21 ความสงสัย
“ป่าวครับ เหนือจะออกไปหาพ่อ”
“คุณพะ...เอ่อคุณลุงจะมาหรอคะ”
“ใช่ เมื่อกี้พี่คุยกับพ่อน่ะ พอพ่อรู้ว่าอยู่โรงพยาบาลก็เลยมาหา เราอยู่กับน้าหลินก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา”
“เหนือไปนะครับแม่”
“จ้ะ รีบไปรีบกลับนะ” ธริกาตอบกลับลูกชายไป เธอก็ทำได้เท่านี้ แม้ใจอยากจะห้ามจะรั้งไว้ไม่ให้ลูกไปหาเขาก็ทำไม่ได้ ลูกอยู่กับเขามานานก็ต้องมีความผูกพันกันมากเป็นธรรมดา
“อย่าพึ่งฉีดได้ไหมคะ หนาวขอรอพี่เหนือกับคุณพ่อมาก่อน” เสียงเล็ก ๆ เอ่ยขอร้อง ไหน ๆ พ่อก็มาแล้ว ถ้ามีทั้งพ่อและพี่อยู่เธอก็คงอุ่นใจมากกว่านี้
“แป๊บเดียวนะคะ ฉีดเสร็จแล้วเราค่อยไปหาพี่เหนือนะ” คนเป็นแม่พูดปลอบลูกสาว แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ยอมอยู่ท่าเดียวจนต้องพูดบอกพยาบาล ดีที่ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชนจึงรับการงอแงขอลูกสาวเธอได้
“พี่มาแล้ว” เด็กหญิงน้ำหนาวไม่มีเวลาทำใจนาน ไม่กี่นาทีต่อมาพี่ชายก็ปรากฏตัวพร้อมกับผู้เป็นพ่อ
“งั้นเริ่มเลยนะคะ”
“เดี๋ยวค่ะ หนาวขอทำใจแป๊บนึง” คำแทนตัวของเด็กหญิงทำให้กลทีป์ย่นคิ้วเข้าหากันน้อย ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เขาก็อุตส่าห์รีบมาคิดว่าลูกชายเป็นอะไรร้ายแรง เพราะอยู่ ๆ ก็ส่งข้อความมาบอกเขาว่าตอนนี้ตัวเองกำลังไปโรงพยาบาลกับแม่ เขาก็ร้อนใจด้วยความเป็นห่วงลูก
แต่พอเห็นลูกเดินออกมารับ ได้สอบถามพูดคุยก็ทำให้รู้ว่าคนที่เป็นนั้นไม่ใช่ลูกเขาแต่เป็นเด็กหญิงที่เธอเคยบอกว่าเป็นหลานสาวนั่นเอง
สายตาที่เผลอมองเด็กหญิงตัวน้อยกำลังบ่นพึมพำเหมือนกำลังต่อสู้กับความกลัวในใจตัวเองอยู่ ก่อนที่คำพูดของสิงหาจะแล่นเข้ามาในหัว ‘ผมว่าเด็กนั่นหน้าตาเหมือนพี่อยู่นะ’
“ไม่ต้องกลัวนะ ลุงกับพี่เหนืออยู่ตรงนี้” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาพูดแบบนั้นออกไป แต่เหมือนมันจะสร้างแรงฮึดให้เด็กหญิงมากทีเดียว
“วินเทอร์พร้อมแล้วค่ะ” ทันทีที่เข็มค่อย ๆ ทะลุผ่านผิวหนัง ใบหน้าจิ้มลิ้มบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อย ๆ มือเล็ก ๆ กำชายเสื้อของแม่ไว้แน่น
“เสร็จแล้วค่ะ” และก็เหมือนสวรรค์ เมื่อคนที่เอาเข็มมาจิ้มเธอนั้นบอกว่าเสร็จแล้ว
“เห็นไหมคะ ไม่เจ็บเลย”
“เจ็บค่ะ แต่วินเทอร์ทนได้” ในใจอยากแทนตัวเองว่าน้ำหนาวใจจะขาด แต่ก็ต้องพยายามมีสติ ไม่ให้สิ่งที่เคยสัญญากับแม่พังลง แต่หารู้ไม่ว่าในตอนที่ตัวเองนั้นหวาดกลัวหรือดีใจมากเป็นพิเศษมักจะเผลอพูดแทนตัวเองด้วยชื่อจริง ๆ อยู่เสมอ
“เก่งมากค่ะ” มือบางยกมือขึ้นลูบหัวลูกสาวอย่างอ่อนโยน
“เก่งมาก ไม่ร้องเลย” น้ำเหนือชมน้องบ้าง
“วินเทอร์เก่งไหมคะคุณลุง” ทุก ๆ คนก็ชมเธอหมดแล้วที่เธอสามารถฉีดยาโดยไม่ร้องสักนิด มีแต่คุณพ่อนั่นแหละที่ยืนนิ่งไม่ยอมพูดอะไรเลย...เธอเองก็อยากได้คำชมจากพ่อเหมือนกันนะ แม้ว่าตอนนี้พ่อจะไม่รู้ว่ามีเธอเป็นลูกอีกคนก็เถอะ
“เก่งค่ะ แล้วคนเก่งอยากได้อะไรไหมคะ”
“คุณลุงจะซื้อของขวัญให้วินเทอร์หรอคะ”
“วินเทอร์ไม่เอาลูก” ธริกาพูดปราม เธอพยายามกันลูกให้ห่างจากเขา ทำไมนะยิ่งกันก็เหมือนยิ่งใกล้
“เอาน่า ถือว่าให้รางวัลหลาน ตอนน้ำเหนือมาฉีดวัคซีนฉันก็ซื้อของให้บ่อย ๆ ไม่เชื่อถามลูกสิ”
“จริงครับแม่”
“งั้นฉันฝากเด็ก ๆ ไว้กับคุณก่อนนะ ขอไปเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายก่อน”
“อืม” เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะพาเด็ก ๆ มานั่งรอที่ร้านกาแฟในโรงพยาบาล
“รอพ่ออยู่ที่นี่กับน้องก่อนนะ พอขอไปดูแม่ก่อน” เมื่อเธอหายไปนาน เขาเลยอยากตามไปดูว่าเธอมีปัญหาอะไรรึเปล่า ทำไมแค่จ่ายเงินถึงได้ช้าขนาดนี้
เดินออกมาได้ไม่นานก็เห็นเธอยืนคุยอยู่กับใครคนหนึ่ง ซึ่งคนคนนั้นเขารู้จักดีเลยล่ะ แต่พอเขาเดินเข้าไปใกล้ ทั้งคู่ก็แยกตัวจากกันแล้ว
“ลูกล่ะ” พอเห็นเขาเธอก็เดินเข้าไปหาทันที เมื่อไม่เห็นเด็ก ๆ อยู่กับเขาด้วย
“อยู่ร้านกาแฟ” เขาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะเดินหันหลังกลับ เพื่อเดินไปหาลูก
“คุณปล่อยให้ลูกอยู่กันสองคนนี่นะ”
“...” เขาไม่ตอบอะไรเธอ ยังเดินนำเธอมาเงียบ ๆ
“เดี๋ยวนะ คุณดื่มมาหรอ” เธอว่าเมื่อเดินมาใกล้เขา แล้วได้กลิ่นเหล้า
“ก็นิดหน่อย” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ดื่มแล้วก็ขับมาหาลูกที่นี่หรอ?”
“อืม”
“ดื่มแล้วยังจะขับ คิดอะไรของคุณอยู่อยากตายรึไง” เธอว่าให้เขา
“เป็นห่วงหรอ” แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกสลดลงจากสิ่งที่เธอพูดเลย
“เปล่า ฉันกลัวลูกต้องมาเสียใจเพราะการทำอะไรไม่คิดของคุณ” เธอพูดทิ้งท้ายให้เขาไว้เท่านั้น ก่อนจะเป็นคนเดินนำเขาออกมาแทน
“ลูก หึ หรือลูก ๆ กันแน่”
ย้อนไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
“ชวนออกมาดื่มแต่หัวค่ำแบบนี้ แล้วหลานผมอยู่กับใคร พี่เอาไปฝากไว้กับคุณป้าหรอ” หลังจากดื่มไปได้สักพัก ก็เกิดบทสนทนาขึ้น
“เปล่า”
“อย่าบอกนะว่าพี่ทิ้งน้ำเหนือไว้ห้องคนเดียว”
“เปล่า”
“อยู่กับแม่บ้านสินะ”
“เปล่า” พูดจบก็ยกอีกดื่ม
“อ่าว แล้ว..”
“ดื่ม ๆ ไปเถอะน่า อย่าถามมาก” กลทีป์ยัดแก้วใส่มือลูกพี่ลูกน้อง ที่แทบจะไม่ค่อยได้เจอกันเลย นอกจากตอนชวนกันออกมาดื่ม แม้แต่งานแต่งเขามันก็โผล่มาดูหน้าเจ้าสาวแล้วก็กลับ บอกต้องรีบกลับไปเรียน ไอ่น้องเวรนี่ไหน ๆ ก็อุตส่าห์บินมาจากเมกา จะอยู่ต่อจนจบก็ไม่ได้
“กูชวนมึงออกมาดื่ม ไม่ได้มาให้ซักประวัติ”
“ก็ผมเป็นห่วงหลาน” ชายหนุ่มตอบกลับ
“น้ำเหนืออยู่กับแม่ ทีนี้มึงกับดื่มต่อได้แล้ว”
“แม่? พี่หมายความว่าไง...อย่าบอกนะว่าพี่สะใภ้ผมกลับมาแล้ว”
“เออ”
“รักจังเลยนะ ขนาดนั้นก็นับถือเขาเป็นพี่เถอะ ไม่ต้องมานับถือกู เธอทำอะไรไว้บ้างจำไม่ได้รึไง”
“ไม่รู้อะ ในสายตาผม พี่สะใภ้ไม่ใช่คนแบบนั้น” ชายหนุ่มพยายามพูดให้พี่ชายคิดตาม แต่เหมือนมันจะเปล่าประโยชน์อีกตามเคย
“หรอ” กลทีป์ตอบกลับเพียงเท่านั้น ก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้ง
“...แต่เดี๋ยวนะ” ชายหนุ่มพยายามคิด เมื่อมีบางอย่างแวบเข้ามาในหัว ก่อนจะคิดออกว่าเขาพึ่งเจอพี่สะใภ้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พี่สะใภ้พร้อมกับเด็กหญิงหน้าตาที่แสนจะคุ้น ทำไมเขาถึงลืมเรื่องนี้ไปได้นะ
คิดได้แบบนั้นก็หันมองหน้าพี่ชายทันที
“ไหนพี่ลองหันซ้ายหน่อย”
“เป็นอะไรของมึงเนี่ย” กลทีป์ไม่ยอมทำตาม แถมเขายังกลับ เมื่อวันนี้น้องชายดูผิดปกติ
“ไอ่สิงห์ปล่อยกู” เขาร้องโวยทันที เมื่ออยู่ ๆ น้องชายก็เอามือมาจับหน้าเขาหมุนซ้ายหมุนขวา
“ชัดเลย”
“ชัดเหี้ยอะไรของมึง” กลทีป์ว่า หลังจากสิงหาหรือสิงห์เอามือออกไปแล้ว
“ตอนพี่เจอพี่สะใภ้ พี่ได้เจอคนอื่นอีกไหม”
“คนอื่น?”
“ก็คนอื่นที่มากับพี่สะใภ้อะ”
“มึงอย่าเล่นลิ้น หมายถึงใครก็พูดมา”
“เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารัก ๆ หน่อย น่าจะสี่ห้าขวบได้ ผมว่าเด็กนั่นหน้าตาเหมือนพี่อยู่นะ” ว่าแล้วทำไมเขาถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าเด็กหญิงคนนั้น ก็เพราะว่ามันเหมือนคนตรงหน้าเขายังไงล่ะ
ยังไม่ทันที่กลทีป์จะได้ตอบอะไรกลับไปโทรศัพท์เขาก็สั่นขึ้นมาเสียก่อน
“กูไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวดิพี่ยังคุยกันไม่จบเลย”
เขาหาได้ฟังคำค้านของลูกพี่ลูกน้องไม่ หลังจากอ่านข้อความแล้วก็เดินดุ่ม ๆ ออกจากร้านไปเลย
“พี่องศา เดี๋ยวค่ะ”
“อ่าวผิง มาทำอะไรที่นี่”
“ผิงมาดื่มกับเพื่อนน่ะค่ะ กำลังจะกลับพอดี แต่รถเสีย” ณัฐมาพูดบอก อันที่จริงเธอยังไม่ได้ดื่มสักแก้ว เธอพึ่งมาถึงต่างหาก แต่เห็นเขาลุกจากโต๊ะท่าทางรีบ ๆ เธอเลยเดินเนียน ๆ มาทักเขา
“แบบนี้ก็แย่เลยสิ”
“ค่ะ...ถ้าไม่เป็นการรบกวนผิงขอติดรถพี่องศากลับบ้านได้ไหมคะ”
“วันนี้คงจะไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ...ยังไงพี่ขอตัวก่อนนะ” ว่าจบก็เดินเลี่ยงออกไปทันที
“เดี๋ยวก่อนสิคะ...”
“อ้าวคุณเลขา มาทำอะไรที่นี่ครับ”
“ฉันจะมาทำอะไรก็เรื่องของฉัน” ณัฐมาที่หันตามเสียงแล้วรู้ว่าเป็นใคร เธอก็ตอบปัดอย่างไม่ใส่ใจ
“ถ้าคิดจะมาหาพี่ชายผมล่ะก็ ไม่ทันแล้วล่ะ”
“รู้แล้วน่า”
“หึ จริง ๆ สินะ ตอนนี้พี่องศากลับไปหาลูกหาเมียแล้ว คุณเลิกตามเลิกพยายามเถอะ อะไรที่มันไม่ใช่ของเราก็คือไม่ใช่” สิงหาพูดเตือน
“แล้วนายมายุ่งอะไรด้วย”
“ก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอกนะ แค่เตือนด้วยความหวังดี ไม่อยากให้คุณทำอะไรโง่ ๆ อีก”
“หมายความว่าไง”
“ทำอะไรไว้ก็รู้อยู่แก่ใจดี ถึงเธอจะพยายามปิดมันแค่ไหน สักวันความจริงก็ต้องปรากฎอยู่ดี”
“ความจริงอะไรของนาย อย่ามาพูดหมา ๆ นะ”
“ไม่รู้สิ รอดูก็แล้วกัน...อ้อ ผมเตือนคุณแล้วนะ ไม่ใช่ว่าไม่เตือน” พูดจบก็เดินล้วงกระเป๋าผ่านหน้าหญิงสาวมาทันที
“นายไปรู้อะไรมาสิงห์...”
