ภูเก็ต
ในโรงหนัง
“เชิญครับคุณแพรพิชาา”
ไฟจากมือถือส่องสว่างขึ้น เพื่อให้เธอสามารถมองเห็นที่นั่งสำหรับทั้งคู่ได้ชัดเจนขึ้น แต่ทว่าหญิงสาวกลับชะงักเมื่อมองเห็นแค่โซฟาตัวใหญ่ที่อยู่ด้านบนสุดของโรงหนัง
“ทำไมได้ที่นั่งแบบนี้อะ ขอเปลี่ยนได้มั้ย?”
“ไม่ได้!! เราซื้อไปแล้วนั่งตรงนี้แหละ"
ฝ่ามือแกร่งรีบดันแผ่นหลังของเธอให้ขยับเท้าเดินเข้าไปนั่งลงอีกฝั่งของโซฟาอย่างอยากลำบากเมื่อเธอยังคงมีข้อสงสัยอยู่ในใจเกี่ยวกับการเลือกที่นั่งของเขา
“เธอคิดจะ แกล้งเราใช่ปะ”
“เปล่าครับ”
ชายหนุ่มนั่งลงที่โซฟาอีกฝั่งใกล้ ร่างของเธอไม่ไกลนัก แม้เธอจะพยายามขยับตัวออกห่างจากเขาไป แต่ธีรณัฏฐ์กลับขยับตัวเข้าไปใกล้เธอมากขึ้นเท่ากัน กระทั่งคนน้องต้องรับหันกลับมามองหน้าเขาที่เอาแต่อมยิ้มหันหน้ามองจอภาพยนตร์ด้วยท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย
15 นาทีผ่านไป
“ทำอะไรอะ ทำไมต้องขยับเข้ามาใกล้ขนาดนี้ด้วย”
เมื่อถึงเวลากำหนดหนังฉาย ความมืดกับแอร์เย็นๆ ทำให้บรรยากาศในห้องเย็นเยือกขึ้นกระทั่งคนน้องต้องรีบยกแขนขึ้นมาลูบต้นแขนของตัวเอง ธีรณัฏฐ์จึงรีบขยับตัวเข้าไปใกล้เธอมากกว่าขึ้นจนร่างกายสัมผัสเสียดสีกัน ก่อนจะยื่นมือห่มผ้าที่เขานั่งทับมันเอาไว้แต่แรกให้เธอ
"ก็เห็นเธอหนาวก็เลยห่มผ้าให้ จะได้อบอุ่นไง”
"แล้วเอาผ้าห่มมาจากไป?"
"ข้างๆเราไง!!"
ใบหน้าสวยจ้องมองเขาด้วยความหงุดหงิดและหมั่นไส้ที่เขาแอบซ่อนผ้าห่มเอาไว้ไม่ยอมให้เธอตั้งแต่แรก เพียงแค่ต้องการหาช่องทางเข้าใกล้เธอแบบนี้
"จะเบียดทำไมเนี่ย!!"
"มันหนาวอะ"
พูดจบร่างใหญ่ยิ่งเบียดเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น จนกระทั่งจมูกโด่งเข้ามาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆไรผมของเธออยู่ไม่ไกล
"ถอดออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"
"หึ!!"
เสียงเค้นขำเบาบางในลำคอเมื่อเธอรู้ทันว่าเขากำลังคลอเคลียใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ชายหนุ่มจึงคอยๆขยันใบหน้าถอยห่างออกมาเพื่อคืนช่องว่างให้กับเธอ จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง เธอนั่งเงียบดูหนังต่อไปมีเพียงแต่เขาคนเดียวที่ไม่เป็นอันดูหนังรู้เรื่องเลยสักนิด เมื่อสายตามัวแต่จ้องมองเธออยู่แทบตลอดเวลา และมันก็ยังเป็นแบบนั้นทั้งเรื่องจนกระทั่งหนังจบลง
นอกโรงหนัง
“เออ เรื่องเสื้อเธอถอดมาให้เราเดี๋ยวเราเอาไปซักให้”
“โอเคได้ครับ”
ธีรณัฏฐ์พยายามถอดเสื้อคลุมออก และยื่นให้เธอตามคำขอร้องและความต้องการ เพื่อสานต่อความสัมพันธ์กับเธออีกครั้งอย่างน้อยก็ยังมีช่องทางยังดีกว่าไม่หายจากกันไปเลยด้วยซ้ำ
“แล้วเราจะได้เสื้อคืนวันไหน เธอเอาเบอร์กับไลน์มาดีกว่าเราจะได้ตามถูก”
ความเจ้าเล่ห์พยายามหลอกขอเบอร์สาว แต่ทว่าทำเนียนเอาเรื่องเสื้อมาอ้าง แต่คนน้องกับรู้ทันรีบเบรกเขาจนแทบหัวทิ่ม
“ไม่จำเป็น เอาแค่เบอร์เธอมาเดี๋ยวคืนวันไหนเราจะโทรบอกเอง”
"ไม่เอาสิ นั้นมันเสื้อเรานะ เอาเบอร์กับไลน์เธอมาดีกว่า"
"ไม่!!"
ไม่ว่าเขาจะพยายามต่อรองกับเธอยังไง หญิงสาวกลับไม่ยอมเขาอยู่ดีเช่นเคย
"ผู้หญิงอะไรวะดื้อฉิบหาย!!"
"ได้ยินนะ!!"
ดวงตากลมรีบหันกลับมามองเขาด้วยท่าทางไม่พอใจที่เขาตั้งใจจะพูดแบบนั้นให้เธอได้ยิน
“อุ้ย!!...งั้นให้เราไปส่งที่คอนโดนะ”
“ไม่ต้อง เรากลับเองได้”
ท่าทางและการปฏิเสธของเธอทำให้ธีรณัฏฐ์ถึงกลับหนักใจ เพราะเธอทำท่าทางราวกับคิดว่าเขาจ้องเคลมเธอเอาเสียอย่างงั้น
“ก็เราอยากไปส่งอะ”
ใบหน้าหล่อแสดงความออดอ้อนเธอสุดๆเพื่อหวังให้คนน้องเห็นใจ ยอมให้เขาไปส่งเธอ แม้ไม่ได้ขึ้นห้องก็ยังดีกว่าปล่อยให้เธอกลับเองคนเดียว
“ไม่ก็คือไม่ เข้าใจที่เราพูดมั้ย?”
“โอเคๆ ไม่ก็ไม่ครับ”
สีหน้าจริงจังปนดุของแพรพิชชา ทำให้เขาไม่กล้าต่อรองกับเธออีกเลย เพราะกลัวเธอจะรำคาญและเกลียดขี้หน้ากันไปมากกว่าเดิม ได้แต่ยืนมองเธอสาวหอบเสื้อคลุมของเขาเดินจากไปด้วยความผิดหวัง
1 สัปดาห์ต่อมา
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาแม้ว่าเขาพยายามหาช่องทางเพื่อเจอเธอ คอยมานั่งรอที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งแอบเดินวนไปวนมาอยู่หน้าหอผู้ป่วยอายุรกรรม แต่ทว่ากลับไม่มีโอกาสได้เจอเธอแม้สักครั้ง เพราะเขาเองก็ไม่รู้ และไม่กล้าถามพนักงานในแผนกถึงช่วงเวลาการทำงานของเธอในโรงพยาบาลเลยสักนิด
คอนโดธีรณัฏฐ์
เวลา 10 .00 นาที
ครืดดดดดด!!
เสียงสั่นสะเทือนของโทรศัพท์มือถือปลุกชายหนุ่มลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าจอมือถือ เมื่อมีเบอร์โทรแปลกที่เขาไม่คุ้นเคยโทรเข้ามาทำให้ชายหนุ่มเริ่มแปลกใจไม่น้อย
“ฮัลโหลครับ”
“เราซักเสื้อให้แล้วนะ เดี๋ยวฝากพี่เต้เอาไปคืน”
“เฮ้ย!! เดี๋ยวก่อน เอามาคืนเองดิ”
ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด
ยังไม่ทันที่ธีรณัฏฐ์จะได้พูดจบประโยชน์ เธอรีบวางสายใส่เขาไปทันที ราวกับว่าแค่ต้องการแจ้งให้ทราบไม่ได้ต้องการจะคุยด้วยอะไรแบบนั้น ซึ่งเขาเองก็รู้ดี แต่ทว่าน้ำเสียงของเธอมันกลับทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง เขารีบกดเบอร์โทรกลับเพื่ออยากจะคุยกับเธอ แต่กลับติดต่อไม่ได้เมื่อเธอเอาโทรศัพท์ของโรงพยาบาลโทรมาบอกเขาแทน พานทำให้เขากระวนกระวายใจมากขึ้นกว่าเดิม อีกเป็นเท่าตัว
5 วันผ่านไป
ภูเก็ต
3 หนุ่ม 3 สไตล์ลงจากเครื่องที่สนามบินภูเก็ตด้วยความตื่นเต้น หนึ่งในมีใครบางคนที่ดูตื่นเต้นและดีใจกับทริปนี้มากที่สุด เมื่อจะได้เจอเธอคนที่ทำให้เขาไม่เป็นอันกินอันนอนมาตลอดเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
“มาแล้ว หนุ่มๆ”
3 หนุ่ม : “สวัสดีครับสาวๆ ”
ทุกคนทักทายกันอย่างคุ้นเคย ก่อนที่ดวงตากลมจะรีบถอดแว่นตากันแดดสีดำออกเพื่อจ้องมองใครบางคนตาเขม็งด้วยความตกใจ
“อีจี้ทำไมไม่เห็นบอกกูว่ามีคนนอก”
เธอถามเพื่อนสาวสองออกไปเสียงเบาด้วยความสงสัยพร้อมกับสีหน้าค่อนข้างเป็นกังวล เมื่อเพื่อสาวทั้งหลายไม่ยอมบอกเธอว่าเขาเข้ามาแจมในทริปนี้ด้วย
“นอกที่ไหนมึง พี่ๆเขามึงก็รู้จัก”
“สวัสดีครับคุณแพรพิชชา”
“อุ้ยๆ ทักแต่คนเดียวเลยนะพี่ณัฐ”
เพื่อนๆรีบเอ่ยทักท้วงขึ้นในทันทีที่เห็นคนพี่เจาะจงไปหาแค่คนเดียวที่เขาต้องการ
"อย่าแซวเยอะสิ มีบางคนกำลังไม่พอใจพี่อยู่นะครับ"
เขาพูดขึ้นกลางวงสนทนาที่เพื่อนๆต่างคุยกันอย่างสนุกสนานแต่ต่างกับคนน้องที่เอาแต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น เมื่อกำลังไม่พอใจเขาที่เอาแต่จ้องมองมาที่เธอ
10 นาทีผ่านไป
เหล่าบรรดาเพื่อนสาว และหนุ่มๆอีก 2 คน ต่างพาลงเล่นน้ำทะเลและถ่ายรูปเซลฟีกันอย่างสนุกสนาน เหลือแค่หญิงสาวคนเดียวที่ยังคงนั่งอยู่ริมหาดเพื่อสูดกลิ่นอายของบรรยากาศริมทะเลให้เต็มปอด ผิวที่ขาวเนียนสวยยังคงคลอเคลียกับหาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใสดูสะอาดตา ทำให้จิตใจของใครบางคนที่ยังคงยืนมองเธออยู่ไกลๆรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่ไปเล่นน้ำกับเพื่อนหรอครับ?”
“ไม่อะ!!"
"ทำไมหรอ”
"เราไม่ชอบน้ำทะเล"
เธอตอบกลับเขามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้แต่ห่างตายังไม่หันกลับมามองหน้าเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
“ทำไมอะ?”
“ยุ่งอะไรด้วยเนี่ย?”
“เอ้า!! ก็อยากรู้ไง ทำไมไม่ชอบ บอกได้ปะ”
เมื่อได้กลิ่นหอมจากร่างกายเธอโชยมาเตะจมูก จนแทบจะทำให้เขาอดใจไม่ไหวรีบขยับตัวเข้าหาเธอมากขึ้นจนเธอรู้สึกได้
“เราก็แค่ไม่ชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ”
“มันต้องมีเหตุผลสิ ว่าทำไมถึงไม่ชอบ?”
ดวงตาคู่คมยังคงจ้องจะเอาคำตอบให้ได้ แต่ทว่าในใจกลับแอบกังวลว่าเธอกำลังบอกไม่ชอบเขาเป็นนัยๆหรือเปล่า เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเธอดูไม่พอใจเขาเอาเสียเหลือเกินในตอนนี้
"บอกหน่อยสิ!!"
“เข้าใจอะไรยากขนาดนั้นอะ”
เธอตวาดเสียงใส่เขาด้วยความท่าทางหงุดหงิด แต่มันกลับทำให้ธีรณัฏฐ์รู้สึกไม่พอใจเอาเสียมากๆ จนพานเริ่มโมโหเธอด้วยเช่นกัน
"ไม่ชอบหรอ!! ได้!! เดี๋ยวจะทำให้ชอบให้ดู"
“กรี๊ดดดดด ปล่อยเรานะ"
เขาจับข้อมือเอาไว้แน่น ก่อนจะออกแรงลากเธอลงสู่ทะเลอย่างรวดเร็ว เขายอมรับเมื่อเห็นใบหน้าเธอเขาแอบตกใจ แต่ทว่าความหมั่นไส้ ความโมโหมันทำให้เขาปล่อยมือออกจากเธอบริเวณน้ำลึกจนเกือบถึงต้นคอของหญิงสาว พลางยืนมองดูท่าทางการทรงตัวของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโมโห
“นี่เธอทำบ้าอะไรเนี่ย?”
“เอ้า!! ก็ไม่ชอบไม่ใช่หรอ อยากให้สัมผัสมันดูสิ่งที่เธอบอกว่าไม่ชอบ มันไม่มีหรอกนะที่จะไม่ชอบเฉยๆอะมันต้องมาเหตุผลสิ!!”
“เธอ!! เรา...เราว่ายน้ำไม่เป็น”
แรงของคลื่นพัดพาร่างเธอลงไปลึกกว่าเดิมทำให้ไม่สามารถพยุงตัวยืนได้ ด้วยความตกใจเขารีบตรงเข้าไปช้อนตัวเธออุ้มขึ้นจากการตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำ
“อื้อ!! เธอทำบ้าอะไรเนี่ย!!"
เธอตะคอกเสียงดังใส่เขาด้วยความโมโห คลุกเคล้ากับใบหน้าที่แดงก่ำไปด้วยความโกรธในขณะเดียวกัน
“ยังจะดื้ออีกมั้ย?”
“ปล่อยเราลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”
เธอพยายามดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขา เพื่อให้ชายยอมปล่อยเธอลงง่ายๆ
“โอเคๆ ก็ได้!!”
เขาค่อยๆปล่อยเธอลงสู่พื้นอย่างนุ่มนวล ก่อนที่ดวงตากลมจะหันมามองดุใส่เขาอีกครั้ง
“ทุกอย่างมันมีเหตุผลเสมอ มันขึ้นอยู่กับเธอคนเดียว คนเดียวเท่านั้นที่จะบอกมันได้”
เขาตะคอกเสียงดังสวนกับเธอไปเช่นกัน ถึงเธอจะดูโมโหเขามากที่ทำแบบนี้ แต่ทว่าสุดท้ายมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าที่เธอไม่ชอบเพราะอะไร มันเป็นเพราะตัวเธอเองนั้นต่างหากที่มีเหตุผลบางอย่างซ่อนอยู่
“มองอะไร หันหลังเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ในขณะที่เขากำลังหงุดหงิดใจ ตาเจ้ากรรมดันมองเห็นบางสิ่งที่ทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม เมื่อชุดเธอของเธอมันถูกน้ำทะเลและบางจนมองเห็นผิวเนื้อขาวจั๊วะที่แอบซ่อนข้างใน ในรูปร่างส่วนโค้งส่วนเว้าได้อย่างชัดเจน จนเขาเผลอมองเธอตาไม่กะพริบ
“อะ โอเคๆ ขอโทษที”
น้ำเสียงที่อ่อนนุ่มกระตุ้นเข้าสู่ปลายประสาทของเขา ทำให้ธีรณัฏฐ์ตื่นจากภวังค์ด้วยความตื่นเต้น พูดจาติดๆ ขัดๆ เมื่อหัวใจทั้งดวงเต้นสั่นเร็วเพราะมัวแต่มองเรือนร่างของเธอ ก่อนที่เขาจะรีบหันหลัง แล้วอมยิ้มให้กับสิ่งที่เห็น แต่ทว่าเมื่อหันกลับมาก็เห็นแผ่นหลังของเธอเดินกลับเข้ายังตัวโรงแรมเสียก่อนแล้ว
