธออยากอยู่ใกล้เธอแบบนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอคิดมากและเป็นกังวลมาตลอด กลัวว่าลูกจะไม่รัก กลัวว่าลูกจะเกลียด กลัวว่าลูกจะจำแม่คนนี้ไม่ได้ แต่มาวันนี้ได้ยินลูกพูดแบบนี้ คนเป็นแม่ก็มีกำลังใจพร้อมสู้ เพื่อจะทวงสิทธิ์ทุก ๆ อย่างของตัวเองกลับคืน

“งั้นพ่อขอคุยกับแม่หน่อยได้รึเปล่า” กลทีป์เดินมาหาลูกชายแล้วพูดขึ้น

ก่อนจะปรายตามองอดีตภรรยา

“ได้ครับ”

“อยากพูดอะไรกับฉันก็พูดตรงนี้เลยค่ะ ถ้าคุณพูดจบแล้วฉันจะพาลูกกลับ”

แต่เหมือนเธอจะไม่ยอมไปพูดกับเขาดี ๆ

“พาลูกกลับ?”

“คุณได้ยินไม่ผิด ฉันจะพาลูกกลับไปอยู่ด้วยกัน”

“เหอะ เธอพูดบ้าอะไรของเธออยู่” ประโยคนี้เขาโน้มตัวไปพูดให้เธอได้ยินกันสองคน ก่อนจะกัดปากพูดประโยคถัดมา

“ถ้าไม่อยากให้ลูกรู้เรื่องเลว ๆ ที่เธอทำ ก็ตามฉันมาดี ๆ”

“เหนืออยู่กับป้าบัวก่อนนะครับ เดี๋ยวแม่มา” ธริกาพูดบอกลูกก่อนจะเดินตามกลทีป์ไป หลังจากลูกพยักหน้าเข้าใจแล้ว และเธอก็เลือกที่จะฝากลูกชายไว้กับป้าบัวป้าแม่บ้านที่เธอเคารพ มากกว่าย่าแท้ ๆ ของหลานชาย นั่นก็ยิ่งทำให้รัศมีไม่พอใจในตัวเธอ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะหลานชายยังอยู่ตรงนี้

“ยายบัวว่าแม่กับพ่อจะคุยกันนานไหมครับ”

“ยายก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณหนู อาจจะสักพักมั้งคะ”

“งั้นเดี๋ยวหนาวไปเอาน้ำผลไม้มาให้แม่ดีกว่า”

“คุณย่าเอาด้วยไหมครับ”

“ไม่ดีกว่าจ้ะ ย่าขอไปนั่งพักในบ้านดีกว่า รู้สึกหน้ามืด ๆ”

“งั้นเดี๋ยวเหนือไปเอาน้ำให้แม่ก่อนนะครับ” เด็กชายว่าขึ้นอย่างอารมณ์ดี หลังจากเห็นพ่อกับแม่เดินไปคุยกันที่สวน

แต่ความอารมณ์ดีก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อเดินออกมาจากบ้าน แล้วเห็นแม่กำลังเปิดประตูขึ้นรถ ในตอนแรกเขาคิดว่าแม่จะขับรถเข้ามาในบ้าน แต่แม่กลับขับรถออกไป เห็นแบบนั้นเขาก็ทิ้งแก้วน้ำผลไม้แล้ววิ่งตามไปทันที

หมับ แต่กลับวิ่งไม่ได้ดั่งใจหวังเมื่อถูกน้อยที่เดินมาด้วยกันวิ่งมาตามจับไว้

“แม่ครับ!!”

“ปล่อยนะ เหนือจะไปหาแม่ ฮึก รอเหนือด้วย อย่าทิ้งเหนือไป ฮือ”

“คุณหนูหยุดก่อนค่ะ คุณหลินออกไปแล้วถึงตามไปก็ตามไปไม่ทันหรอกนะคะ”

“ไม่ เหนือจะไปหาแม่ เหนือจะอยู่กับแม่ เหนือจะอยู่กับแม่ ฮือ ๆ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel