ใกล้ชิดมากขึ้น
ภายในห้องที่เงียบสงบ มีเพียงธีรณัฏฐ์ที่ยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เมื่อเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จากความปรารถนาที่อัดแน่นเติมอยู่ภายในใจ หัวใจของเขากำลังเต้นแรงเหมือนกำลังจะหลุดออกมาอยู่อย่างนั้นนานสักพัก ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะระบายออกมาเปื้อนใบหน้าหล่อด้วยความรู้สึกดีและมีความสุขมากในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา
"ทำไมถึงต้องการอยากอยู่ใกล้ๆ ยัยเด็กนั้นถึงขนาดนี้วะ”
ความรู้สึกตื่นเต้น ความหลงใหลในเรือนร่างที่สวยงาม ใบหน้าสวยหวานและสมส่วน ทำให้เขาชอบเธอเอา มากๆ จนแทบจะคลั่งตายเสียให้ได้ถ้าในชีวิตเขาต่อไปจากนี้ไม่มีเธออยู่ในนั้น เมื่อคิดได้เขาถึงรู้ใจตัวเองว่าตอนนี้เขาไม่ได้แค่ชอบเธอธรรมดา แต่ตอนนี้เขากำลังชอบเธอเอามากๆเลยต่างหาก
1 ชั่วโมงผ่านไป
ปิ้งป่อง!! ปิ้งป่อง!! ปิ้งป่อง!!
เสียงออดดังสนั่นขึ้นหน้าเคาน์เตอร์พยาบาลอีกครั้ง เมื่อคนไข้เจ้าปัญหาของเธอกดมันออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลสาวเจ้าของไข้ที่อยู่ในใจของเขา ธีรณัฏฐ์นั่งจดจ่ออยู่บนเตียงพลางคิดในใจถ้าไม่ใช่เธอเขาคงต้องตัดสินใจไล่เจ้าหน้าที่กลับไปเป็นแน่ แต่ทว่ากลับทำให้หัวใจของเขาพองโตขึ้น เมื่อพยาบาลสาวเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เฉยเมยและอิดโรยจากการอดหลับอดนอน
“เราอยากไปเข้าห้องน้ำ ช่วยพาไปหน่อยดิ”
“ได้ค่ะ”
ท่าทางนิ่งเงียบ และสุภาพของเธอทำให้เขาถึงกลับชะงัก ก่อนที่นิ้วเรียวจะยื่นมือมาช่วยพยุงแขนและลากเสาน้ำเกลือของเขาเดินเข้าห้องน้ำ แต่การกระทำของเธอกลับทำให้ธีรณัฏฐ์รู้สึกหงุดหงิดในใจเมื่อการกระทำทุกอย่างของเธอดูนิ่งเงียบสงบ ราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
“ไม่ต้องล็อกประตูห้องน้ำนะคะ”
“ทำไมหรอ? เธออยากเห็นอะไรหรือเปล่า?”
คำพูดทีเล่นทีจริงของเขามาพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มสุดแสนจะเจ้าเล่ห์ แต่กลับถูกดวงตาคู่คมนั้นเมินหนีห่างไปอย่างไร้เยื่อใย
“ไม่ใช่ค่ะ ที่บอกไม่ให้ล็อกเผื่อคุณธีรณัฏฐ์ลื่นล้มหัวแตกตายอยู่ในห้องน้ำ เดี๋ยวดิฉันจะซวยเอา”
เธอกระแทกเสียงกระแนะกระแหนใส่เขาด้วยท่าทางหงุดหงิดใจอย่างชัดเจน และยังคงสาดส่งสีหน้าและท่าทางเหล่านั้นมาให้เขา เพื่อทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดใจด้วยอีกคน
“แช่งเราหรอ เราไม่ตายง่ายๆหรอก จะอยู่ตามหลอกหลอนเธอไปอีกนานเลย”
ปัง!!
เสียงประตูห้องน้ำกระแทกกันเสียงดังด้วยน้ำมือของพยาบาลสาวที่ยืนอยู่ด้านนอกห้อง เธอไม่รอให้เขาได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ รีบปิดประตูใส่หน้าเขาให้มันจบๆจะได้ออกไปทำงานอย่างอื่นที่ค้างไว้ต่อได้
5 นาทีผ่านไป
หลังจากช่วยพยุงร่างของเขาขึ้นมานอนบนเตียงได้สำเร็จ พยาบาลสาวรีบถอยหลังห่าง ก่อนจะรีบเอ่ยตัดบทไป ก่อนที่เขาจะพูดอะไรกวนใจเธออีก
“ไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ อยู่เป็นเพื่อนเราก่อนได้มั้ย?”
น้ำเสียงออดอ้อนเอ่ยปากขอร้องเธอ เพราะอยากเห็นหน้า และอยากให้เธออยู่ใกล้ๆเขา ถึงแม้ว่ามันจะมีโอกาสโดนเธอปฏิเสธสูงมากเลยก็ตามแต่
“ไม่ได้ค่ะ ดิฉันมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ ไม่ได้มีคุณเป็นคนไข้แค่คนเดียว”
“งั้นห่มผ้าให้เราหน่อยได้มั้ยครับ มันติดสายน้ำเกลือห่มยากไปหน่อย”
รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าหล่อคมอย่างชัดเจน ถึงแม้ในใจจะรู้สึกไม่ดีที่เห็นเธอปฏิเสธ แต่ยิ่งเธอปฏิเสธเขาเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เขาอยากอยู่ใกล้เธอมากขึ้นเท่านั้น เมื่อเขาเองก็อยากรู้ใจตัวเองเหมือนกันว่ามันจะตื่นเต้นอีกหรือไม่ถ้าอยู่ใกล้ๆเธอ
“ได้ค่ะ เดี๋ยวห่มผ้าให้”
"ทำไมต้องทำตัวเย็นชาขนาดนั้นด้วยอะ ถามจริง? ”
ท่าทางเย็นชา นิ่งเงียบ และสีหน้าเรียบเฉยของเธอทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจ รีบคว้าข้อมือเธอและดึงเข้ามาใกล้ๆ จนกระทั่งพยาบาลสาวเสียหลักล้มลงมานอนทับเขาที่เตียง ก่อนที่อ้อมแขนแกร่งทั้งสองข้างจะกอดรัดเธอเอาไว้แน่นกับตัวเอง
“เอ๊ะ!! นี่ปล่อยเรานะ"
"ไม่ปล่อย!!"
"นี่มันแน่นเกินไปเราหายใจไม่ออก!!”
“ให้เราช่วยหายใจให้มั้ย เราช่วยได้นะ?”
เขายังคงเล่นติดตลก ไม่ยอมคล้ายอ้อมแขนแกร่งของจากเธอ แถมยังกดตัวเธอลงมาหาเขาแน่นกว่าเดิมอีก
“ปล่อย!! ถ้าเธอไม่ปล่อยเรานะเราจะตะโกนดังให้พี่ๆ ข้างนอกเข้ามาช่วย”
“โอเค ปล่อยก็ได้”
อ้อมแขนแกร่งเร่งคล้ายออกมาจากการกอดรัดร่างของเธอ ทำให้พยาบาลสาวรีบดีดตัวออกจากเขาในทันที ก่อนที่นิ้วเรียวจะกำหมัดแน่นด้วยความโมโห
“เธอเลิกทำตัวแบบนี้สักทีได้มั้ย มันทำให้เราทำงานลำบากรู้ตัวมั้ย?”
น้ำเสียงหวานเริ่มสั่นเครือ พลางถอนหายใจออกมาแสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายกับเขาสุดๆที่ค่อยแกล้งปั้นหัวให้เธอทำงานยากขึ้น
“อันนั้นมันเรื่องของเธอ ที่เธอจะต้องจัดการวางแผนการทำงาน การดูแลคนไข้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนไข้แบบเรา”
“ห๊ะ!!...โอเค!! เรารู้แล้ว!! เราไม่อยากคุยกับเธอละ...เพราะต่อให้คุยไปยังไง คนเห็นแก่ตัวแบบเธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”
คำพูดที่พ่นออกมาด้วยความเหนื่อยล้าและความโมโห ขาเรียวยาวก้าวเท้าเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้เขาที่กำลังอ้าปากจะเถียงเธอค้างเต่ิงอยู่คนเดียวเพียงลำพัง กระทั่งต้องหลุดขำออกมาด้วยความเอ็นดูท่าทางง้องอนของพยาบาลสาวที่เห็นแล้วมันช่างน่ารักน่าชังเอาเสียเหลือเกินในเวลานี้
เวลา 03.30 นาที
ยิ่งดึกๆ อากาศภายในตัวอาคารเริ่มหนาวเย็นขึ้น ชวนให้ง่วงเหงาหาวนอน ถึงแม้จะรู้สึกง่วงมากแค่ไหน แต่แพรพิชชากับนอนไม่ได้ เพราะต้องทำตามหน้าที่คอยดูแลคนไข้และเคลียร์เอกสารทั้งหมดกระทั่งหัวฟูฟ่องอย่างชัดเจน
ปิ้งป่องๆ!!
"เฮ้อ!!"
เสียงออดดังแทรกขึ้นมาอีกรอบในขณะที่เธอกำลังเคลียร์เอกสารอยู่ ทำให้พยาบาลสาวถึงกลับสะดุ้งตัวด้วยความตกใจ เธอเฝ้าภาวะนาในใจอย่าใช่ห้องของใครบางคน ก่อนจะหันไปมองที่เครื่องและตามด้วยเสียงถอนหายใจออกมาม้วนใหญ่
“อีตาบ้านั้นจะกดออดทุกชั่วโมงแบบนี้ไม่ได้นะ”
น้ำเสียนุ่มลอบบ่นออกมาเสียงดังลั่นหน้าเคาน์เตอร์พยาบาล เนื่องจากความเหนื่อยหน่ายจิตใจ เมื่อมองเห็นเลขห้องโชว์อยู่ที่เครื่องส่งสัญญาณ
“น้องแพร์เดี๋ยวพี่ปอนด์ไปดูให้ น้องแพร์เคลียร์เอกสารต่อเถอะ”
พยาบาลสาวรุ่นพี่เสนอตัวช่วยเหลือคนน้อง เพราะเห็นว่าแพรพิชชายังเคลียร์เอกสารคนไข้ไม่เสร็จ ทั้งที่มันควรจะเสร็จตั้งนานแล้วถ้าไม่มีเคสของเขาแทรกเข้ามาวุ่นวายในค่ำคืนที่สุดแสนจะยาวนานนี้
“ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่ปอนด์ รบกวนพี่ด้วยนะคะ”
"จ้า น้องแพร์ เดี๋ยวพี่จัดการเอง"
ปังปอนด์รีบเดินออกจากเคาน์เตอร์ตรงไปยังห้องของเขาในทันทีที่รู้ว่าเป็นชายหนุ่มกดออดออกมาเพื่อต้องการความช่วยเหลือ
3 นาที่ผ่านไป
แทนที่ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี แต่ทว่าปังปอนด์กับเดินกลับออกมาจากห้องด้วยสีหน้าและที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะถูกเขาปฏิเสธออกมาเสียงแข็ง เมื่อชายหนุ่มต้องการเพียงพยาบาลสาวเจ้าของไข้คนเดียวเท่านั้นในเวลานี้
“เอ่อ คือ น้องแพร์จ๊ะ คนไข้เขาไม่ให้พี่เข้าไปอะ เขาไล่พี่ออกมา บอกขอเป็นน้องแพร์คนเดียวเท่านั้น!!”
“ห๊ะ!! อีตาบ้านี่มันกวนประสาทกันชัดๆ โอเคๆ ไม่เป็นไรค่ะพี่ปอนด์เดี๋ยวแพร์เข้าไปเอง ขอบคุณมากๆ นะคะ”
ใบหน้าสวยเริ่มแดงด้วยความหงุดหงิดใจ พลางเร่งกำหมัดแน่น มือไม้สั่นเครือด้วยความโกรธ และความโมโหที่กำลังพุ่งทะยานขึ้นจนเลือดขึ้นหน้า
“ทำไมต้องเรื่องมากขนาดนั้นด้วยวะ คนไข้คนอื่นฉันก็ต้องดูแลเหมือนกัน เอกสารคนไข้ฉันก็ต้องเคลียร์ให้จบก่อนเช้า นี่ก็ยังทำไม่เสร็จสักอันเลยเพราะอีตาบ้านี่คนเดียวเลยจริงๆ”
เสียงบ่นพึมพำออกจากปากของพยาบาลสาว พร้อมก้าวขายาวสาวเท้าเดินไปยังห้องของเขาด้วยความใจร้อนสุด เมื่อคนพี่ตั้งใจจะก่อกวนเธอให้ทำงานลำบากขึ้น ในขณะที่เธอเคยตักเตือนไปแล้ว
แอ๊ดดดด!!
เสียงประตูห้องเปิดออกยังไม่ทันที่บานประตูนั้นจะปิดสนิทลง ด้วยความโมโหและความหงุดหงิดใจเธอรีบตะคอกเขาไปในทันทีที่มาถึง
“เธอกำลังทำบ้าอะไรอยู่ ทำไมต้องทำตัวแบบนี้ด้วย เราก็มีคนไข้คนอื่นที่ต้องดูแลเหมือนกัน ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวเข้าใจมั้ย แล้วทำไม……”
พยาบาลสาวชะงักลงทันทีด้วยความตกตะลึง ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้น หัวใจทั้งดวงที่กำลังสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายร่วงหล่นลงสู่ปลายเท้าในทันใด เมื่อเขายกมือถือขึ้นสูงในระดับสายตา พลางยิ้มมุมปาก พร้อมสายตาเจ้าเล่ห์มายังเธอ เพราะเขากำลังอัดเสียงของเธอที่กำลังตะคอกเขาไปด้วยความโมโหเมื่อครู่นี้
“เธออัดเสียงเราทำไม? ลบออกเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“เราก็แค่อัดไว้เป็นหลักฐาน เธอจะได้เลิกดื้อกับเราสักที”
“ดื้ออะไร? ลบออกเดี๋ยวนี้เลยนะ”
แพรพิขชาพยายามเดินเข้ามาใกล้ และเอื้อมนิ้วไขว้คว้ามือถือของเขาที่กำลังถูกยกขึ้นสูงขึ้นเหนือศีรษะ เพื่อหลบหนีเธอ
“ที่กดออดก็เพราะเลือดย้อนขึ้นมาในสายน้ำเกลือ เราก็แค่อยากให้เธอช่วย”
“โอเค!! เราจะช่วยแต่เธอต้องลบคลิปเสียงนี้ออกก่อน”
“ไม่ลบใครจะทำไมนี่มือถือเรา เราจะทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าเธอไม่ยอมช่วยเรา เรื่องนี้คงถึง ผอ. โรงพยาบาลแน่ๆ”
เขาพูดขึ้นพร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตา ส่งรอยยิ้มกวนประสาทมายังเธอที่กำลังโมโหเขาจนหน้าแดง แต่ก็ต้องตั้งสติกัดฟัน พลางกำมือแน่นเอาไว้ ยอมทำตามหน้าที่และความต้องการของเขาในทันทีเพื่อลดปัญหาด้านการทำงานในอนาคต
