บท
ตั้งค่า

12 หลานสาว

“หนูไม่โกรธแม่ใช่ไหมคะ ที่แม่ทำแบบนี้” เสียงหวานเอ่ยถามลูกสาวที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ

“ไม่โกรธค่ะ หนาวเข้าใจ”

“เก่งมากค่ะ” ว่าแล้วก็ยีหัวลูกสาวเบา ๆ หนึ่งที ก่อนจะถามความพร้อม

“พร้อมไหมคะ”

“พร้อมค่ะ”

หลังจากลูกสาวตอบรับว่าพร้อม ธริกาก็เปิดประตูลงจากรถทันที หลังจากขับรถเข้ามาในรั่วบ้านแล้วจอดไว้ที่โรงจอดรถเรียบร้อย ก่อนจะจูงมือลูกพาเดินไปยังบ้านหลังใหญ่

ครั้งนี้คนที่ออกมาเปิดประตูให้เธอคือป้าบัว เขาคงจะบอกคนที่บ้านไว้แล้วว่าเธอจะมา ทำให้ไม่ต้องยืนกดออดจนยุงหาม

“เด็กคนนี้เป็น...” ป้าบัวพูดขึ้น หลังจากเห็นธริกาจูงมือเด็กหญิงหน้าตาน่ารักเข้ามาในบ้านด้วย

“เป็นหลานสาวหลินเองค่ะ” ธริกาตอบ

“หรอคะ” แม้ธริกาจะบอกว่าเป็นหลานสาว แต่ป้าบัวกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เธอคิดไปอีกอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จนเด็กหญิงตัวน้อยกล่าวทักทาย

“สวัสดีค่ะคุณยาย วินเทอร์ค่ะ” เด็กหญิงแนะนำตัวเองตามที่ได้ตกลงกับแม่

“สวัสดีจ้ะ ยายชื่อบัวนะ”

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” สามคนกำลังพูดคุยกัน ระหว่างเดินเข้าบ้าน ก็มีเสียงแหลมของรัศมีดังขึ้นมา

“นั่นแกจะทำอะไร” รัศมีเดินเร็ว ๆ ไปหยุดอยู่ตรงหน้าของธริกาทันที หลังจากเดินกลับมาจากการชื่นชมสวนดอกไม้ที่ตัวเองปลูกไว้

“หลินก็จะเข้าไปในบ้านไงคะ พี่องศาไม่ได้บอกหรอคะว่าหลินจะมาอยู่ที่นี่กับลูก” แม้ไม่อยากเรียกเขาและแทนตัวเองแบบนี้กับคนตรงหน้า แต่พอเห็นท่าทางของคนตรงหน้าแล้ว มันก็ทำให้เธออดใจไม่ไหว เธอรู้ว่าถ้าพูดแบบนี้คนตรงหน้าจะไม่พอใจและอาจจะปรี๊ดขึ้นมา

“เหอะ อยู่ที่นี่งั้นหรอ แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าแกจะได้อยู่ที่นี่”

“ถ้าฉันยังอยู่ เข้าไปเหยียบบ้านนี้แกก็จะไม่มีวันทำได้”

“เด็ก ๆ”

“คุณผู้หญิงคะ ใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ บัวเป็นคนพาคุณหลินมาเอง ถ้าจะว่าจะโทษใคร ก็ว่าก็โทษบัวเถอะค่ะ”

“นั่นสิคะคุณป้า ใจเย็น ๆ หน่อยสิคะ โมโหร้ายง่ายแบบนี้เขาบอกว่าจะแก่ไวนะคะ”

“นี่แก!”

“ชู ชูวส์... เดี๋ยวโบท็อกที่ฉีดมาจะเสียเปล่าเอานะคะ”

สิ่งที่ธริกาพูดทำให้รัศมีโกรธจนหน้าแดง ส่วนป้าหัวต้องแอบอมยิ้ม ในขณะที่เด็กหญิงน้ำหนาวได้แต่ยืนดูแม่คุยกับใครก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนจะไปได้ไม่ดีเท่าไหร่ ทำให้เธออดถามไม่ได้

“คุณน้าขาา คุณยายคนนี้เป็นใครหรอคะ ทำไมดูพูดไม่ดีกับคุณน้าจังเลย” แม้จะฟังไทยไม่ค่อยถนัด แต่ความฉลาดเกินวัยก็ทำให้เด็กหญิงจับสังเกตได้ว่าสิ่งที่คุณยายพูดนั้นไม่ดีกับแม่ของตน

“ไม่มีอะไรค่ะ ยายเค้าก็แค่โมโหตามประสาคนแก่น่ะ”

“นี่!! กล้าดียังไงมาว่าฉันแก่ อ้อแล้วฉันก็ไม่ได้นับญาติกับนังเด็กนี่ด้วย”

