บทนำ
บทนำ
ความสนุกในความสัมพันธ์ไร้สถานะ...
กลายเป็นโซ่กักกันบีบบังคับให้เขาจำต้องแต่งงานกับเธอ!
“พี่ปริญ...ไม่อยากแต่งงานใช่ไหมคะ” เสียงสั่นเครือของ ‘ม่านไหม’ ถามกับชายคนที่แอบรักสุดหัวใจมาตลอดสิบปี
สายตาหวาน ๆ แต่เต็มไปด้วยหยาดสีใสของน้ำตากำลังจดจ้องมองใบหน้าหล่อเหลา ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธจากคำสั่งของครอบครัวถึงเรื่อง ‘การแต่งงาน’ กับเธอ
ใช่...การแต่งงานที่เป็นการบีบบังคับไม่ใช่ความเต็มใจ
“ไม่อยู่แล้ว!”
คำตอบของหัวหน้าวิศวกรบริษัทยักษ์ใหญ่ชื่อดังอย่าง ‘ปริญ’ ดังก้องกระแทกตอกหน้า พานทำให้คนที่รอคอยฟังถึงกับชาวาบไปทั้งร่างกาย มันไม่ต่างจากการถูกประจานด้วยคำพูดเจ็บแสบต่อหน้าผู้คนนับร้อยเลยสักนิด
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเกิดเรื่องวุ่นวายจนเกือบทำให้คนอย่างปริญแทบระเบิด ทางครอบครัวของเขาบุกมาหาถึงที่หลังจากรับรู้ถึงความสัมพันธ์ลับ ๆ ไร้สถานะของสองคนเข้า และแน่นอนว่าครอบครัวที่เป็นถึงข้าราชการยศใหญ่ มีหน้ามีตาในหมู่บ้านและอำเภออย่างเขาย่อมเดือดร้อนกับการกระทำของลูกชาย
การรับผิดชอบอย่างเดียวที่ ‘ทำได้’ และ ‘ต้องทำ’ ก็คือการตบแต่งจัดงานมงคลภายในหกเดือน
หกเดือน!
“พี่ปริญไม่ต้องแต่งงานก็ได้ค่ะ ไหมจะคุยกับคุณลุงคุณป้าให้เอง พี่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น มันคือข้อตกลงของเราสองคน...และไหมเองก็เต็มใจด้วย”
ม่านไหมพยายามผลิยิ้มออกมา หากแต่ดวงตาและความแดงก่ำจากความเสียใจกลับปรากฏชัดอยู่บนใบหน้า ตอนนี้เธออยากร้องไห้ออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ถูกคนที่แอบรักรังเกียจกันไม่พอ ป่านนี้เขาคงมองว่าเธอเป็นคนหน้าด้านที่หวังจับรวบหัวรวบหางเขาไปแล้วกระมัง!
ปริญและม่านไหมเกิดและเติบโตที่จังหวัดอยุธยา ทั้งสองคนอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน เป็นทั้งเพื่อนบ้านที่ทั้งเล่นทั้งเรียนด้วยกัน ครั้นเมื่อม่านไหมร่อนใบสมัครหางานก็ยังบังเอิญได้เจอปริญที่บริษัทในฐานะหัวหน้าต่างแผนกอีก
แต่โชคชะตาในชีวิตมักเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ จากเพื่อนบ้าน รุ่นพี่สุดฮอต เพื่อนร่วมบริษัท ทว่าก็ผันมาเป็น ‘เพื่อนร่วมเตียง’ เมื่อฤทธิ์มึนเมาเข้าครอบงำในคืนเลี้ยงต้อนรับพนักงานใหม่
สถานะของคนสองคนเปลี่ยนไปชั่วข้ามคืน จนมันลากยาวมาถึงตอนนี้ หากลองนับเป็นตัวเลขคร่าว ๆ ก็ประมาณสามปีกว่าได้แล้ว
ม่านไหมอยู่ในฐานะเพื่อนร่วมเตียงของปริญที่เป็นพี่ชายข้างบ้านมาสามปีแล้ว...
“เหอะ! ถ้ามันง่ายแบบนั้นก็คงดี ไหมเองก็น่าจะรู้ว่าคำสั่งแม่พี่เด็ดขาดมากแค่ไหน”
คำสั่งของคุณนายสร้อยงามประกาศิตยิ่งกว่าคำสาปแช่งซะอีก!
“แล้วพี่ปริญจะทำยังไงคะ”
อยากรู้ว่าเขาจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไง ถึงแม้ว่าเธอจะแอบรักเขามากแค่ไหน แต่การที่ต้องเห็นเขาเป็นทุกข์เพราะต้องแต่งงานจากการบังคับ เธอเองก็ไม่ต้องการมันเหมือนกัน
เธออยากให้เขาแต่งงานด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่เพื่อรับผิดชอบตามคำสั่งของผู้ใหญ่แบบนี้!
“แม่ง! มีแต่ปัญหา” ร่างสูงหมุนตัวและเดินออกไปจากห้องพร้อมด้วยเสียงสบถด่าแสดงถึงแรงโทสะ
น้อยครั้งมากที่ม่านไหมเห็นความเกรี้ยวโกรธของปริญ ปกติแล้วปริญมักจะเก็บอารมณ์และใช้เหตุผลอยู่เสมอ เขาเป็นคนสุขุมและอ่อนโยนอบอุ่น แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในมุมที่เขาโมโหก็น่ากลัวไม่ต่างจากซาตานเลย
หญิงสาวรีบวิ่งตามออกไปแม้ในใจจะแอบหวั่นถึงท่าทางหงุดหงิดของเขา แต่ทว่าสองขากลับเป็นต้องชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงของปริญที่กำลังพูดคุยกับคนในโทรศัพท์
“มึงไม่ต้องเตรียมเด็กให้กู กูแค่อยากแดกเหล้า...เออ กูจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
หัวสมองมึนตึงคล้ายคนด้านชา แต่เมื่อยามที่ปริญหันกลับมาเธอยังคงหยัดยิ้มหวานและส่งให้เขาอย่างเช่นทุกครั้ง
“พี่ปริญจะไปไหนเหรอคะ” ม่านไหมถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว
เธอได้ยินสิ่งที่เขาคุยกับคนปลายสาย แต่ก็หวังจะใช้เสียงสั่น ๆ ของตัวเองพยุงรั้งเขาให้อยู่ต่อเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ
เธออยากอยู่ฉลองกับเขา...
“พี่จะออกไปข้างนอก ไม่กลับ”
คำว่า ‘ไม่กลับ’ ในความหมายของปริญก็คือคืนนี้และอีกหลาย ๆ คืนที่เขาจะหายหน้าหายตาไปสักพัก เหมือนกับตอนที่เขาและเธอเคยทะเลาะกันหนัก ๆ ปริญก็หายไปร่วมสัปดาห์จนม่านไหมช้ำใจแทบไม่เป็นอันทำงาน
เธอเจ็บปวดและเสียใจกับความสัมพันธ์ไร้สถานะแบบนี้มามาก หากแต่มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอได้ใกล้ชิดกับชายที่แอบรักมาตลอดสิบปี
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เธอยอมเป็นคนในความลับของเขา เพียงเพราะได้เชยชมชิดใกล้ แม้ว่าจะเป็นเพียงเงามืดที่ไม่มีตัวตนในสังคมของเขาก็ตาม
“ไว้พี่หาทางออกได้แล้วค่อยมาพูดเรื่องของเรา” พูดจบร่างสูงใหญ่ก็เดินออกไปทันที
สายตาหวานทอดมองกระทั่งมันหายลับสุดสายตา ก่อนที่หยาดน้ำเม็ดน้อย ๆ จะร่วงไหลพรั่งพรูอาบแก้มทั้งสองข้าง แรงสะอื้นตีตื้นจนร่างเล็กทรุดฮวบลงสู่พื้น เธอไร้เรี่ยวแรงที่จะหยัดยืนได้อีกต่อไป หากแต่หัวใจดวงน้อย ๆ กลับยืนกรานหนักแน่นเพียงอย่างเดียวว่าเธอยังคงรักเขาไม่เปลี่ยนแปลง
ปริญไม่ต้องรักเธอก็ได้ ขอแค่เธอได้รักเขา...มันก็เพียงพอแล้ว
