บทที่ 3 ต้นเหตุของเรื่อง
หลังจากสามสาวรับประทานอาหารเที่ยงกันเสร็จ ระหว่างกำลังจะแยกย้ายกลับบ้านทันใดนั้นรถตู้คันหรูแล่นมาจอดตรงหน้า ทำให้คนทั้งสามถึงขั้นหันมองหน้าพร้อมกันด้วยความฉงน ก่อนเผยให้เห็นชายร่างกำยำในชุดสูทสีดำ
“ใครคือคุณยี่หวาครับ”
“ฉันเองค่ะ” หวานยี่หวายกมือขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เนื่องจากไม่เคยเห็นคนตรงหน้ามาก่อน
“เชิญคุณยี่หวาขึ้นรถด้วยครับ” ผายมือเชื้อเชิญหญิงสาวไปยังรถที่จอดอยู่
“จะพายี่หวาไปไหน” อันดาวิ่งมาขวางหน้าเพื่อนรักไม่ให้เดินตามหลังชายชุดสีดำ แขนขาวเนียนทั้งสองข้างกางออกเพื่อปกป้องหวานยี่หวาก่อนจ้องเขม็งคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“อันดา” หวานยี่หวาเอ่ยเสียงแผ่วเบา ปกติเพื่อนคนนี้ของเธอไม่สู้คนแต่ครั้งนี้ช่างต่างออกไปจากเดิม
“รบกวนช่วยหลีกทางให้คุณยี่หวาด้วยครับ”
“อันดาอย่าทำแบบนี้ ยี่หวาไม่เป็นไรคนพวกนี้น่าจะเป็นคนของพี่อิน” กระซิบข้างใบหูขาวสะอาดของเพื่อนรัก
“อย่าไปกับใครสุ่มสี่สุ่มห้าสิยี่หวามันอันตรายรู้ไหม”
“นั่นสิยี่หวาเราจะรู้ได้ไงคนพวกนี้เป็นคนของพี่อิน” ลูกหว้าเสริมขึ้น
“พวกคุณไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมแค่มารับคุณยี่หวาตามคำสั่งของคุณอิน” คมกริชลูกน้องคนสนิทของอินทัชแจ้งจุดประสงค์ของตนเองตามคำสั่งของเจ้านาย
“เห็นไหม ยี่หวาบอกแล้ว” หวานยี่หวามองหน้าเพื่อนรักทั้งสองสลับไปมา
“เชิญครับคุณยี่หวา”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ” อันดายังคงไม่ยอมปล่อยเพื่อนรักไปกับคมกริชง่าย ๆ
“ครับ” คมกริบช้อนตามองสาวหมวยตรงหน้า รูปร่างผอมเพรียว สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ก่อนเหลือบมองริมฝีปากอวบอิ่มที่น่าหลงใหลยิ่งนัก
“คุณจะพายี่หวาไปไหนไม่ได้จนกว่าฉันจะมั่นใจว่าคุณคือคนของพี่อิน ขอนามบัตรด้วยค่ะ” อันดายื่นมือขอนามบัตรจนอีกฝ่ายทำอะไรไม่ได้ ยอมทำตามความปรารถนาของหญิงสาวเนื่องจากไม่อยากให้เสียเวลามากกว่านี้ เกรงว่าเจ้านายจะคอยนาน
“ผมพาคุณยี่หวาไปได้แล้วใช่ไหม”
“ยี่หวาถ้าเจอพี่อินแล้วอย่าลืมไลน์มาบอกนะ” อันดาไม่ตอบคำถามของคมกริชแต่หันไปพูดกับเพื่อนรักแทน
“ได้สิ งั้นยี่หวาไปแล้วนะ” ส่งยิ้มหวานให้เพื่อนรักทั้งสอง จากนั้นก้าวไปขึ้นรถตู้คันหรู
“อันดาเมื่อกี้แกทำอะไรวะ” ลูกหว้าถามทันทีที่พ้นร่างของหวานยี่หวา
“อะไรเหรอ” คิ้วโก่งสวยขมวดเข้าหากัน
“แกไปเถียงกับผู้ชายคนเมื่อกี้ทำไม แกไม่กลัวมันจะทำอะไรแกเหรอ”
“ไม่กลัวหรอก นี่มันในมอ.เขากล้าเหรอ”
“แกควรระวังตัวนะอันดา ” ลูกหว้าเตือนสติเพื่อนรัก
“รู้แล้วน่าแต่มันอดไม่ได้แค่อันดาเห็นหน้าไอ้คนเมื่อกี้ก็รู้สึกเกลียดอย่างบอกไม่ถูก”