“ทำไมคุณยายต้องพูดเสียงดังด้วยค่ะ พูดเบา ๆ วินเทอร์ก็ได้ยินแล้วค่ะ”

ดูเหมือนเด็กหญิง

จะเริ่มเคือง ๆ คุณยายตรงหน้าบ้างแล้ว เพราะคุณยายพูดเสียงดังใส่

“ฉันพูดเสียงดังแล้วมันจะทำไม นี่มันบ้านของฉัน ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน” ในตอนนี้รัศมีโมโหเกินกว่าจะหยุด เธอไม่สนแล้วว่าคนที่พูดด้วยจะเป็นเด็ก เพราะเพียงแค่เธอเห็นหน้าธริกา เธอก็รู้สึกโมโหหงุดหงิดจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

“คุณน้าขา วินเทอร์กลัว” เด็กหญิงว่าก่อนจะเดินไปหลบอยู่หลังผู้เป็นแม่

“ไม่ต้องกลัวนะคะ น้าอยู่ตรงนี้ ไม่มีใครทำอะไรหนูได้ทั้งนั้น”

“คุณผู้หญิงใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ เด็กกลัวหมดแล้ว” เป็นป้าบัวที่ปรามอีกครั้ง

“ฉันไม่ไหวแล้วนังบัว ถ้ามันไม่ออกไปจากบ้านฉันตอนนี้”

“หลินคงทำตามที่คุณป้าบอกไม่ได้ เพราะหลินคุยกับพี่องศาแล้วว่าเราจะอยู่กันสามคน พ่อแม่ลูก” ประโยคหลังเธอพยายามเน้นย้ำ ให้คนตรงหน้าได้ยินชัด ๆ

“จริงหรอคะคุณหลิน” คนดีใจก็เห็นจะมีแต่ป้าบัวเท่านั้น

“จริงค่ะ หลินคุยกับพี่องศากับลูกแล้ว” เธอพูดบอกป้าบัวด้วยรอยยิ้ม

“เหอะ ไม่มีวัน ฉันไม่มีทางให้หลานชายของฉันได้เจอกับนังแพศยาแบบเธอแน่” รัศมีสวนกลับในทันที

“อีกอย่าง หลานชายฉันกำลังจะมีแม่คนใหม่ ฉันไม่อยากให้หลานชายฉันสับสน”

“แม่ใหม่?”

“เธอคงจะยังไม่รู้สินะ ว่าตาองศงกำลังจะแต่งงานใหม่”

“กับคนที่คุณแม่หามาให้น่ะหรอคะ”

“นั่นเป็นเรื่องของเขาค่ะ หลินจะไม่ยุ่ง ที่หลินมาวันนี้ก็เพราะหลินจะมาหาลูก มาอยู่กับลูก”

“งั้นหรอ ถ้าจำไม่ผิดเมื่อกี้เธอบอกว่าคุยกับตาองศาแล้วหนิ”

“หึถ้าคุยกับตาองศาจริง ตาองศาไม่ได้บอกเธอหรอว่าไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”

“หมายความว่ายังไงคะ”

“หึ นังบัว ส่งแขก”

“เด็ก ๆ ปิดประตูบ้าน” รัศมีพูดเท่านี้ ก่อนจะหันตัวเข้าบ้านไป แน่นอนว่าธริกาไม่ได้ตามไปเอาคำตอบกับรัศมี เธอเลือกที่จะหันไปถามป้าบัวแทน เพราะเธอเชื่อว่าจะได้คำตอบที่เป็นประโยชน์มากกว่า

“หมายความว่ายังไงคะ ป้าบัว”

“คุณองศากับคุณหนู ไม่ได้อยู่ที่นี่นานแล้วค่ะ คุณองศาซื้อคอนโดไว้ใกล้ที่ทำงาน แล้วอยู่กับคุณหนูสองคนที่นั่น นาน ๆ ที่จะพาคุณหนูมาเล่นที่นี่ค่ะ”

“คุณหลินจะเอาที่อยู่ไหมคะ เดี๋ยวป้าจะเขียนให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหลินโทรไปคุยกับเขาเอง ขอบคุณนะคะ”

ธริกาเอ่ยขอบคุณ ก่อนจะจูงมือลูกออกมา

“วินเทอร์ไปนะคะ คุณยาย”

“คุณแม่ขาสรุปว่าคุณยายคนนั้นเป็นใครหรอคะ ทำไมพูดไม่น่ารักเลย” ทันทีที่ประตูรถปิดลง เด็กหญิงน้ำหนาวก็เอ่ยถามผู้เป็นแม่

“เป็นคุณย่าของหนูค่ะ”

“คุณย่าแบบแกรนด์มัมใช่ไหมคะ”

“ใช่ค่ะ”

“งั้นก็แสดงว่าคุณย่าเป็นแม่ของคุณพ่อหรอคะ”

“อืม จะว่าแบบนั้นก็ได้ค่ะ”

“แล้วทำไมแม่ของพ่อถึงใจร้ายจังเลยล่ะคะ ไม่เห็นใจดีเหมือนคุณแม่ของหนาวเลย”

“หนาวไม่ชอบเลย” เด็กหญิงว่าก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก

“งั้นเวลาหนูได้ยินเวลาคุณย่าพูดไม่ได้หนูเอามือปิดหูไว้ ดีไหมค่ะ”

“แล้วทำไม คุณย่าเค้าต้องพูดไม่ดี ต้องใจร้ายด้วยล่ะคะ”

“แม่เอง...ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”

“แต่เดี๋ยวแม่ขอโทรหาพ่อก่อนนะคะ”

รอสายไม่นานปลายสายก็กดรับ

"หมายความว่าไงคะ"

"อะไร" น้ำเสียงห้วน ๆ ที่เขาตอบกลับมา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกโกรธให้เขามากขึ้น เขาไม่บอกว่าเขาไม่ได้อยู่กับแม่เขาแล้วไม่พอ เธอกับลูกต้องมาถูกแม่ประสาทกินของเขาต่อว่าอีก ถ้าเธอโดนคนเดียวเธอจะไม่เคืองให้เขาขนาดนี้ แต่นี่ลูกเธอก็ต้องมารับคำพูดแย่ ๆ ทั้งที่แกไม่รู้อะไรด้วย ทั้งที่ยังเด็กแบบนี้

“คุณไม่ได้อยู่ที่บ้านกับแม่คุณแล้วทำไมคุณถึงไม่บอกฉันคะ คุณรู้ไหมคะว่า..” สิ่งที่จะพูดต่อไปรีบกลืนลงคอในทันที เมื่อรู้ว่าตัวเองเกือบจะหลุดพูดเรื่องน้ำหนาวกับเขาไป

“รู้อะไร”

“รู้ไหมว่าแม่คุณมาต่อว่าฉัน”

“แล้ว?”

“เหอะ ไม่รู้สึกผิดอะไรเลยสินะคะ”

“ก็เธอไม่ได้ถามฉันตั้งแต่แรก เพราะงั้นมันก็ไม่ใช่ความผิดฉัน”

“ถ้างั้นก็ช่วยส่งที่อยู่ปัจจุบันของคุณมาให้ฉันด้วยค่ะ”

“อืม”

“คุณแม่ขา...” นิ้วเรียวรีบยกขึ้นทาบริมฝีปากลูกสาวไว้ทันที เมื่อลูกเรียกเธอในขณะที่เธอกำลังพูดสายกับเขาอยู่ ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อหันมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วเห็นว่าเขาวางสายไปแล้ว

“ว่าไงคะ”

“หนาวหิวค่ะ”

“งั้นเราซื้ออาหารไปกินกับพี่เหนือกับคุณพ่อดีไหมคะ”

“ดีค่ะ”

“จำที่เราตกลงกันได้ใช่ไหม” ธริกาถามย้ำลูกสาวอีกครั้งในตอนที่รอเจ้าของห้องลงมารับที่ร็อบบี้ อันที่จริงเธอสามารถขึ้นไปได้เลย เพราะเขาบอกว่าเขาบอกพนักงานไว้ให้แล้ว แต่เป็นเธอที่ขอให้เขาลงมารับ มาช่วยถือของเอง ในเมื่อเขาปล่อยให้เธอถูกแม่เขาด่าแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็ต้องมาถือของให้เธอชดใช้ แม้มันจะเทียบกันไม่ได้เลยก็ตาม

และที่เธอทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เขาให้ที่อยู่กับเธอผิด ถ้าเห็นเขา เขาลงมารับก็จะช่วยยืนยันว่าเขาอยู่ที่นี่จริง ๆ

“คุณพ่อมาแล้วค่ะ” ยังไม่ทันที่จะตอบแม่ เห็นพ่อเดินมาหาเด็กหญิงก็ชี้ไปที่พ่อใหญ่ จนแม่ต้องปรามเบา ๆ

“จำที่ตกลงกับแม่ได้ไหมคะ ไหนบอกแม่สิคะ”

“จำได้ค่ะ ก็หนาวดีใจนี่คะ ที่จะได้เจอคุณพ่อ ที่จะได้อยู่เล่นกับพี่เหนือ”

“ไม่เป็นไรค่ะ แม่เข้าใจ ไว้ทุกอย่างเรียบร้อยเมื่อไหร่ แม่จะบอกกับทุกคนว่าหนูเป็นลูกสาวของแม่ แม่สัญญา รอหน่อยนะคะ”

“ค่ะ” เด็กหญิงพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปสวัสดีพ่อที่เดินมาถึงพอดี มองเลยไปก็มีพี่ชายที่เดินตามมาด้านหลัง

“สวัสดีค่ะ” อยู่ ๆ ก็มีเด็กมายกมือไหว แม้จะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลทีป์ก็รับไหว้ ก่อนจะเลิกคิ้วเชิงถาม ส่งให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“หลานสาวฉันเองค่ะ แม่ของแกทำงานอยู่ต่างประเทศ ฉันเลยต้องดูแล ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ขอฉันพาหลานมาอยู่ด้วยนะคะ”

หลังจากมองสำรวจเด็กหญิงที่ยกมือขึ้นไหวตนเมื่อครู่แล้ว ก็ทำให้กลทีป์นึกอะไรออก

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดไป คนที่เขาเห็นที่สนามบินก็คือเธอกับเด็กคนนี้สินะ และถ้าจำไม่ผิด...

“ถ้าจำไม่ผิดเธอเป็นลูกคนเดียวนี่”

“เป็นลูกของพี่สาวฉันจริง ๆ ค่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อไว้ฉันจะพาพี่สาวของฉันมาแนะนำให้รู้จักนะคะ”

“ไม่ต้อง ไม่จำเป็น”

“มีแค่นี้ใช่ไหมของของเธอ” เขามองเลยไปที่กระเป๋าลากใบใหญ่ก่อนจะพูดขึ้น

“ค่ะ”

เมื่อเธอตอบรับเขาก็เดินผ่านเธอไปถือกระเป๋าทันที ก่อนจะหันมาเห็นลูกชายพูดคุยกับเด็กหญิงที่ยกมือไหว้เขาเมื่อครู่ด้วยท่าทางสนิทสนม

“เคยเจอกันมาก่อนหรอหืม” กลทีป์เดินไปพูดกับลูกชายด้วยท่าทีอ่อนโยน ต่างกับที่คุยกับธริกาลิบลับ นั่นก็ทำให้เด็กหญิงที่รู้สึกเกร็ง ๆ กลัว ๆ กับท่าทีของพ่อในตอนแรก ๆ เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

“ครับ เคยเจอที่ร้านอาหารน้องเค้าหลงทาง”

“งั้นก็ทำความรู้จักกันไว้นะครับ เดี๋ยว...” กลทีป์เว้นช่วงไว้เล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าไปทางเด็กหญิงให้แกพูดต่อ

“วินเทอร์ค่ะ”

“ไหนตอนนั้นเรา...” น้ำเหนือร้องทักขึ้นมาทันที เมื่อชื่อที่ได้ยินเมื่อครู่ มันไม่ตรงกับที่เขารู้ก่อนหน้า

“หนะ...มีสองชื่อค่ะ คุณแม่จะเรียกหนูว่าวินเทอร์” คุณแม่ที่เธอหมายถึงก็คือ หม่ามี้เจรินของเธอนั่นเอง การพูดแบบนี้ก็ไม่ถือเป็นการโกหก อันที่จริงเธออยากแนะนำว่าเธอชื่อน้ำหนาวด้วยซ้ำ แต่คุณแม่บอกว่าคุณจะสงสัยถ้ารู้ว่าเธอชื่อคล้ายกับพี่เหนือ

“โอเค ทำความรู้จักกับน้องไว้นะ เดี๋ยวน้องจะมาอยู่กับเราด้วย”

“หมายความว่าไงหรอครับ” น้ำเหนือถามด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะเป็นธริกาที่มาช่วยอธิบาย

“แม่ของวินเทอร์ทำงานอยู่ต่างประเทศน่ะ แม่เลยช่วยดูแลวินเทอร์ให้”

“ถ้าแม่พาน้องมาอยู่ด้วย เหนือโอเคไหมครับ”

“อืม...” น้ำเหนือหันมองหน้าคนที่แม่บอกว่าจะให้มาอยู่ด้วยกันครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบแม่ได้

“เหนือโอเคครับ อยู่กันเยอะ ๆ จะได้ไม่เหงา เหนือจะได้มีเพื่อนเล่นด้วย”

“จริงนะคะ” เป็นเสียงเด็กหญิงที่ถามย้ำด้วยความดีใจ

“จริงสิ”

“วินเทอร์ดีใจที่สุดเลย ขอบคุณนะคะ”

“แม่ว่าเราขึ้นห้องกันดีกว่า เดี๋ยวอาหารจะชืด แล้วไม่อร่อย”

“ไปค่ะ ๆ” น้ำเสียงสดใสของน้ำหนาวดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเดินนำไปกับน้ำเหนือสองคน ทิ้งให้พ่อกับแม่เดินตามหลังมา

“วางแผนมาใช้ได้เลยหนิ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel