บท
ตั้งค่า

4 อดีตที่เคยหวาน

วันเวลาผ่านเลยมาอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีลูกชายเพียงคนเดียวของกลทีป์ก็อยู่ชั้นประถมแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงยืนมองวิวยามค่ำคืนผ่านกระจกใสในตัวห้อง ระหว่างรอลูกชายอาบน้ำ นับจากวันที่เขาและเธอรู้จักกันและเริ่มคบหาดูใจกันก็เกือบสิบปีได้แล้ว ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวจะทำให้เขาจำไม่ลืมแบบนี้

“พี่ถึงไหนแล้วคะ หลินอยู่หน้าตึกแล้ว”

“กำลังเลี้ยวเข้าตึก”

“หลินเห็นละ งั้นเดี๋ยววางสายเลยนะคะ”

“ไม่เอา อยากได้ยินเสียงแฟน คิดถึง”

“ปากหวานจังเลยนะคะ”

“ก็เคยลองแล้วหนิ หึ”

“ไม่คุยด้วยแล้ว รีบขับมาจอดเลย”

“คร้าบคุณแฟน กระผมจะเข้าไปจอดเดี๋ยวนี้”

“เบาะนั่งไม่สบายหรอ ให้ปรับให้ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามแฟนสาวที่ขยับตัวไปมาหลังจากขึ้นมานั่งในรถแล้ว

“ไม่เป็นไรค่ะ หลินแค่รู้สึกแปลก ๆ น่ะ เพราะเมื่อเช้าจำได้ว่าปรับไว้แล้ว” ธริกาพูดออกมาตามตรง เพราะเมื่อเช้าเขาเป็นคนขับมาส่งเธอเอง ก่อนที่เขาจะขับรถออกไปทำงาน

เขาอายุมากกว่าเธอสองปี เราคบกันตอนที่เธอเรียนอยู่ปีหนึ่ง เธอเป็นเฟรชชี่เขาเป็นพี่ในสาขา ที่แทบไม่เข้าร่วมกิจกรรมอะไรเลย แต่เหมือนวันนั้นเขาถูกเพื่อนลากให้มาเข้างาน แน่นอนว่าความสูงและรูปร่างหน้าตาของเขามันสะดุดตาของใครหลาย ๆ คน รวมถึงเธอด้วย แต่เธอก็ไม่ได้อะไรเพราะคิดว่าคนแบบเขาน่าจะมีแฟนแล้ว คงไม่อยู่โสดมาถึงตอนนี้ อีกอย่างเธอก็อยากโฟกัสกับการเรียนมากกว่า เพราะเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน มีกิจการของครอบครัวที่ต้องรับช่วงต่อ

เพราะงั้นเธอเลยแอบปลื้มเขาเงียบ ๆ เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือฟ้าลิขิตให้เธอได้เจอกับเขาบ่อย ๆ เพราะเขาเป็นเพื่อนของพี่ชายเพื่อนสนิทเธอ ที่อกหักเป็นว่าเล่นลากเธอไปร้านเหล้าเป็นประจำ แน่นอนมันก็ต้องมีดื่มบ้าง แล้วเธอก็ไม่ใช่คนคอแข็งอะไร

เพื่อนสนิทของเธอก็มีพี่ชายรับกลับไปดูแล...ส่วนเธอไหงกลายเป็นเขาที่คอยดูแลก็ไม่รู้ นานวันเข้าความรักเริ่มก่อตัว อยู่ ๆ ก็ถูกเขาจีบอย่างไม่ทันตั้งตัวซะงั้น

ด้วยความที่ปลื้มเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อะไร ๆ มันก็เลยง่ายลงตัวไปซะหมด ยิ่งไปกว่านั้นในตอนที่เธอไม่เหลือใครก็มีเขาอยู่เคียงข้าง

นั่นคือสิ่งที่เธอเล่าให้เขาฟังหลังจากที่เธอเปิดใจคบกับเขาแล้ว แต่ก่อนที่จะได้คบกับเธอ ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกันกว่าเธอจอมเปิดใจให้เขา รับเขาเข้าไปในหัวใจของเธอจริง ๆ

“เรามาคบกันเถอะ ต่อจากนี้พี่จะดูแลเราเอง”

“ให้โอกาสพี่ได้ดูแลเรานะ” น้ำเสียงหนักแน่นเจือด้วยความอ่อนโยนว่าขึ้น

แม้ในตอนนี้มันจะไม่ใช่เวลาที่จะมาขอคบกัน แต่เขาก็ไม่รู้จะปลอบเธอยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาอยากให้เธอรู้ว่ายังมีเขาคนนี้ที่อยู่ข้างเธอ อยู่กับเธอในวันที่เธอไม่เหลือใคร

อีกอย่างอาทิตย์หน้าเขาก็ตั้งใจจะขอเธอคบในวันเกิดของตัวเองอยู่แล้ว

เลื่อนมาเร็วขึ้นคงจะไม่มีปัญหาอะไร หลังจากพูดมันออกแล้ว มือก็คอยลูบแผ่นหลังบางไม่ห่างอย่างรอคำตอบ ส่วนคนโดนขอคบก็ยังคงนั่งร้องไห้ซบที่อกของเขา

“ฮึก ละ หลินไม่รู้ ฮือ ๆ” ในตอนนี้ความเสียใจที่เกิดมันมีมากจนเธอไม่สามารถรับรู้เรื่องอื่นได้ มันเจ็บไปหมดทั้งใจ จุกอกจนแทบหายใจไม่ออก เธอไม่คิดเลยว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับตัวเธอเอง...

“หลินไม่เหลือใครแล้ว ฮือ ๆ”

“ยังมีพี่นะ เรายังมีพี่ พี่จะดูแลปกป้องเราเอง...คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับผมสัญญาว่าผมจะปกป้องดูแลหลินอย่างดี” พูดกับคนในอ้อมกอดแล้ว ก็เงยขึ้นพูดกับร่างไร้วิญญาณที่มีเพียงผ้าขาวคลุมไว้

“ฮือ ๆ” และเสียงสะอื้นไห้ปานจะขาดใจของคนในอ้อมแขนก็ทำเขาเจ็บไปด้วยเช่นกัน

“คุณพ่อ ฮึก คุณแม่ไม่อยู่กับหลินแล้ว ฮือ ๆ ไหนบอกจะอยู่รอดูความสำเร็จของหลินไงล่ะคะ ฮือ ๆ” ร่างบางที่สั่นสะท้านไม่หยุดด้วยความเสียใจ ทำให้องศาต้องกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เธอร้องไห้อย่างเจ็บปวด เหมือนคนหัวใจแตกสลายจนเขาน้ำตาคลอไปกับเธอ...

ตั้งแต่รู้จักกันเขาดีกับเธอมาตลอดเสมอต้นเสมอปลาย รู้ตัวอีกทีก็มีเขาขับรถไปรับไปส่งตอนเรียน ป.โทแล้ว แน่นอนว่าจากปีหนึ่งถึงตอนนี้ เธอคบกับเขาจนถึงขั้นแต่งงานแล้ว ส่วนอายุเธอก็ยี่สิบเจ็ดแล้ว เขาก็จะสามสิบอีกไม่กี่เดือน

“หิวไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ

“ไม่ค่อย...พี่ล่ะคะหิวรึยัง”

“พี่ก็ไม่ค่อยเหมือนกัน งั้นกลับไปกินที่บ้านไหม พี่จะโทรบอกให้แม่บ้านเตรียมกับข้าวไว้ให้”

“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ แต่คุณแม่...”

“คุณแม่ไม่อยู่ เราสบายใจได้ ถึงอยู่พี่ก็จะปกป้องเราเองไม่ต้องห่วง” เขาหันมาบอกเธอพร้อมรอยยิ้ม

“ขอบคุณนะคะ... แต่ว่าหลินก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ไปตลอด ให้พี่ต้องคอยปกป้อง หลินอยากให้คุณแม่รักคุณแม่เอ็นดูเหมือนกับแม่สามีลูกสะใภ้บ้านอื่น ๆ ...แต่หลินก็ไม่รู้ต้องทำยังไง คุณแม่ถึงจะเอ็นดูหลินบ้าง” ไม่รู้ว่าเพราะแม่เขามีคนที่หมายปองให้ลูกชายเพียงคนเดียวอยู่ก่อนแล้วหรือเปล่า ทำให้ท่านไม่ชอบเธอ เมื่อเธอมาแทนที่คนที่ตัวเองหมายมั่นให้

“เอาน่า สักวันแม่จะต้องเห็นความดี ความน่ารักของเราเหมือนที่พี่เห็น”

“แต่ว่านะ พี่คิดออกอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้แม่รักและเอ็นดูเรามากขึ้น”

“วิธีอะไรหรอคะ”

“มีหลานให้ท่านอุ้ม”

“พี่องศา! พูดอะไรของพี่เนี่ย”

“พี่พูดจริงนะ พี่เองก็พยายามอยู่ทุกคืน แต่เราก็ไม่ท้องสักที พี่อยากคุยกับเราเหมือนกันว่าเราไปปรึกษาหมอกันดีไหม”

“จะท้องได้ไงล่ะคะ ก็หลินกินยาคุม”

เอี๊ยด ทันทีที่ชะหลินพูดจบ รถคันหรูก็ตีไฟเลี้ยวเข้าจอดข้างทาง

“เราว่าไงนะ” องศาหันมาถามคนตัวเล็กที่เบาะข้างคนขับอีกครั้ง อย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

“หลินกินยาคุม...หลินไม่รู้ว่าพี่อยากมีลูก หลินขอโทษ อีกอย่างหลินก็กำลังเรียนต่อ ไหนจะคุณแม่ที่ยังไม่ยอมรับหลิน หลินกลัว กลัวว่าถ้ามีหลานแล้วท่านจะพานไม่ชอบหลานไปด้วย...” เธอพูดบอกเหตุผลให้เขาฟัง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธเธอไปแล้ว แล้วไม่รับฟังอะไรเธอเลย

“ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่ที่เราคบกัน...หลินขอโทษ”

“หลินรู้ไหมว่าพี่อยากมีลูกอยากสร้างครอบครัวกับหลินมากแค่ไหน พี่ทั้งทำงานทั้งเรียนเพื่อความมั่นคงของเราในอนาคต” เขาว่าบอกเธอนัยน์ตาแดงก่ำ ผิดหวังและเสียใจกับสิ่งที่ได้รับรู้

“ฮือ หลินขอโทษ” เห็นท่าทีของเขาเธอก็น้ำตาไหลพราก ไม่รู้ว่าเขาจะอยากมีลูกด้วยกันมากขนาดนี้ เธอรับรู้ว่าเขาจริงจังกับอนาคตมาก เขาวางแผนอนาคตทุกอย่างไว้ดีมาก ๆ เรียนจบเขาก็เข้ารับช่วงต่อจากพ่อของเขา พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่เขาก็เรียนต่อจนตอนนี้เขาก็เรียนจบไปแล้ว หน้าที่การงานก็มั่นคง

ส่วนเธอหลังจากเรียนจบไปได้สองปี เขาก็ขอเธอแต่งงานก่อนจะช่วยเธอดูแลกิจการที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้ คอยเป็นที่ปรึกษา จัดการระบบต่าง ๆ ให้ จนเรียบร้อยเข้าที่เข้าทาง จนเธอสามารถปลีกตัวไปเรียนต่อได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังมีเขาคอยช่วยดูแล

“พี่อาจจะผิดเอง ที่ทำให้เราไม่มั่นใจในตัวพี่ จนไม่อยากฝากชีวิตหรือมีลูกกับผู้ชายคนนี้” น้ำเสียงตัดพ้อดังขึ้น ก่อนที่เขาจะขับรถออกไป

“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ พี่ดีกับหลินมาตลอด...เพียงแต่ว่า...”

