บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 บังเอิญ (1)

บทที่ 1

บังเอิญ (1)

สองเท้าย่ำเหยียบไปตามทางฟุตพาทอันขรุขระแตกหัก ด้วยจังหวะร้อนรนจึงทำให้การก้าวแต่ละครั้งเกิดความซวนเซ ก้าวแล้วก็มีน้ำขังดำ ๆ กระเซ็นขึ้นเปรอะเปื้อน หากแต่มันกลับไม่ได้ทำให้อาการเร่งรีบกระวนกระวายลดน้อยลงไปเลย

“ฮือ...จะไปทันไหมนะ ต้องทัน ๆ มันต้องทันสิยายไหม ยังไงมันก็ต้องทัน!” ม่านไหมพูดพร่ำกับตัวเองขณะที่ขาสองข้างก็ฉับตรงปรี่ไปตามทางเดินเท้าที่ไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นทางเดินที่สร้างความเจ็บปวดให้ตัวเองมากเพียงใด

ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงสี่สิบห้านาทีแล้ว ซึ่งเธอต้องเข้างานในเวลาแปดโมงตรง และมันก็เท่ากับว่าเธอเหลือเวลาอีกสิบห้านาทีเท่านั้นกับการเดินเท้าไปยังบริษัทในระยะทางสองกิโลเมตร

ความจริงแล้วเธอจะไม่ซีเรียสขนาดนี้เลยถ้าหากวันนี้ไม่ใช่การเริ่มงานวันแรก

ใช่...การเริ่มงานวันแรกก็มีแววว่าจะไปทำงานสายประเดิมซะเลย!

ม่านไหมแทบร้องไห้เมื่อความตั้งใจไม่เป็นอย่างหวังสักอย่าง เธอเพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้ได้ไม่นานเลยยังไม่คุ้นชินที่ทาง ก่อนจะเริ่มวันทำงานเธอก็มาลองลัดเลาะและคำนวณเวลาไว้เรียบร้อย ครั้นถึงวันจริงทุกอย่างกลับไม่เป็นใจสักอย่าง ป้าคุมหอมาเคาะประตูบอกจะซ่อมก๊อกน้ำตั้งแต่หกโมงเช้า พอเดินออกมาหวังจะขึ้นพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่หน้าปากซอยก็ดันหายกริบไม่มีสักคัน ลองกดเรียกรถผ่านแอปก็โดนไรเดอร์ยกเลิก

คำพูดเดียวที่เธอนิยามกับตัวเองในวันนี้ก็คือคำว่า ‘ซวย’

“โอ๊ะ! พี่คะ พี่วิน! จอดก่อนค่ะ ช่วยไปส่งหนูที!” แต่แล้วก็เหมือนว่าโชคชะตาสงสาร พี่วินมอเตอร์ไซค์ดันขับขึ้นมาบนทางเท้าสวนกันกับเธอพอดี

หากเป็นเวลาปกติเธอคงบ่นอยู่ในใจถึงความมักง่ายไปแล้ว แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับขอบคุณต่อสรวงสวรรค์ว่าช่างใจดีส่งพี่วินมาให้หนูถึงที่เลยทีเดียว

และการเดินทางมาบริษัทในวันทำงานวันแรกของม่านไหมก็เรียกได้ว่าเฉียดฉิวหวุดหวิด พลันลงจากรถและจ่ายเงินเธอก็รีบวิ่งเข้าไปด้านในพร้อมกับขึ้นลิฟต์กดปุ่มไปยังชั้นจุดหมาย ครั้นยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาถึงได้เห็นว่าเหลือเวลาอีกแปดนาทีเลยเชียว

“ขอบคุณประเทศไทยที่มีพี่วินให้ขึ้น” ม่านไหมยกมือไหว้ขอบคุณคนเดียว แต่ก็ไม่แปลกใจกับเวลาเท่าไหร่เพราะเพียงแค่เธอหย่อนก้นลงบนเบาะ ตัวรถมอเตอร์ไซค์ก็แทบบินสะเทิ้นฟ้าเหาะมาส่ง

ระยะทางสองกิโลเมตรใช้เวลาไม่ถึงสามนาที เธอล่ะอยากมอบโล่ทำรางวัลให้กับคนผู้คิดค้นการขนส่งสาธารณะชนิดนี้จากใจ

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อม่านไหม ประเสริฐภิรมย์ วันนี้มาทำงานวันแรกค่ะ” ทันทีที่ตัวลิฟต์เปิดออก สองขาเรียวก็รีบจ้ำยังแผนกฝ่ายบุคคลแล้วกล่าวกับคนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทันที

ก่อนเริ่มงานเธอสอบถามมาเรียบร้อย ทางบริษัทแจ้งว่าให้มารายงานตัวกับฝ่ายบุคคลก่อน จากนั้นถึงค่อยไปยังแผนกที่ทำงานซึ่งก็คือฝ่ายบัญชี

ม่านไหมได้รับรอยยิ้มเป็นมิตรส่งกลับมา พูดคุยกับคนอีกฝ่ายสองสามประโยคแล้วเดินตามไปยังแผนกตัวเองเมื่อทุกอย่างแล้วเสร็จ

หญิงสาวเดินตามหลังไปด้วยความประหม่า แม้ว่าจะศึกษามาอย่างถี่ถ้วนว่าบริษัทนี้ให้สวัสดิการดีเลิศ รีวิวก็เป็นในทางเดียวกันว่าเพื่อนร่วมงานเป็นมิตร แถมยังเป็นบริษัทใหญ่ที่ยากต่อการเข้าทำงานอันดับต้น ๆ ของประเทศ ครั้นได้เป็นหนึ่งในองค์กรจริง ๆ เธอกลับไม่เป็นตัวของตัวเองจนพูดอะไรไม่ออก

อาจเป็นเพราะความเคยชินของม่านไหมที่ไม่เคยทำงานจริง ๆ เพราะหลังจากเรียนจบเธอก็กลับไปอยู่กับแม่ที่บ้านเนื่องจากผู้เป็นพ่อเสียชีวิตด้วยโรคร้ายกะทันหัน เธออยู่กับแม่สองปีช่วยงานค้าขายอุปกรณ์การเกษตรที่บ้าน กระทั่งตัดสินใจว่าอยากมาลองทำงานด้วยตัวเองสักครั้ง และนี่ก็เป็นสถานที่แรกที่เธอจะได้เรียนรู้ได้ทดลองการใช้ชีวิตแบบมนุษย์เงินเดือนจริง ๆ

“ก๊อก ๆ พาน้องใหม่มาฝากค่ะ” พนักงานฝ่ายบุคคลทำเสียงแทนการเคาะประตูก่อนจะจับจูงมือของม่านไหมให้เดินขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกัน

หญิงสาวส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับคนในแผนก ความประหม่าอันเปี่ยมล้นต้องรีบฝังกลบให้มิดที่สุดแล้วแทนที่ด้วยความยินดีออกมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel