อยากเจอหน้า
1 ชั่วโมงผ่านไป
ล่องเรือยอชต์ปาร์ตี้
สำหรับสายปาร์ตี้การล่อเรือยอชต์ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เพื่อนๆ ชอบทำกันเวลามาเที่ยวทะเล แต่ทว่าเนื่องจากวันนี้คลื่นทะเลค่อนข้างแรงจึงทำให้แพรพิชชาเริ่มเมาเรือ หญิงสาวจึงเลือกที่จะมานั่งพักอยู่อีกฝั่งไม่ไปร่วมโนกย้ายสายสะโพกปาร์ตี้กับเพื่อนๆ เพื่อทำให้อาการเวียนหัวของเธอคลี่คลายลง
“ไหวมั้ยครับ?”
น้ำเสียงเข้มเอ่ยขึ้นเบาบาง ข้างๆ ใบหูของหญิงสาว พานทำให้เธอสะดุ้งตกใจตื่นจากการหลับตาพริ้ม เพื่อผ่อนคลายอาการเวียนหัวของตัวเอง รีบขยับตัวค่อยๆออกห่างจากเขา
"อื้ม!!”
“เอาน้ำเปล่าหน่อยมั้ย?”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้อง!!”
เธอตอบกลับมาเพียงประโยคสั้นๆ พลางเบือนใบหน้าหนีห่างจากสายตาของเขาไปอีกฝั่ง
“เพื่อนไม่รู้หรอว่าเธอเมาเรือ?"
“รู้!! แต่เราไม่อยากทำให้เพื่อนหมดสนุกเลยไม่อยาก”
“แล้วกินยาแก้เมาเรือมาหรือยัง”
“อืม”
ด้วยอาการเวียนศีรษะและพะอืดพะอมเธอจึงไม่อยากจะสนใจอยากจะสนทนากับเขาเท่าไหร่ จึงรีบขยับตัวหนีห่างและประคองร่างตัวเองลงไปนอนยังใต้ท้องเรือแทน แต่ทว่ายังไม่ทันได้หลับสนิทกลับรู้สึกรู้สึกเหมือนมีใครบางคนทรุดตัวนั่งลงข้างๆ ร่างของเธอบนเตียง
“เดี๋ยวเราอยู่เป็นเพื่อน เผื่อเธอต้องการความช่วยเหลือ”
สิ้นเสียงของเขาความเงียบเข้าครอบงำร่างของเธอในทันที แม้จะรู้ว่าเป็นเขา แต่เธอกลับไม่อยากลืมตาขึ้นมาไล่เพราะรู้สึกเวียนหัวและพะอืดพะอมมาก ปล่อยให้เขายื่นมือมาลูบที่ศีรษะของเธออยู่อย่างนั้น แต่ทว่ามันกลับทำให้เธอรู้สึกดีและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายด้วยฤทธิ์ยาและความเคลิบเคลิ้มทำให้เธอเผลอหลับไปในที่สุด
1 ชั่วโมงต่อมา
"อื้อ!!"
ร่างเล็กที่หลับใหลในห้วงแห่งความฝันสะดุ้งตัวตื่นอย่างงัวเงียเมื่อรู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่างหนักอึ้งพันอยู่ที่เอว เธอเริ่มยกเปลือกตาที่หนักอึ้งด้วยฤทธิ์ของยาขึ้นสำรวจรอบห่างเหินกลับต้องตกใจ เพราะมีใครบางคนกำลังนอนกอดเธอจากทางด้านหลัง ด้วยความตกตะลึงเธอรีบยกแขนเขาออก แต่ทว่ากลับมีแรงกดลงที่ตัวเธอสวนกลับมาในทันที จนทำให้เจ้าตัวนอนลงที่พื้นอีกครั้ง ก่อนที่ใบหน้าสวยจะรีบหันกลับมามองเขาที่กำลังลืมตาจ้องมองหน้าของเธออยู่เช่นกัน
“เธอปล่อยนะ!!"”
“ไม่ปล่อยได้ครับ อยากนอนกอดแบบนี้ไปนานๆ”
ใบหน้าหล่อนิ่งเรียบเฉย แต่สายตาที่ส่งกลับมาช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก กระทั่งมันทำให้ใจเธอสั่นไหว ใบหน้าแดงก่ำขึ้นอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังเขินเขาอยู่
“ไม่ได้ เดี๋ยวใครมาเห็นจะเข้าใจผิด"
“ปล่อยเข้าใจผิดไปเข้าใจว่ายังไงก็แบบนั้นแหละตามที่เห็นเลย”
“จะบ้าหรือไง!!”
หญิงสาวรีบฝืนดันอ้อมแขนแกร่งของเขาออกจากตัวเธอ จนสามารถลุกขึ้นนั่งได้สำเร็จ
“แล้วเป็นไงบ้าง ดีขึ้นยัง?”
“อื้ม!!”
เธอตอบเขาไปสั้น พลางหรี่ตากดต่ำด้วยท่าทางหวาดระแวงกลัวเขาคิดจะแกล้งเธออีก
“เรือใกล้เข้าฝั่งละ ไอ้พวกนั้นเมานอนเป็นผักตามเคย”
“จริงดิ ฮ่าๆ”
หญิงสาวหลุดขำออกไป เพราะคำที่เขาใช้เปรียบเปรยพูดมันดูช่างตลกเอาเสียจริงๆ
“เวลาเธอยิ้มน่ารักดีนะ อยากให้เธอยิ้มแบบนี้ให้เราทุกครั้งที่เจอกันได้มั้ยครับ?”
รอยยิ้มกว้างหุบยิ้มแทบไม่ทัน เธอรีบเบือนสายตาหันมองไปทางอื่น เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขาที่กำลังจ้องหน้าเธออยู่ ใบหน้าสวยเริ่มร้อนผ่าวแดงก่ำขึ้น หัวใจเต้นแรงจนหญิงสาวต้องรีบเปลี่ยนที่อยู่ย้ายตัวเองออกห่างให้ไกลจากเขาก่อนที่เขาจะรู้ถึงความรู้สึกของเธอเสียก่อน
ทุกช่วงเวลาที่เขาและเธออยู่ด้วยกันท่ามกลางเพื่อนที่ภูเก็ตมันทำให้เขารู้สึกดีและไม่เคยคิดเสียดายเลยที่มาทริปนี้ด้วยถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะยังเหมือนเดิม ไม่คืบหน้าไปไหน แต่อย่างน้อยเขายังได้เรียนรู้อะไรจากเธอมากขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นหลายเท่าตัว
กรุงเทพฯ
หลังกลับมาจากภูเก็ตทั้งคู่ยังคงแยกย้ายกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองเช่นเคย และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะได้เจอเธออีก เกือบจะเดือนหนึ่งแล้วที่ความสัมพันธ์ยังคงเหมือนเดิม มันทำให้คนอย่างธีรณัฏฐ์เริ่มอยู่เฉยๆ ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อหัวใจทั้งดวงมันยังคงร่ำร้องหาแต่เธอและใกล้ที่เขาจะแพ้เดิมพันกับสองสาวนั้นเข้ามาทุกที
โรงพยาบาลเอกชน WEO
เวลา 22.30 นาที
กริ่ง!! กริ่ง!! กริ่ง!!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางเวรดึกที่หอผู้ป่วยอายุรกรรม ทำให้ร่างเล็กที่ยังคงนั่งประจำหน้าเคาน์เตอร์พยาบาลสะดุ้งตื่น ก่อนจะรีบเอื้อมนิ้วเรียวรับสายด้วยความกระตือรือร้น
“สวัสดีค่ะ หอผู้ป่วยในอายุรกรรม แพรพิชชาพยาบาลรับสายค่ะ”
“สวัสดีค่ะ!! พี่โทรจากห้องฉุกเฉินจะขอส่งเวรเคสขอแอดมิทเคสหนึ่ง
"อ่อ ส่งได้เลยค่ะ!!"
"คนไข้เคสนี้ เป็นผู้ชาย อายุ 30 ปี ชื่อคุณธีรณัฏฐ์ เอกทสิทธิ์ มาด้วยเรื่องปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน บลาๆ”
พยาบาลสาวรุ่นพี่จากห้องฉุกเฉินพยายามส่งเวรเคสคนไข้ที่จะส่งขึ้นมาแอดมิทที่แผนกอย่างละเอียดให้กับพยาบาลรุ่นน้องที่กำลังตั้งใจฟังอย่างขมักเขม็น เมื่อมันคือหน้าที่สำคัญสำหรับเธอในตำแหน่งหัวหน้าเวรในค่ำคืนวันนี้
“เออพี่ลืมส่งเวร คนไข้เคสนี้เขาขอรีเควสพยาบาลที่ชื่อแพรพิชชาเป็นคนดูแลเท่านั้นนะ ใช่หนูไหม? ”
“อ่อใช่ค่ะ หนูชื่อแพรพิชชาค่ะ”
สิ้นสุดคำพูดของพยาบาลในห้องฉุกเฉิน พานทำให้แพรพิชชาถึงกลับชะงักนิ่งด้วยความสงสัยที่วิ่งเขามาเกาะกุมหัวใจทั้งดวงของเธอเอาไว้กะทันหัน
'ทำไมคนไข้ถึงขอเป็นพยาบาลชื่อแพรพิชชาเป็นคนดูแลเท่านั้น?'
ความสงสัยภายในจิตใจยังไม่ทันคลี่คลายลง หลังจากห้องฉุกเฉินวางสายไปพนักงานก็เข็นรถนอนคนไข้ขึ้นมาก่อนแล้ว ทำให้เธอต้องสะบัดความสงสัยที่เกิดขึ้นทิ้งไปรีบเตรียมข้าวของเอกสารต่างๆให้พร้อม เพื่อไปหาคนไข้ก่อนจะโดนร้องเรียนตามหลังมาถ้าหากช้าไปกว่านี้
5 นาทีผ่านไป
หลังจากพนักงานทุกคนส่งคนไข้ที่ห้องเรียบร้อยแล้ว ต่างพากันเดินออกมาจากห้องมายังเคาน์เตอร์พยาบาล ยิ่งทำให้พยาบาลสาวต้องเร่งรีบจัดเตรียมของต่างๆและอุปกรณ์ให้เร็วขึ้นมากกว่าเดิม เพื่อที่จะเข้าไปประเมินคนไข้แรกรับ เพราะมันสำคัญมากที่สุดเมื่อคนไข้มาถึงหอผู้ป่วย
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
"ขออนุญาตเข้าไปนะคะ”
แอ๊ดดดด!!
เสียงเคาะเปิดประตูดังสนั่นลั่นห้อง ก่อนที่ข้อมือเล็กจะเปิดประตูเข้ามาด้านใน ทำให้ชายหนุ่มต้องหันไปมองด้วยความใจจดใจจ่อ เมื่อภายในใจพยายามคาดหวังให้เป็นเธอดั่งที่เขาได้ร้องขอจากห้องฉุกเฉิน และเมื่อร่างนั่นปรากฏตัวขึ้นภายในห้องสุดท้ายแล้วก็ใช่เธอจริงๆ “แพรพิชชา”
"สวัสดีค่ะคุณธีรณัฏฐ"
ใบหน้าสวยที่ยังคงงุ่นง่านอยู่กับเอกสารที่อยู่ในมือ ยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นมามองว่าคนไข้ที่อยู่ภายในห้องนี้เป็นใคร ชายหนุ่มกลับต้องตะลึงเบิดตากว้างจ้องมองเรือนร่างของเธอตั้งเเต่หัวจรดเท้าตาไม่กะพริบ เมื่อคนน้องอยู่ในชุดพยาบาลสีขาวแขนยาวกระโปรงสั้นเหนือเข่าเล็กน้อย ผมที่ถูกเก็บรวมเอาไว้ภายใต้หมวกพยาบาลสีขาว ดูสวย สง่า เปล่งประกายออร่ามาก จนหัวใจทั้งดวงของเขาเต้นสั่นเครือไปด้วยความหลงใหล เพราะที่ไม่เคยเห็นเธออยู่ในชุดทำงานมาก่อนเลยตั้งเเต่รู้จักกัน
“ดิฉัน…….!!!”
น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยประโยคนั้นหยุดชะงักลงในทันที ดวงตากลมโตเปิดกว้างขึ้น พลางยืนจ้องมองเขาด้วยความตกใจสุดขีดเมื่อเจอชายหนุ่มอยู่ที่นี่ในเวลานี้
“นี่…เธอ!! มาทำอะไรที่นี่?”
ด้วยความตื่นตกใจจึงทำให้เธอลืมตัวว่าที่นี่คือโรงพยาบาล และเขาคือคนไข้ที่พึ่งเข้ามารับการดูแลรักษาในหอผู้ป่วยในค่ำคืนนี้
“แล้วทำไมเราจะมาที่นี่ไม่ได้ ที่นี่โรงพยาบาลใครๆ ก็มาได้แปลกตรงไหน?”
“เอ่อ…อ่อ…ขอโทษที!!”
พยาบาลสาวรีบดึงสติของตัวเองกลับมา แม้จะรู้สึกไม่สบายใจที่เขาอยู่ที่นี่ แต่เธอต้องเร่งปรับเปลี่ยนโหมดสีหน้าและท่าทางให้เป็นมืออาชีพมากที่สุด เมื่อเธอต้องทำหน้าที่ต่อไปตลอดทั้งคืนนี้
"เอ่อ…อันนี้เป็นชุดโรงพยาบาลของคุณธีรณัฏฐ์ จะอาบน้ำก่อนมั้ยคะจะได้คลุมที่สายน้ำเกลือให้”
“พูดกับเราปกติก็ได้ ไม่ต้องเรียกคุณหรอก มันดูห่างไกลกันเกินไป”
พยาบาลสาวมองหน้าเขาเพียงแค่แว็บเดียวก่อนจะรีบถือชุดของโรงพยาบาลมาวางไว้บนโต๊ะภายในห้อง
“แล้วอาการปวดหัว คลื่นไส้ยังมีอยู่มั้ยคะ?”
เธอยังคงไม่สนใจสายตาและคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ เร่งสอบถามอาการของเขาต่อไปราวกับว่าเขาเป็นเพียงคนไข้คนอื่นๆที่อยู่ในการดูแลของเธอ กระทั่งธีรณัฏฐ์เริ่มทนต่อความห่างเหินไม่ไหวรีบก้าวขายาวตรงเข้าไปหาเธอด้วยความเร็ว พานทำให้คนน้องสะดุ้งตัวตกใจรีบถอยห่างเขาในทันที
“นี่ทำไมต้องเขามาใกล้ขนาดนั้นด้วย!! ”
ด้วยความลืมตัว เธอรีบถอยหลังห่างออกมาอย่างกะทันหันพลางหันมาบ่นให้เขาด้วยท่าทางดุเรื่อง
“ทำไมครับ!! ก็อยากรู้ไม่ใช่หรอว่าเราหายปวดหัวหรือยัง อยู่ห่างกันขนาดนี้เธอจะรู้ได้ไง”
“ถ้ายังพูดได้ เดินได้แบบนี้คงไม่เป็นอะไรมากแล้วมั้งค่ะ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
พยาบาลสาวรีบก้าวขาถอยหลัง และกำลังจะเดินออกจากห้องไป
“เดี๋ยวสิ!! เธอรู้ได้ไงว่าเราหายปวดหัวแล้วอะ”
“ก็ดิฉันถามคุณธีรณัฏฐ์ไปแล้วว่ามีอาการปวดหัว คลื่นไส้อยู่มั้ย คุณก็ไม่เห็นตอบดิฉันเลย แต่คุณพูดได้เถียงได้ขนาดนี้ ทุกอย่างชัดเจนว่าอาการดีขึ้นแล้ว งั้นดิฉันก็คงต้องขอตัวไปทำหน้าที่อย่างอื่นต่อค่ะ”
“เฮ้ย!! เดี๋ยวก่อนดิ!!”
"อ๊ะ!!"
ฝ่ามือหนาเร่งดึงข้อมือเธอเอาไว้อย่างแรง จนร่างเล็กเสียหลักไถลเข้ามากระแทกกับหน้าอกของเขาอย่างรุนแรง
“อื้อ!! เธอทำอะไรเนี่ยเราเจ็บนะ”
"ขอโทษครับ!! เจ็บตรงไหนอะ?"
เธอสบถคำออกมาพลางเงยหน้าขึ้นมองเขาตาแข็งกร้านด้วยความหงุดหงิด แต่ทว่าชายหนุ่มที่กำลังก้มหน้าลงมาสำรวจอากาศเจ็บของเธอด้วยความตื่นตกใจและเป็นห่วงพยาบาลสาว ทำให้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างกายของกันและกัน ยิ่งทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาและเธอเต้นสั่นรุนแรงไปพร้อมๆกัน เมื่อไม่เคยอยู่ใกล้ๆกันขนาดนี้มาก่อน
“หอมจัง!!”
“ห๊ะ อะไรนะ? นี่ปล่อยเรานะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น!!”
ความหลงใหลและความรู้สึกที่เขามีให้เธอ ทำให้คนพี่หลุดพูดในสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมาเสียงเบา ในขณะที่เขาเองแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ทว่ามันกลับกระตุ้นทำให้แพรพิชชารีบดันตัวและมือปลาหมึกของเขาออกไปให้ไกลจากตัวเธอ
“ไม่ปล่อย!! ทำไม? หึ!!”
แม้จะอยากจะกอดเธอไว้ในอ้อมเเขนแบบนี้ไปนานๆ ไม่อยากปล่อยเธอหลุดไปไหนให้ไกลสายตาเลยสักครั้ง เพราะเธอกำลังทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ แต่ทว่าความคิดทุกๆอย่างกลับหยุดชะงักเมื่อร่างเล็กพยายามดิ้นให้ตัวเองหลุดออกจากนิ้วปลาหมึกของเขา
“ปล่อยเราเดี๋ยวนี่เลยนะ นี่มันโรงพยาบาลเธอจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!!”
เธอรีบสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนแกร่งและมือหนวดปลาหมึกของเขาจนได้ ด้วยท่าทางตื่นกลัว และหวาดระแวงกลัวว่าจะมีคนเข้ามาเห็น แล้วเอาไปเล่าต่อปากเพราะมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอในสถานที่ทำงานแบบนี้
“ขอตัวนะคะ!!"
“เปลี่ยนเสื้อให้เราก่อน”
ร่างเล็กที่หลุดออกห่างจากเขาได้สำเร็จ และกำลังจะเดินหนีไปกับต้องชะงักอีกครั้งเมื่อธีรณัฏฐ์เอ่ยขอความช่วยเหลือแทรกขึ้นด้านหลังของเธอ
“เธอก็เปลี่ยนเองสิ!!”
ท่าทางหงุดหงิดของเธอบ่งบอกได้ถึงความรำคาญและโมโหให้เขาที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอออกไปจากห้องนี้เสียที
“ถ้าเธอไม่เปลี่ยนระวังเรื่องอาจจะถึง ผอ. โรงพยาบาลได้นะครับ”
ใบหน้าสวยเริ่มโกรธกัดฟันแน่น กลอกกลิ้งดวงตามองบน พลางถอนหายใจแรงออกมานับครั้งไม่ได้ เมื่อเธอจำใจต้องยอมทำตามสิ่งที่เขาขอร้องให้ทำ ถ้าเป็นคนไข้คนอื่นๆเธอคงยินยอมทำให้ด้วยความเต็มใจ แต่ทว่าเมื่อเป็นเขามันทำให้เธอรู้สึกและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาในทันทีกับความปั่นประสาทที่เขากำลังสาดส่งมาที่เธอ
“ถอดเสื้อให้เราด้วยนะ”
“ไม่!!…ก็เธอบอกเราแค่เปลี่ยนเสื้อ ไม่ได้บอกถอดเสื้อด้วยสักหน่อย”
พยาบาลสาวยังคงต่อต้านเขาที่ขอให้เธอทำอย่างอื่นให้นอกเสียจากคำขอร้องในตอนแรก
“ก็ตอนนี้เราจะให้เธอถอดเสื้อให้ไง ฝึกไว้เดี๋ยวก็ได้ถอดบ่อยๆ แล้ว”
“อย่ามาตลกได้ปะ!!”
“อะๆ ไม่กวนก็ได้ แต่เราพูดจริงๆ นะ”
แม้จะรู้ว่าคำพูดของเขาจะทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด แต่พยาบาลสาวกลับไม่รีรอให้เขาพูดไปเรื่อย รีบจับเสื้อเขาถอดออกจากร่างอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอยืนนิ่งไปสักพัก ทำให้เขาถึงกับสงสัยรีบก้มลงมองหน้าเธอที่ตอนนี้ดวงตาคู่กลมนั้นกำลังจ้องมองหน้าอกขาวจั๊วะและหน้าท้องแผงขนมปังของเขาอยู่ ก่อนจะรีบเบือนใบหน้าที่แดงก่ำนั้นไปทางอื่นแทนเมื่อเธอเริ่มรู้ตัวว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่
“เธอหลบหน้าเราทำไม หรือว่ากำลังเขินเราอยู่”
“หุบปากแล้วอยู่เงียบๆ จะได้ไหม?”
เธอตะคอกเสียงดังใส่เขาเพื่อแก้อาการขัดเขิน เพราะตอนนี้ใบหน้าเธอแดงก่ำจนทำให้เขาอดใจไม่ไหวขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ เธอมากขึ้นเป็นเท่าตัว
จุ๊บ!!
ชายหนุ่มค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เธอ เร่งก้มลงกดจูบบางเบาที่มุมปากในขณะที่พยาบาลสาวกำลังงุ่นง่านกับการผูกเสื้อของชุดโรงพยาบาลให้เขา
“ธะ เธอ ทะ ทำอะไรของเธอเนี่ย!!”
ด้วยความตื่นตกใจเธอรีบผลักตัวเขาออกทันที ดวงตากลมโตทั้งสองข้างเปิดกว้างยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะเปล่งเสียที่ตัดๆขัดๆนั้นออกมาจากเรียวปาก
"เธอ!!"
พยาบาลสาวรีบหันหลัง แล้ววิ่งออกจากห้องทันทีที่สิ้นสุดประโยคนั้น ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนอมยิ้มฟังเสียงหัวใจของตนเองที่เต้นแรงราวกับจะกระเด็นออกมานอกร่างกายเสียให้ได้ในเวลานี้ เมื่อเขาเผลอตัวทำตามใจที่ตนเองปรารถนามานานตั้งแต่เจอกันครั้งแรกในวันนั้นแล้ว