“ช่างมันเถอะ” เขาไม่ปล่อยให้เธอพูดอธิบายอะไร เขาพูดตัดบท ก่อนที่ทั้งรถจะตกอยู่ในความเงียบจนถึงบ้าน

“ป้านุ่มทำกับข้าวเสร็จแล้วค่ะ เราไปทานกันเลยไหมคะ” น้ำเสียงสดใสพูดบอกคนที่นั่งหน้าเครียดอยู่โต๊ะทำงาน

“พี่ไม่หิว เรากินเถอะ” เขาว่าเสียงเรียบ โดยไม่เงยหน้ามองคนถามเลยแม้แต่น้อย

“พี่ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เที่ยงไม่ใช่หรอคะ ไปค่ะไปกินข้าวกัน” เธอพยายามทำตัวสดใสเข้าสู้ ก่อนจะเดินเข้าไปหลังโต๊ะทำงานเขา สองแขนเรียวกอดคอเขาจากด้านหลัง เหมือนอย่างที่ชอบทำ ตอนที่เธอมาอ้อนเขา

“ไปกินข้าวกันนะคะ หลินไม่อยากกินข้าวคนเดียว มันเหงา”

“พี่ไม่หิว” เขาก็ยังพูดเสียงเรียบ อย่างใจแข็ง แน่นอนว่าเธอไม่หยุดเพียงเท่านั้น แม้จะรู้สึกเสียใจที่เขาทำเมิน แต่ก็รู้ตัวว่าตัวเองนั้นเป็นคนผิด เธอจึงพยายามง้อเขาต่อ

ฟอด “นะคะ ไปกินข้าวกัน...พี่องศาจะใจร้ายทิ้งให้หนูนั่งกินข้าวคนเดียวจริง ๆ หรอคะ” จากที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็เดินอ้อมมาข้างหน้า ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงบนตักเขา พร้อมกับมือที่ยกขึ้นคลองคอเขาไว้

“นะคะ ไปกินข้าวกัน ถ้าไม่กินข้าว...จะกิน...” สายตามองจ้องเขาไม่ละไปไหน นิ้วเรียวกรีดกรายไปตามแผงอกของเขา พยายามแข็งใจไว้ แม้จะเขินและกระดากอายมากก็ตาม ส่วนคนถูกอ้อนก็แทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ แต่เขาก็ยังสามารถประคองใบหน้าเรียบเฉยไว้ได้ เขาอยากจะรู้เหลือเกินว่าถ้าเขาจะนิ่งเฉยเมินเธอต่อ เธอจะมีวิธีไหนมาง้อเขาได้อีก เพราะตั้งแต่คบกันมา เขาและเธอแทบจะไม่เคยทะเลาะกันเลย

ถึงมีมันก็เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งจะเป็นเธอเสียส่วนใหญ่ที่งอนเขา

“ถ้าพี่ไม่กินข้าว เราจะให้พี่กินอะไรแทนข้าวล่ะ หืม” ปากหนางับเข้าที่นิ้วเรียว ที่สัมผัสอยู่บนริมฝีปากของตัวเอง สุดท้ายก็เป็นเขาเองที่อดใจไม่ไหว ให้ตายสิเขาแพ้ทางให้เธอตลอดเลยสินะ

“กิน...หลิน หลินไม่รู้” คนที่เหมือนจะใจกล้าอยู่ ๆ ก็เขินม้วนซุกอกเขาเสียอย่างนั้น

“หึ แต่พี่รู้” ว่าจบเขาก็ช้อนตัวภรรยาตัวน้อยไว้แนบอกก่อนจะพาไปยังห้องนอนที่อยู่ติดกันทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel