8 เจ้าของบ้าน
“อันนี้บ้านของเราหรอคะ” เสียงใสเอ่ยถามผู้เป็นแม่ เมื่อตอนนี้ตัวเองกับแม่ยืนอยู่หน้าบ้านของใครก็ไม่รู้ แต่ก่อนหน้านี้แม่บอกว่าจะพามานอนบ้านคุณตา แต่เพราะคุณตาเสียไปแล้ว บ้านนี้เลยเป็นของเธอกับแม่ แม่บอกเธอแบบนั้น
“ใช่ค่ะ แต่ดูเหมือนตอนนี้จะมีคนอยู่”
“อ้าว ทำไมมีคนอยู่ล่ะคะ คุณแม่เคยบอกว่าบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่ไม่ใช่หรอคะ ตั้งแต่คุณตากับคุณยายเสีย” เด็กหญิงถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะไฟในบ้านถูกเปิด แทบจะทุกดวง ไหนจะไฟตกแต่งอีก
“นั่นสิคะ แม่ว่าเราเข้าไปดูกันดีกว่า” แม้จะรู้สึกหวั่น ๆ ที่อยู่ ๆ ก็มีคนมาอาศัยอยู่ที่บ้าน แต่เธอก็เชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยของหมู่บ้าน ที่คงไม่ยอมให้คนนอกมาอยู่อาศัย อีกอย่างเธอก็ให้แม่บ้านคอยมาทำความสะอาดตลอด เพราะงั้นนี่อาจจะเป็นแม่บ้าน
แต่พอเดินเข้ามาในบริเวณบ้านเรื่อย ๆ คิ้วเรียวก็เริ่มขมวดเข้าหากัน เมื่อรอบ ๆ มีการจัดตกแต่ง เหมือนจะมีงานเลี้ยงฉลอง
คงจะไม่ได้เลี้ยงต้อนรับเธอหรอกมั้ง เพราะการกลับมาครั้งนี้เธอไม่ได้บอกใครเลย แม้แต่คนในครอบครัว...
“คุณแม่ขา รถจอดเต็มไปหมดเลยค่ะ” ความสงสัยที่มีตั้งแต่เดินเข้าประตูรั้วบ้านที่ถูกเปิดกว้างไว้อย่างผิดปกติ เริ่มถูกคลี่คลายเมื่อได้ยินเสียงเพลง และป้ายบอกว่าทำไมถึงได้มีรถจอดเต็มบ้านเธอไปหมดแบบนี้
“งานวันเกิดของปานวาดงั้นหรอ เหอะ”
“เป็นงานวันเกิดค่ะคุณแม่ เราไม่ได้มาผิดบ้านใช่ไหมคะ”
“ไม่ผิดหรอกค่ะ เรามาถูกแล้ว”
“แล้วปานวาดเป็นใครหรอคะ”
“คุณน้าของหนูค่ะ”
“อ้าว แล้วทำไมคุณน้าถึงมาจัดงานวันเกิดที่บ้านของเราล่ะคะ วันเกิดของคุณน้า ทำไมคุณน้าไม่จัดที่บ้านของคุณน้า” ระหว่างเดินเข้าไปในบ้านสองแม่ลูกก็พูดคุยกัน ซึ่งก็เข้าขากันสุด ๆ
“นั่นสิคะ แม่ก็อยากรู้เหมือนกัน”
“คุณแม่ขา เสียงดังมากเลยค่ะ หนาวปวดหู” น้ำหนาว พยายามร้องบอกผู้เป็นแม่ พร้อมกับมือที่ยกมาปิดหูไว้ เมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้ว ซึ่งธริกาที่เห็นแบบนั้นก็พูดบอกลูกสาว พร้อมกับทำท่าทางประกอบ ว่าให้รออยู่ตรงนี้ เธอจะไปตัดไฟที่เปิดเครื่องเสียงตรงนั้น
พอลูกสาวพยักหน้าตกลง เธอก็เดินไปตัดไฟทันที อย่างไม่สนใจสายตาที่มองมา
พรึบ
ทันทีที่เพลงหยุดลง เหล่าผีเสื้อที่กำลังโยกย้ายอย่างเมามันส์ก็โห่ร้องทันที
ก่อนจะหันไปมองทางดีเจที่กำลังเปิดเพลงอยู่ อย่างต้องการคำตอบว่าทำไมเพลงถึงหยุดไป โดยเฉพาะเจ้าของวันเกิด ที่เดินดุ่ม ๆ มาถาม
“ปิดเพลงทำไม มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“อยู่ ๆ เครื่องมันก็ตัดไป ขอเช็ดแป๊บ”
“รีบหน่อย อารมณ์เสียจะแย่...”
“หรอ”
“ก็ใช่(น่ะสิ)...พี่หลิน” ทันทีที่เห็นลูกพี่ลูกน้องอย่างธริกา ปานวาดก็ตกใจทำตัวไม่ถูกทันที
“ใช่ฉันเอง” ธริกาตอบ พร้อมกับเดินเข้ามาหาปานวาดช้า ๆ
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เรื่องนั้นฉันไม่จำเป็นต้องบอกเธอ”
“ฉันต้องถามเธอมากกว่า ว่ามาใช้บ้านฉันจัดคอนเสิร์ตได้ตามอำเภอใจตั้งแต่เมื่อไหร่”
“พูดอะไรของพี่ นี่บ้านคุณพ่อ จะเป็นบ้านพี่ได้ไง” ปานวาดพยายามเถียง
“ต้องให้ฉันเอาทะเบียนบ้านมากางโชว์เลยไหม ว่าบ้านนี้ชื่อใคร” สิ่งที่ธริกาพูดทำให้เริ่มมีซุปซิบขึ้นมา จนทำให้เจ้าของวันเกิดอย่างปานวาดรู้สึกเสียหน้า
“ยังไงก็เชิญทุกคนออกจากบ้านของฉันด้วยค่ะ ฉันต้องการพักผ่อน”
“ปานวาดเธอจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอ” หนึ่งในผู้ร่วมงานวันเกิดพูดขึ้น ก่อนจะมีเสียงตามมา
“เขากำลังไล่พวกเราออกจากงานวันเกิดเธอนะ”
“ทำอะไรหน่อยสิ นี่เป็นงานวันเกิดเธอนะ เธอเป็นเจ้าของวันเกิด”
“ได้ยินเพื่อนเธอบอกไหม พูดอะไรหน่อยสิ หึ” น้ำเสียงที่ไม่เกรงกลัวต่ออะไรของธริกา ยิ่งทำให้ปานวาดรู้สึกโกรธ จนต้องกำมือไว้แน่น เพราะเธอทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านของธริกาจริง ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้พ่อกับแม่เธอก็ไม่อยู่
ทำให้ไม่มีใครช่วยเธอได้เลย
แต่จะให้พูดตอบโต้กลับไปเธอก็กลัวว่าทุกอย่างมันจะแย่ไปกว่าเดิม เพราะแค่ธริกามาประกาศว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เธอมาใช้บ้านหลังนี้โดยไม่ขออนุญาต ก็ทำให้รู้สึกเสียหน้ามากแล้ว
“พี่สาวฉันพึ่งกลับมาจากต่างประเทศ อาจจะยัง งง ๆ อยู่ ทุกคนกลับไปก่อนนะ”
“พี่หลินกลับมาเซอร์ไพรส์วันเกินวาดใช่ไหมคะ” จากที่เขม้นกันเมื่อคู่ อยู่ ๆ เจ้าของงานวันเกิดก็เดินเข้าไปกอดธริกาอย่างสนิทสนม ราวกับไม่ได้มีปากมีเสียงกันเมื่อคู่ ส่วนแขกในงานก็เริ่มทยอยกลับไป
“เด็กที่ไหน ทำไมหน้าคุ้นจัง หนูเป็นลูกใครคะ” หนึ่งในคนที่มางานวันเกิดพูดขึ้น
“...” แต่คนที่ถูกถามกลับยืนเงียบไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ
“แกว่าน้องหน้าคุ้น ๆ ป้ะ”
“เด็กที่ไหน ทำไมหน้าคุ้นจัง หนูเป็นลูกใครคะ”
“...”
"นายว่าน้องหน้าคุ้น ๆ ป้ะ”
“คงเป็นลูกของผู้หญิงที่มาบอกว่าเป็นเจ้าของบ้านมั้ง” ชายหนุ่มที่มาด้วยกันพูดขึ้น เพราะดูจะแต่งตัวคล้ายกัน
“ฉันว่าไม่ค่อยเหมือนอะ เหมือนอีกคนที่ฉันรู้จักมากกว่า”
“แต่ช่างเถอะ เราไปหาดื่มต่อที่อื่นกันดีกว่า ยังไม่เข้าเส้นเลย”
“อืม” ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้น ก็พยายามมองเด็กหญิงอีกครั้ง ซึ่งมันก็รู้สึกคุ้น ๆ เหมือนอย่างที่เธอว่าจริง ๆ แต่ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เขาเองก็นึกไม่ออกว่าเด็กคนนี้หน้าตาเหมือนใคร
“หนาวลูก” ก่อนที่สองคนจะเดินพ้นบริเวณก็ต้องหันมองตามเสียง เมื่อเหมือนมีคนเรียกเด็กหญิง
“คุณแม่” น้ำหนาวรีบเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่ทันที เพราะเธอไม่ชอบเลยที่มีหลายสายตามองมาที่เธอแบบนี้ อยู่กับแม่เธอรู้สึกปลอดภัยที่สุด
“หึ ชักสนุกแล้วสิ” ชายหนุ่มที่เดินออกจากงานมาพร้อมกับหญิงสาวเมื่อครู่พูดออกมาเบา ๆ เมื่อได้เห็นหน้าคนที่เด็กหญิงเรียกชัด ๆ
“สนุกอะไรหรอ”
“เปล่า รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวโต๊ะเต็ม”
กลับมาที่สองแม่ลูก
“ทำไมคุณแม่ไปนานจังเลยคะ”
“มีปัญหานิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้เรียบร้อยแล้ว”
“ลูกพี่หรอ” ปานวาดที่เดินตามมาถาม พร้อมกับมองอย่างอึ้ง ก่อนจะกระตุกยิ้มเบา ๆ เมื่อไม่เห็นเงาพ่อของเด็ก รวมถึงข่าวคราวว่าพี่สาวจะแต่งงานใหม่ หลังจากเลิกลากับอดีตสามี แล้วหายตัวไป
ธริกาไม่ตอบ เธอจูงมือลูกสาวผ่านหน้าปานวาดไป ซึ่งนั้นก็สร้างความไม่พอใจให้ปานวาดเป็นอย่างมาก ที่ธริกาไม่เห็นหัวเธอเลยแบบนี้
“เราจะไปไหนกันหรอคะ”
“ไปห้องนอนค่ะ” ธริกาตอบลูก แต่พอเดินมาถึงห้องและเปิดประตูเข้าไป เธอก็ต้องผ่อนลมหายใจอย่างพยายามสงบอารมณ์ เมื่อห้องที่เธออยู่อาศัยมาตั้งแต่เกิดถูกปรับเปลี่ยนไป รวมถึงของอื่น ๆ ในห้องก็หายไปด้วยเช่นกัน หายไปไม่เท่าไหร่ มันกลับมีอะไรหลายอย่างมาแทนที่ด้วยนี่สิ
“นี่มันอะไรกันวาด” เธอหันไปถามลูกพี่ลูกน้องอย่างปานวาด ที่เดินตามมาทันที
“ทำไมของเธอถึงได้มาอยู่ห้องฉันแบบนี้ แล้วของของฉันไปไหน”
“พี่จะโวยวายทำไมเนี่ย ของฉันอยู่นี่มันก็แปลว่าห้องนี้เป็นของฉันไง”
“แล้วจะไม่ให้ฉันอยู่เฉยได้ไง นี่มันบ้านฉันห้องฉัน เธอใช้บ้านฉันจัดงานวันเกิดโดยไม่ขออนุญาตก็ทีนึงแล้ว แล้วนี่ยังมานอนห้องฉัน มาย้ายของของฉันโดยภาระการอีก ฉันไม่แจ้งตำรวจจับเธอก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“น่าเบื่อ หายไปแล้วจะกลับมาอีกทำไมก็ไม่รู้ คนเขาคิดว่าพี่จะไม่กลับมาแล้ว” ไม่พูดเปล่าปานวาดยังกรอกตาเบะปาก
“ถึงฉันจะไม่กลับมา แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์มาอยู่อาศัยบ้านของฉันโดยไม่ขออนุญาตแบบนี้”
“เหอะ พูดเหมือนว่าขอแล้วจะให้มาอยู่”
“เสียงดังอะไรกัน”
“คุณพ่อ” พอเห็นว่าคนที่จะปกป้องเดินมา ปานวาดก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
“อ้าว หลินกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“สวัสดีค่ะคุณอา หลินพึ่งมาถึงค่ะ”
“ขอโทษนะที่พวกอาถือวิสาสะเข้ามาอยู่โดยไม่ได้บอกเราก่อน” หลังจากมานั่งห้องรับแขกกันดี ๆ อดิศรหรืออาของธริกาก็พูดขึ้น
“พอดีว่าบ้านอารีโนเวทใหม่น่ะ อาเลยมาอยู่ที่นี่รอก่อน อาไม่รู้ว่าหลินจะกลับมา ก็เลยไม่ได้บอก เพราะถ้าบ้านเสร็จอาก็จะกลับ”
“คุณจะไปขอโทษมันทำไม” นภาภรรยาอดิศรพูด ก่อนจะถูกสามีว่าด้วยน้ำเสียงกดต่ำ
“เงียบน่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงก็ช่วยย้ายออกจากที่นี่ภายในอาทิตย์นี้ด้วยนะคะ หลินกับลูกต้องการความเป็นส่วนตัว”
“แล้วคนข้าง ๆ เรา จะไม่แนะนำให้อารู้จักหน่อยหรอ”
“น้ำหนาวนี่คุณตาศิ น้องชายคุณตาค่ะ ส่วนนี้คุณยายภาแฟนคุณตา”
“สวัสดีค่ะ”
“น้ำหนาวเป็นลูกสาวหลินเองค่ะ”
“งั้นหรอ กี่ขวบแล้วล่ะ”
“ห้าขวบแล้วค่ะ” เป็นธริกาที่ตอบ
“เด็กสมัยนี้โตวัยจริง ๆ”
“คุณแม่ขาแล้วคุณป้าคนนี้คือใครหรอคะ” เสียงเล็ก ๆ ถามออกมาซึ่งคำว่าป้าก็สะกิดใจปานวาดยิ่งนัก เธอออกจะหน้าเด็กขนาดนี้ นังเด็กนี้กล้าดียังไงมาเรียกเธอว่าป้า
“ยัยเด็กบ้า ใครป้าแก!”
“นอกจากไม่มีพ่อแล้วยังปากเสียอีก”
“คุณป้า! หนาวมีพ่อนะ อย่ามาพูดว่าหนาวไม่มีพ่อนะ” ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นกอดอก ใบหน้าจิ้มลิ้มปั้นบึ้งอย่างไม่พอใจ
“ถ้าแกมีพ่อจริง ไหนพ่อแกล่ะ”
“นี่ยัยวาด กับเด็กก็จะไม่เว้นเลยใช่ไหม โตแล้วก็รู้จักคิดหน่อย” เป็นเสียงของอดิศรที่ว่าลูกสาวนั่นก็ทำให้ปานวาดมองพ่อด้วยสายตาตัดพ้อเสียใจมันที เพราะพ่อไม่เคยจะดุจะว่าเธอมาก่อน ตั้งแต่ที่ธริกากลับมา เธอกับแม่ก็ถูกพ่อดุพ่อว่าแล้ว
“คุณพ่อ...” เพราะงั้นเธอจึงลุกเดินหนีออกไปทันที
“วาด เดี๋ยวก่อน รอแม่ด้วยลูก” นภาที่เห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นเดินตามลูกสาวไป
