บท
ตั้งค่า

19 รู้ทัน?

“คุณลุงกับน้าหลิน....” หลังจากแม่เดินหนีหายไปแล้ว สาวน้อยน้ำเหนือก็เริ่มการสืบสวนทันที

“ลุงว่าเราไปกินข้าวกันดีกว่า น้าหลินทำกับข้าวไว้เยอะเลยไม่ใช่หรอ”

“ไป ๆ เดี๋ยวมันจะเย็นชืดไม่อร่อย”

“พี่เหนือคะ” เห็นพ่อตอบมาแบบนี้ สาวน้อยก็หันไปขอความเห็นจากพี่ชาย วันนี้เธอกับพี่พึ่งคุยกันไปเองแท้ ๆ ว่าพ่อกับแม่ยังรักกันอยู่รึเปล่า

ส่วนน้ำเหนือก็พยักหน้าบอกให้น้องสาวเออ ออ ตามไปก่อน

“พรุ่งนี้ฉันจะไปน้ำเหนือกับวินเทอร์ไปบ้านนะคะ” อยู่ ๆ ธริกาก็พูดขึ้นมากลางวงอาหาร

“คือ?” กลทีป์หันไปมองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามทันที

“ฉันอยากพาลูกไปเล่นที่บ้านของฉัน แค่นั้นค่ะ ไม่มีอะไร”

“ถามลูกรึยังว่าลูกอยากไปไหม”

“เหนืออยากไปครับพ่อ” เด็กชายรีบตอบรับทันที เพราะก่อนหน้านี้ตนได้พูดคุยกับแม่กับวินเทอร์มาบ้างแล้ว

“ฉันถามลูกแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันมาแจ้งให้คุณทราบเท่านั้น ไม่ได้มาขออนุญาต”

“ถ้าลูกอยากไปฉันก็ไม่ขัด”

“ไปเช้าเย็นกลับเลยรึเปล่า”

“ฉันจะพาลูกไปอยู่ด้วยสักอาทิตย์ค่ะ หวังว่าคุณจะไม่ติดอะไรนะคะ” เธอใช้คำพูดของเขาเมื่อครู่ เป็นการบีบเขาทางอ้อม

“หึ” ได้ยินเธอพูดแบบนั้นเขาก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ

“แล้วพ่อจะไปด้วยไหมครับ”

“พ่อติดงาน ไปไม่ได้หรอกครับ เราจะไปอยู่กันสามคนที่นู่น” เธอรีบชิงพูดก่อนเขาทันที ไม่ให้โอกาสเขาได้พูดก่อน ไม่งั้นสิ่งที่เธอวางแผนไว้จะพังลงได้

“ไว้พ่อว่าง ๆ จะแวะไปหาแล้วกันนะ” เมื่อเธอไม่อยากให้เขาไปเป็นส่วนเกิน เขาก็จะไป เขาชอบด้วยสิทำอะไรที่มันท้าทายเธอ อีกอย่างช่วงนี้เขาก็ไม่ได้งานยุ่งอะไร

“พ่อสัญญาแล้วนะครับ”

“ครับ”

“วินเทอร์จะรอคุณลุงแวะไปหานะคะ” แม้ในใจจะอยากบอกว่าหนูจะรอคุณพ่อไปหานะคะ แต่ก็ต้องเก็บมันไว้ในใจเท่านั้น เพื่อความสบายใจของแม่ และเพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับแม่

“ครับ ถ้าลุงไปหา ลุงจะซื้อขนมอร่อย ๆ ไปฝากนะ”

“ขอบคุณค่ะ”

มื้อนี้เหมือนเด็กทั้งสองจะเอาใจพ่อเป็นพิเศษคอยชวนคุย คอยตักอาหารให้ เหมือนว่าจะต้องจากกันนานเด็ก ๆ ก็เลยเอาใจ เพื่อจะได้ให้พ่อคิดถึงแล้วแวะไปหาตนกับแม่บ่อย ๆ

“เธอรู้ใช่ไหม ว่าลูกไม่รู้ว่าเราเลิกกันแล้ว ไม่รู้ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเมื่อก่อน” หลังจากส่งลูกเข้านอนแล้ว กลทีป์ก็เรียกธริกามาคุยกันเรื่องลูก ตอนนี้น้ำเหนือนอนอยู่ห้องของตัวเอง ส่วนน้ำหนาวก็นอนอยู่อีกห้อง ซึ่งเป็นห้องที่ธริกาจะกลับเข้าไปนอนด้วย

“ค่ะ แล้วยังไงหรอคะ” เธอตอบรับอย่างไม่ใส่ใจ ซึ่งท่าทางของเธอก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด

“แล้วการที่เธอพยายามจะพาลูกออกห่างจากฉัน เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”

“ฉันก็พยายามให้ลูกได้เรียนรู้อยู่นี่ไงคะ ว่าการต้องแยกกันอยู่ระหว่างพ่อและแม่มันเป็นยังไง”

“สุดท้ายเธอก็คงจะให้ลูกเลือกสินะ ว่าอยากจะอยู่กับใคร”

“งั้นมั้งคะ”

“หลิน” ยิ่งเธอพูดเหมือนไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรที่เขารู้ทัน มันก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์โกรธในตัวเขา

“มีแค่นี้ใช่ไหมที่คุณจะพูด ถ้าแค่นี้ฉันจะได้ไปนอน” เธอบอกก่อนจะหันตัวเตรียมกลับห้อง ซึ่งก็ใช่ว่าเขาจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ

หมับ

“ยังคุยกันไม่จบ อย่าเดินหนีแบบนี้ได้ไหมวะ”

“งั้นมีอะไรก็พูดมาสิ ฉันจะได้ไปนอน ฉันง่วง พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นมาจัดของให้ลูก งานฉันก็ต้องทำ ฉันไม่ได้หายใจเป็นเงินเหมือนคุณนะ จะเข้างานกี่โมงก็ได้ เมื่อวานคุณก็ทำฉันเสียงานด้วย”

“งั้นอยากอยู่เฉย ๆ แล้วได้เงินไหมล่ะ” เขาถาม ซึ่งพอเขาพูดแบบนี้เธอก็ทำหน้างงทันที เพราะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด ก่อนจะควันออกหูเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของเขา

“มาคอยบำเรอฉันสิ นอนอ้าขาให้ฉันเอาเฉย ๆ คอยอยู่บ้านเลี้ยงลูก สบายจะตาย”

“จะได้ไม่ต้องคิดเรื่องงาน เธออยากได้อะไรก็บอกฉัน หรือจะเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ก็บอกฉัน”

“หยาบคาย ในหัวคุณคิดได้แต่เรื่องทุเรศ ๆ ฉันมีคุณค่าและรักศักดิ์ศรีมากพอที่จะทำอะไรแบบนั้น”

“อย่าทำเป็นพูดดีหน่อยเลย เมื่อก่อนเธอก็ทำแบบนี้ไม่ใช่หรือไง ให้คนแก่คราวพ่อมาคอยดูแล บางทีวินเทอร์อาจจะเป็นลูกของใครสักคนที่เลี้ยงดูเธอก็ได้”

เพี้ยะ สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว ตวัดมือประทับตราลงบนแก้มสากของเขาอย่างเหลืออด ผู้ชายที่เขากำลังพูดถึงก็คือตัวเขาเอง เป็นเขา ขนาดเธอบอกว่าวินเทอร์เป็นลูกสาวของพี่สาวเธอ เขาก็ไม่เชื่อ พยายามพูดกับเธออยู่ตลอดว่าวินเทอร์เป็นลูกสาวเธอ เพราะงั้น ถึงเธอจะพูดออกมาตอนนี้ว่าวินเทอร์หรือน้ำหนาวเป็นลูกของเขา เขาก็คงไม่เชื่อ

“อาจจะเป็นอย่างที่คุณพูดก็ได้ค่ะ เป็นใครสักคน ใครสักคนที่ไม่ใช่คุณอย่างแน่นอน”

“ทำไม เป็นฉันแล้วมันทำไม”

“คุณมันผู้ชายเฮงซวย ไม่เคยคิดจะฟังใครเลย ดีแต่ใช้เล่ห์เหลี่ยมคอยบีบบังคับคนไม่มีทางสู้ อ้ะ” พูดยังไม่ทันจบก็ถูกเขาผลักตัวติดกำแพง

“พูดต่อสิ พูด” น้ำเสียงกดต่ำอย่างพยายามข่มอารมณ์แล้วว่าขึ้น

“นี่ไง สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ เห็นรึเปล่าในตอนนี้คุณกำลังใจกำลังพยายามขู่บังคับฉัน”

“เหอะ ใช้กำลัง? แบบนี้มันไม่เรียกใช้กำลัง ไม่เรียกขู่บังคับหรอกนะ” ถ้าการที่เขาบอกให้เธอพูดอะไรบางอย่างมันเรียกว่าการขู่บังคับ การใช้กำลังล่ะก็...

“งั้นคุณก็ปล่อยฉันสิ” เธอบอกเขาพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เพราะตอนนี้สองแขนของเขากำลังกักขังเธอไว้อยู่

“แล้วฉันจับเธอไว้หรอ ฉันดึงเธอไว้รึไง ก็ไม่”

“อย่ามากวนประสาทนะ ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วก็ถอยออกไปฉันจะไปนอน” เธอหันกลับมาเงยหน้าพูดกับเขา ก่อนจะขยับตัวเตรียมเดินออกไป เพราะเขาลดแขนลงให้แล้ว

หมับ

“แบบนี้ต่างหากที่เรียกว่าการใช้กำลัง”

“อื้อ...” พูดจบเขาก็ดึงเธอมาจูบทันที พร้อมกับผลักเธอติดผนังห้องอีกครั้ง

มือบางพยายามผลักไสเขา แน่นอนว่าเธอสู้แรงเขาไม่ไหว รู้ตัวอีกทีก็ถูกเขากอดจูบเธอจนแผ่นหลังสัมผัสกับเตียงนอนแล้ว ด้วยความเป็นชุดนอนทำให้ยิ่งง่ายต่อการปลดเปลื้อง ไหนจะความคุ้นเคยที่มีต่อเธอ แม้จะห่างหายกันไปเป็นเวลานาน แต่เพียงได้สัมผัสไม่นานทุกอย่างก็จุดติดได้ง่ายดาย เหมือนไม่ต้องฟื้นวิชาอะไรให้มาก อีกทั้งคืนก่อนเขาก็ได้รื้อฟื้นความทรงจำกับเธอจนเกือบถึงเช้าแล้ว เพราะงั้นตอนนี้จะทำให้เธอติดกับอีกครั้ง เขาคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ

ใช้เวลาไม่นานเธอก็ตัวเปลือยเปล่าอยู่ใต้ร่างเขา

“เฮือก หยะ หยุดนะ” เมื่อเขาได้ปล่อยให้พักหายใจเธอก็รีบร้องห้ามเขาทันที ก่อนจะรีบยกมือขึ้นมาปิดบังร่างกายเอาไว้ แม้มันแทบจะไม่ช่วยเลยก็ตาม

เพี้ยะ เธอพูดบอกเขาแล้ว แต่เขายังจะก้มหน้าเหมือนจะไซร้คอเธอต่อ เธอเลยฝากรอยมือไว้บนแก้มเขาอีกข้าง

“คิดว่าทำแบบนี้มันจะหยุดฉันได้หรอ อยากตบก็ตบ ตบให้พอใจ”

เพี้ยะ

“เลิกบ้าสักที! เราไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมาทำอะไรแบบนี้แล้วนะ คืนนั้นมันก็มากพอแล้ว” เธอพูดเสียงดังบอกเขา

“เหอะ มากหรอวะ แบบนี้มันไม่เรียกว่ามากเกินไปหรอก ถ้าเทียบกับสิ่งที่เธอทำกับฉัน ทำกับลูก มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับความเจ็บปวดที่ฉันได้รับ”

“เธอทรยศความรักที่ฉันมีให้ เธอทำได้ยังไงหลิน เธอทำได้ยังไง”

“คุณนั่นแหละที่เป็นคนเริ่ม ถ้าตอนนั้นคุณฟังฉันบ้าง คุณให้เวลาฉันกับลูกบ้างเรื่องมันก็คงไม่เลยเถิดมาถึงแบบนี้”

“เออ งั้นก็ผิดด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ พอใจไหมวะ”

“ไม่ คุณต้องปล่อยฉันไป ตอนนี้ เดี๋ยวนี้” เธอพูดอย่างเน้นย้ำ

“ฉันปล่อยเธอไปแล้วยังไงต่อ ปล่อยให้เธอกลับไปหาใครดีล่ะ ไอ้เจษฎ์ หรือคุณไตรทศอะไรนั่นของเธอดี”

“นี่คุณแอบเล่นโทรศัพท์ฉันงั้นหรอ”

“หึ เรื่องจริงสินะ” เห็นท่าทีของเธอเขาเลยพูดต่อ พร้อมกับแค่นยิ้มไปด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรรู้สึกยังไงดี มันหน่วง ๆ อยู่ในใจ เหมือนเมื่อห้าปีก่อนไม่มีผิด เพียงแต่มันอาจจะเจ็บน้อยกว่า อันที่จริงเขาก็ไม่ได้แอบเล่นโทรศัพท์เธออย่างที่เธอกล่าวว่า เขาเพียงอ่านชื่อสายที่โทรเข้ามาในตอนที่เธอป่วยเท่านั้น

“เลือกสักคนสิ จะคนรุ่นพ่อ หรือคนที่มันเด็กกว่าฉันหน่อย ก็เลือกมันมาสักคน จับปลาสองมือแบบนี้หลุดมือหมดฉันไม่รู้ด้วยนะ”

“ฉันจะเลือกใครมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ เพราะยังไงฉันก็ไม่ได้เลือกคุณ คุณไม่ต้องมาเดือดร้อนอะไรด้วยหรอกนะคะ”

“หลิน!”

“ทำไมคะ มันแทงใจดำหรอคะ ที่ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก”

“ถ้ายังไม่หยุดพูดแบบนี้อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” เขาพูดขู่ จ้องหน้าเธอนิ่ง

“ไม่ว่าฉันจะพูดยังไง คืนนี้คุณก็ไม่ปล่อยฉันอยู่แล้ว” หลังจากได้พูดคุยกับเขา เธอก็รู้ตัวแล้วว่าวันนี้คงไม่รอดพ้นมือเขา เพราะงั้นเธอจึงเลือกที่พูดกวนประสาทเขาเพื่อถ่วงเวลา และเพื่อให้เขาได้รู้สึกเจ็บ แม้ไม่มาก อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาอารมณ์เสียอย่างที่เป็นอยู่ได้

แต่หารู้ไม่ว่าการที่เธอทำแบบนี้มันเป็นการทำร้ายตัวเองอยู่

“รู้ตัวก็ดี งั้นฉันจะได้ไม่ต้องใจดีกับเธอให้เสียเวลาอีก”

“หึ ใจดี ตลกดีนะคะ คำนี้”

“หลิน!”

“ฉันพูดอะไรผิดหรอ ฉันก็แค่ตลกที่คุณบอกว่าคุณใจดีกับฉัน แบบนี้มันไม่เรียกว่าใจดีหรอกนะ ถ้าแบบนี้เรียกใจดีฉันคิดว่ามาตรฐานของคุณต่ำไปหน่อยนะค...อื้อ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel