บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 บังเอิญ (4)

บทที่ 1 บังเอิญ (4)

“พี่ปริญ…”

“เดี๋ยวพี่ไปส่ง ขึ้นรถสิไหม” ไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้เสียงเข้มก็เอ่ยถึงความประสงค์ เขามองซ้ายขวาและกระจกหลังเนื่องจากกลัวว่าการจอดรถของตัวเองจะทำให้คันหลังด่าไล่

แล้วม่านไหมเองก็รับรู้ถึงความกังวลของเขาถึงได้รีบวิ่งขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งตัวรถขับเคลื่อนเบี่ยงออกเข้าช่องทางถนน เขาถึงได้เปิดประโยคถามกับคนข้างกายโดยไม่รู้เลยว่าหัวใจของเธอนั้นกำลังเต้นกระหน่ำหวั่นไหวมากเพียงใด

“ไหมมาทำงานวันนี้วันแรกเหรอ” ปริญถามพลางหันมองก็เห็นว่าตอนนี้ม่านไหมกำลังก้มหน้าบีบมือสองข้างตัวเองไว้แน่น “ไหมเป็นอะไรหรือเปล่า”

“ปะ...เปล่าค่ะ ไหมมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ แล้วก็ไม่คิดว่าพี่ปริญเองก็ทำงานที่นี่เหมือนกัน บังเอิญจังเลยนะคะ” ม่านไหมตอบเสียงแผ่ว แต่ไม่นานเธอก็พยายามปรับให้มันเป็นปกติ เช่นเดียวกับท่าทางตื่นตกใจที่คิดว่าปริญไม่น่าจะเห็นทัน

“นั่นสิบังเอิญมาก แล้วนี่พักไหมอยู่แถวไหนล่ะ พี่จะได้ไปส่งถูก”

“อ้อ...ไหมพักอยู่ที่หอเคซีค่ะ พี่ปริญขับตรงไป พอเห็นซอยยี่สิบสามก็เลี้ยวเข้าไปได้เลยค่ะ”

ปริญที่ได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วพัลวัน นึกแปลกใจกับที่พักอาศัยของเธอจะเป็นในรูปแบบห้องเช่า

“หอพักเหรอ?”

“ใช่ค่ะ เป็นหอพักเล็ก ๆ คล้ายกับหอหน้าตลาดบ้านเราเลยค่ะ” เธอยกตัวอย่างหอพักหน้าตลาดที่บ้านต่างจังหวัดขึ้นมา เพื่อให้ปริญพอนึกภาพออกว่ามันเป็นแบบไหน

“ทำไมไหมเลือกอยู่ที่นั่นล่ะ”

ฐานะทางบ้านของม่านไหมค่อนข้างร่ำรวย ที่บ้านเปิดร้านขายอุปกรณ์การเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ แล้วการที่เธอต้องมาอยู่อาศัยในเมืองหลวงเพียงลำพังคนเดียวแบบนี้เขาเองก็คิดว่ามันน่าห่วงไม่น้อย

“แหะ...ตอนแรกไหมตั้งใจว่าจะเซฟเงินน่ะค่ะ พยายามจะไม่ขอเงินจากแม่มากเพราะอยากใช้เงินเดือนของตัวเอง แต่พอมาอยู่เข้าจริง ๆ ไหมเองก็...” เธอไม่คิดว่าที่พักที่เลือกเองกับมือจะได้คุณภาพสมราคาแบบนี้

ห้องเช่าราคาเดือนละสี่พัน มีแอร์และเตียงให้ส่วนตู้เย็นสามารถเช่าได้เดือนละห้าร้อย การดูแลหอจะมีป้าคนหนึ่งคอยตรวจตรา แต่ตกกลางคืนกลับมีเพียงป้อมเล็ก ๆ ที่ไม่มีคนเฝ้า

คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ หากแม่เธอมาเห็นมีหวังได้เรียกรถขนของสั่งย้ายโดยด่วนเป็นแน่ เผลอ ๆ อาจจะพาตัวเธอกลับอยุธยาบ้านเกิดไม่ต้องทำงานตามสายที่ร่ำเรียนมาด้วยกระมัง!

“แล้วไม่มีรถใช้เหรอครับ” ปริญถามอีกครั้ง ใบหน้าของเขาก็หันมองอย่างเอาคำตอบพลางสลับมองกับหนทางเป็นระยะ

“ไม่มีค่ะ ไหมขับรถไม่เป็น”

พอได้ยินคำตอบเสียงถอนหายใจของปริญก็ดังขึ้นทันที ม่านไหมหันมองเล็กน้อยแต่ก็รับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร

“พี่ปริญอย่าบอกแม่ไหมนะ ไหมเองก็คิดว่าจะย้ายหออยู่เหมือนกันค่ะ แต่ก็น่าจะสิ้นเดือนเลย”

“มันปลอดภัยหรือเปล่าล่ะ แม่ไหมเขาเป็นห่วงไหมมากนะ นี่พี่ยังแปลกใจเลยที่แม่ไหมยอมให้ไหมมาอยู่คนเดียวในกรุงเทพฯ แบบนี้”

ในฐานะคนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงย่อมรู้จักกันดี ปริญรู้ว่าพ่อของม่านไหมเพิ่งเสียไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ทำให้ตอนนี้เธอต้องอยู่กับแม่เพียงสองคน เดิมทีแม่ของเธอก็ขึ้นชื่อว่าหวงลูกสาวอยู่แล้ว ความตั้งใจนั้นอยากให้ลูกสาวมาช่วยกันบริหารงานที่บ้าน แต่ก็ไม่รู้ด้วยเหตุใดถึงได้ยอมปล่อยให้เธอมาทำงานกินเงินเดือนในเมืองหลวงคนเดียวแบบนี้

“ไหมก็อ้อนแม่อยู่นานเหมือนกันค่ะ แต่พอไหมบอกว่าไหมได้บริษัทนี้แม่ก็อ่อนลงเยอะนะคะ” หากเป็นบริษัทเล็ก ๆ เงินเดือนน้อยนิดเธอมั่นใจว่าแม่ไม่มีทางให้เธอได้มาเหยียบย่ำในกรุงเทพฯ แน่นอน

“งั้นเดี๋ยวพี่จะมารับมาส่งไหมแล้วกัน คอนโดฯ พี่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่”

“คะ?” ม่านไหมหันมองทันที

“พี่เป็นห่วงน่ะ แต่ถ้าไหมไม่สะดวก...”

“สะดวกค่ะ!” หญิงสาวตอบรับเสียงขึงขังจนปริญถึงกับหน้าเหวอ เธอรีบปรับสีหน้าและฉีกยิ้มกว้าง พูดพร่ำอยู่ในใจว่าโอกาสทองมาถึงแล้วเธอจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง “เอ่อ...ไหมเพิ่งย้ายมาเลยยังไม่ชินทางน่ะค่ะ กลัวก็แต่ว่าจะรบกวนพี่ปริญมากกว่า”

“ไม่รบกวนหรอก พี่เต็มใจ คนกันเองทั้งนั้น เอาเป็นว่าตามนี้นะ”

“ค่ะพี่ปริญ ขอบคุณมากนะคะ”

ปริญเป็นคนที่เธอแอบชอบมาตลอด ความบังเอิญที่เธอได้เจอเขาในบริษัทเดียวกันก็คิดเป็นอื่นไม่ได้เลยว่าโชคชะตากำลังเข้าข้างเธอชัด ๆ

จากเพื่อนข้างบ้านที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก พอไปเรียนเขาก็เป็นรุ่นพี่สุดฮอตที่เธอแอบกรี๊ด ครั้นปริญเข้ามหาวิทยาลัยก็กลายเป็นว่าเธอแทบไม่ได้เจอหน้าเขาเลย เมื่อเห็นว่าเขากลับบ้านที่อยุธยาก็มักจะเข้าไปเดินเลียบเคียง ๆ ให้เขาทักทาย ในเมื่อฟ้าเป็นใจบันดาลให้เธอมาเจอเขาด้วยความใกล้ชิดแบบนี้คนอย่างม่านไหมตั้งมั่นกับตัวเองว่าไม่มีทางปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปเป็นแน่

คราวนี้มีหวังม่านไหมได้เลื่อนสถานะจากคนแอบชอบไปเป็นแฟนของพี่ปริญแน่นอน!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel