1.2 แบบนี้แหละที่ผมชอบ
“ชอบไหมคะ?” ใบหน้าแดงก่ำเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยั่วยวน ปกติเคยถามอะไรเขาเสียที่ไหน แบบนี้มันชัดเจนแล้วว่าไม่ปกติ ไม่มีทีท่าที่ทิวากรจะเอ่ยตอบ เขาเพียงกดหัวทุยของเธอให้ซุกหน้าเข้าหาลำกายอีกครั้ง แหงนใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสูง หลับตาพริ้มปล่อยให้เธอใช้ปากสร้างความสุข ลิ้นเล็กที่เล็มเลียมันทำเขาเสียว ปากเล็กที่อมเขาแทบไม่หมดลำมันทำให้เขากระสัน คอลึก ๆ ของเธอ…เขาพอใจกับมัน แต่จะให้พูดว่าชอบหรือไม่นั้น บอกเลยว่ายาก ทิวากรคนนี้ไม่เคยเอ่ยชมใครง่าย ๆ
“วันนี้มาแปลกนะ” แต่เขาสงสัย นึกสงสัยขึ้นมาว่าทำไมคืนนี้วราลีมีรอยยิ้มแปลก ๆ ยิ้มแค่ที่ปาก แต่ดวงตานั้นเหนื่อยล้า เหมือนคนผ่านชีวิตมาอย่างสาหัสสากรรจ์ เขามองออกแต่ไม่เคยถาม ไม่เคยแสดงตัวว่าอยากรู้เรื่องของเธอ นั่นก็เพราะเขาไม่เคยอยากรู้ ไม่ได้อยากรู้จักเธอมากไปกว่านี้ การรักษาระยะห่างเป็นเรื่องที่เขาให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
“แปลกยังไงเหรอคะ?” ถามกลับขณะที่สาวรูดความแข็งขันใหญ่ยาวช้า ๆ ก่อนจะก้มลงดูดพวงกลมใต้ลำ แค่นั้นก็ทำให้ใครบางคนถึงกับสะดุ้ง
“อึก!” เขานิ่วหน้าเล็กน้อย เลียริมฝีปากแล้วแอบพ่นลมหายใจไร้เสียงออกมา คล้ายกับว่าเขากำลังคราง แต่กลัวว่าเธอจะได้ยิน “ปกติคุณไม่เคยชวนผมคุย”
“ถ้าคุณทิวาไม่ชอบ ลีจะไม่…”
“เปล่า ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบ” แค่คิดว่าหนึ่งปีที่ซื้อขายกันมาวราลีไม่เคยถามเลยสักครั้งว่าเขาชอบที่เธอทำให้หรือไม่ แล้วอยู่ ๆ ทำไมถึงมาถามเอาตอนนี้ก็เท่านั้น
“แล้วชอบไหมล่ะคะ?” จงใจทำเสียงยั่วยวน ไม่เพียงเท่านั้นยังส่งสายตายั่วเขาอีก วันนี้เธอมาแปลกจริง ๆ ที่ผ่านมาไม่เคยคิดอยากจะยั่วเขาเลย ไม่ใช่อะไร…เธอยั่วใครไม่เป็นหรอก ไอ้ที่ทำอยู่นี้ไปแอบได้ยินเพื่อนร่วมงานคุยกันมาก็เท่านั้น
“แต่ไม่คิดจะตอบ แค่จะบอกว่าต่อให้คุณถามสักร้อยครั้งว่าผมชอบไหม…”
“ก็ไม่ต้องตอบค่ะ ไม่ต้องตอบว่าชอบ แต่ถ้ามีอะไรที่ลีทำแล้วคุณทิวาไม่ชอบ ขอให้บอกนะคะ”
“ผมไม่ชอบให้คุณเรียกแบบนั้น ทิวา…” นั่นมันชื่อที่มีไว้ให้คนสนิทหรือคนใกล้ชิดเรียกเท่านั้น กับเธอ…ต่อให้จะแนบเนื้อ สอดใส่ ชิดใกล้กันแค่ไหนก็ยังถือว่าเป็นคนห่างไกลสำหรับเขาอยู่ดี
“ลีขอโทษค่ะ ต่อไปจะไม่เรียกแบบนั้นอีก” ถือตัวเสียเหลือเกิน ชื่อเขามันมีอะไรดีอย่างนั้นหรือ? ลองคิดสิว่าถ้าคืนนี้เธอไม่อยากได้สองหมื่นกลับบ้าน จะมาพยายามเอาใจเขาทำไม “นอนลงนะคะ ลีจะทำให้”
“วันนี้คุณไปที่ห้างโมเมนตัมหรือเปล่า?” ทิวากรเคลื่อนตัวไปนอนลงบนเตียงพร้อมกับคำถาม ที่ถามก็เพราะเขาเคยบอกเอาไว้แล้วว่าห้ามเธอไปแสดงตัวต่อหน้าเขาในที่สาธารณะ ห้ามทำเหมือนว่ารู้จักเขาหากบังเอิญได้เจอกันข้างนอก ย้ำเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเขาและเธอเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน
“คะ?” ถามมาได้ ต้องไปสิ ก็เธอทำงานอยู่ที่นั่น เธอเป็นพนักงานดูแลลูกค้าวีไอพีในเลาจน์ของห้างที่เขาเป็นเจ้าของ
“ช่างเถอะ ทำต่อสิ” ถามเหมือนอยากรู้แต่ก็ไม่รอฟังคำตอบ แบบนี้หากรู้ความจริงทีหลังจะมาหาว่าเธอโกหกไม่ได้นะ วราลีสลัดความคิดตัวเองทิ้ง ปลดสายชุดคลุมแล้วถอดออกไปวางไว้บนโต๊ะปลายเตียง โชว์เรือนร่างผอมบางซ่อนรูปความอวบอิ่ม มองภายนอกเหมือนไม่มีอะไร แต่ภายในนั้นถือว่าไม่น้อยหน้าใคร คลานเข่าเข้าใกล้ชายหนุ่มที่นอนรออยู่ ลากลิ้นเลียจากหน้าขาขึ้นมาถึงกลางกายเขา กอบกุมความเป็นชายมาเข้าปากแล้วรูดดูดแบบเน้นหนัก ดูดแรงขึ้น เร็วขึ้นจนทิวากรเริ่มเกร็ง เห็นแบบนั้นเธอก็ยิ่งอยากจะแกล้งเขา ไหนลองดูสิว่าถ้าทำให้เสียวจนทนไม่ไหว จะยอมหลุดเสียงครางออกมาให้ได้ยินเป็นบุญหูสักครั้งไหม
เห็นอยู่เต็มสองตาว่าเธอทำให้เขาเสียวซ่านจนตัวเกร็ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมครางออกมาให้ได้ยิน ตัวตนของเขามันปริ่มน้ำฉ่ำวาวออกมาจนเยิ้ม มันกระดกดุ๊กดิ๊กในตอนที่เธอลากเลียแล้วดูดรัว ๆ ประสบการณ์ที่มีร่วมกับเขาทำให้วราลีรู้ว่าเดี๋ยวทิวากรจะต้องบอกให้เธอหยุดทำ หยุดก่อนที่จะเขาจะหลั่งออกมา เขาสั่งให้เธอสวมถุงยางให้ จากนั้นก็ให้เธอขย่มจนเขาแตกซ่านกระเซ็น แต่ครั้งนี้เธอจะไม่ปล่อยให้เขาได้ออกคำสั่ง ก็เพราะไอ้ถุงยางนั่นแหละที่ทำให้เขาไม่ได้สัมผัสเธอแบบเนื้อแนบเนื้อ ได้โอกาสตอนที่เขากำลังเผลอพริ้มหลับตา เธอเคลื่อนกายขึ้นไปควบคร่อม…ยังไม่ทันได้สอดใส่ เธอเพียงร่อนเขาแบบเนื้อถึงเนื้อเท่านั้น
“อึก!” แบบนี้ยังไม่นับว่าเป็นการครวญคราง ทิวากรเพียงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกวราลีขึ้นร่อนความสาวกับแก่นกายของเขา เธอโยกเอวรูดร่อน ถูไถร่องสวาทฉ่ำ ๆ กับความเป็นเขา จ้องตาเขาไม่วาง มือก็ยังคงวนคลึงกับส่วนหัวที่โผล่ขึ้นมาแบบไม่ปล่อยให้ว่างเว้น
“อื้อ!” เป็นเธอที่ครางออกมาก่อน ก็เพราะมันเสียวจนไม่อาจทนทานได้ เธอนิ่วหน้าเร้า ยิ่งร่อนกายเคลื่อนไหวมากเท่าไรก็ยิ่งเสียวมากเท่านั้น “เสียวจัง…คุณทิวา อ๊ะ! ทิวากร…เสียวไหมคะ?”
“เร็วกว่านี้” ไม่ตอบแต่ออกคำสั่งให้หญิงสาวรัวร่อนเขาให้เร็วกว่าที่เป็น ขบกรามแน่นกักเก็บความกระสัน คว้าสองเต้ามาบีบเคล้นจนเนื้อแน่นปลิ้นออกมาจนล้นง่ามนิ้ว เห็นแบบนั้นก็ยิ่งบีบให้แรงขึ้นอีก
“อ๊ะ! คุณ…ลีเจ็บค่ะ!” ทั้งเจ็บทั้งเสียว อ้าปากร้องครางดังหนักกว่าเดิม
“ผมจ่ายเงินให้คุณมาบำเรอ…จะมาเสียวมากกว่าผมได้ยังไง? ร่อนให้แรงกว่านี้อีก”
“อ๊าห์! แรงกว่านี้ไม่ได้แล้ว…อ๊ะ! แบบนี้…อึก! อ๊ะ!” สุดท้ายกลายเป็นว่าคนที่เสียวถึงใจจนสำเร็จความใคร่คือวราลี กระตุกจนตัวสั่น หยุดนิ่งหอบหายใจ ไหงกลายเป็นแบบนี้ อุตส่าห์อยากได้ยินเสียงครางจากเขา สุดท้ายกลายเป็นเธอที่ครางอยู่คนเดียว
“แบบนี้คุณต้องจ่ายเงินให้ผมแล้วมั้งวราลี”
“ลีมีเงินที่ไหนกันล่ะคะ”
“ถ้าอยากได้เงิน…คุณต้องร่านกว่านี้ แค่นี้ยังไม่พอ” ว่าแล้วก็กระชากคนตัวเล็กให้มานอนหงายลงบนเตียง เปลี่ยนเป็นเขาที่ขึ้นมาอยู่ด้านบน โน้มตัวไปหยิบซองสีเงินที่หัวเตียงมาฉีก นำเอาถุงยางอนามัยมาสวมก่อนจะยัดความเป็นตัวตนเข้าร่องสวาทแดงก่ำชุ่มฉ่ำด้วยน้ำหวานอย่างเต็มแรง
“อ๊ะ!” คนถูกกระทำนิ่วหน้าร้องคราง คงหมดหวังแล้วกับเงินสองหมื่นที่อยากได้ พอเขาคว้าเอาสะโพกเธอยกขึ้น เท่านั้นก็กระหน่ำใส่ไม่ยั้ง “อ๊ะ! คุณทิวากร! อ๊ะ! ลีเจ็บ! อึก! มันแรงเกินไป!”
“จะให้เพิ่มอีกสองพันค่าเจ็บ”
“อ๊าห์! แรงอีกค่ะ…อ๊ะ! ทำแรง ๆ กว่านี้ได้โปรด…” ขออีก…ยังขาดอีกหมื่นสาม ใส่เข้ามาเลย…จะกระหน่ำกระแทกกระทั้นจนร่างเธอแหลกเลยก็ได้ แต่คืนนี้เธอขอสองหมื่นได้ไหม?
“หึ! อยากได้เพิ่มเหรอวราลี?”
“ฮึก! อ๊าห์! คุณทิวากร…ลีขออีกค่ะ อ๊าห์! ขอรุนแรงกว่านี้!”
“ได้ งั้นผมจะจ่ายให้เพิ่มอีกห้าพัน รวมเป็นหมื่นสอง แต่ว่า…” ทิวากรโน้มตัวเข้ามาใกล้ใบหน้าวราลี ใกล้มากจนต่างฝ่ายก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ “ผมขอกัดนะ”
“อ๊ะ! ฮึก! จะ…เจ็บ!” ไม่อยากจะเชื่อ ดวงตากลมเบิกโตด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ ๆ ทิวากรก็จับเข้ามาที่ลำคอ เขากัดเธออย่างที่พูดจริง ๆ เบื้องล่างกระหน่ำใส่เธอไม่ยั้ง เบื้องบนเขากำลังงับผิวกายของเธอ มันเจ็บ…เจ็บตรงที่เขางับ กัดที่คอสองสามครั้ง ก่อนไล่ลงไปกดที่หน้าอก เขาคว้าสองเต้าที่กวัดไกวตามแรงกระแทกเข้าปาก ออกแรงกัดจนเกิดเป็นรอยฟันแดงเถือกไปหมด
“อาห์! ดีนี่…แบบนี้แหละที่ผมชอบ” แล้วเขาก็ครางออกมา ไม่เพียงเท่านั้นยังเอ่ยคำว่าชอบพร้อมรอยยิ้ม นี่น่ะหรือรสนิยมของเขา…หนึ่งปีผ่านไปวราลีเพิ่งได้ค้นพบตัวตนที่ซ่อนอยู่ ไอ้คนซาดิสม์!