“แปลก! ปกติไม่ค่อยสู้คน” ลูกหว้ามองหน้าสวยหมวยของเพื่อนก่อนเอื้อมมือหยิกแก้มนุ่มด้วยความหมั่นไส้
“โอ๊ย เจ็บนะ” ยกมือขึ้นลูบแก้มนุ่มเบา ๆ สายตาคู่งามจ้องเพื่อนแบบเอาเรื่อง
“หมั่นไส้วะ คนอะไรหน้าตาน่ารักแต่ไม่มีแฟน” ลูกหว้าล้อเพื่อนพลางหัวเราะคิกคักจนลืมไปว่าตัวเองไม่มีแฟนเหมือนกัน
“ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละลูกหว้าสวยกว่าอันดาตั้งเยอะ แต่ไม่มีแฟน” พูดพลางย่นจมูกใส่เพื่อน
“สรุปคือกลุ่มเราไม่มีแฟนสักคน” สิ้นประโยคของลูกหว้า สองสาวหัวเราะดังลั่นโดยไม่สนใจใครจะหันมามอง
“กลับบ้านกันดีกว่า ป๊ากับม๊ารออันดาแย่แล้ว”
“ไปสิ” ลูกหว้ายกแขนขาวเนียนโอบต้นคอระหงของเพื่อนแล้วเดินไปหน้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน
รถตู้คันหรูแล่นมาจอดยังผับพีซีเอส หวานยี่หวาก้าวลงจากรถตู้เชื่องช้าพร้อมทั้งกวาดสายตามองรอบ ๆ บริเวณด้วยความไม่คุ้นเคย แม้จะทราบอินทัชทำธุรกิจเกี่ยวกับผับแต่ไม่คิดจะใหญ่โตและหรูหราขั้นนี้
“เข้าไปข้างในกันเถอะครับคุณยี่หวา คุณอินรออยู่”
“ค่ะ” เธอรู้สึกหวาดกลัวแต่ยอมก้าวตามหลังคมกริชโดยดี กระทั่งคนทั้งสองเดินมาหยุดหน้าห้องหนึ่ง หวานยี่หวามองประตูตรงหน้าด้วยความสงสัย
“เชิญเข้าข้างในเถอะครับคุณยี่หวา”
“ข้างในนี้เหรอคะ” มองหน้าคมกริชเพื่อรอคำยืนยันอีกครั้ง
“ครับ คุณอินอยู่ข้างในนี้”
“ค่ะ” มือเล็กเคาะประตูห้องด้วยความรู้สึกประหม่าก่อนจะมีเสียงเจ้าของห้องตอบรับกลับมา คมกริชจึงเปิดประตูให้หญิงสาวเข้าข้างใน
“เชิญครับ” เผยยิ้มอ่อนให้เธอคลายความกังวล
“ค่ะ” ทันทีที่ยกเท้าเล็กตรงไปข้างหน้าประตูห้องถูกปิดทันใด เธอหันมองข้างหลังแวบหนึ่งก่อนกวาดสายตามองรอบห้องภายในตกแต่งโทนสีดำ เฟอร์นิเจอร์หรูหรามีระดับบ่งบอกฐานะเจ้าของห้องได้อย่างดีแต่ไม่ทันสำรวจอะไรมากมาย เสียงทรงอำนาจเจ้าของห้องเอ่ยขึ้นส่งผลให้ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย
“จะยืนอีกนานไหม มาตรงนี้สิ”
“ค่ะ” หวานยี่หวาไปหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของอินทัช เธอก้มหน้างุดมองพื้นโดยไม่กล้าสบตาคมจ้องเขม็งมาอย่างน่ากลัว
“ตรงพื้นมีอะไรน่าสนใจมากกว่าฉันหรือไงถึงจ้องมันอยู่ได้ เงยหน้าขึ้นมาคุยกับผู้ใหญ่อย่าเอาแต่หลบหน้าหลบตาแบบนี้ ใครเห็นเข้าก็จะหาว่าเป็นเด็กไร้มารยาท”
“ค่ะ” แม้อยากจะร้องไห้กับคำพูดของเขา ทว่ายอมทำตามคำสั่งง่ายดาย
“พี่อินมีอะไรจะพูดกับยี่หวาเหรอคะ”
“ทำไม!! จะรีบไปไหนล่ะ”
“ยี่หวาต้องรีบกลับไปทำงานค่ะ”
“อยู่ที่นี่ก็มีงานให้เธอทำเหมือนกัน” ฝ่ามือใหญ่ตบโต๊ะดังสนั่นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ร่างสูงใหญ่เด้งตัวลุกขึ้นเต็มความสูงจ้องมองคนตัวเล็กเบื้องหน้าด้วยแววตาชิงชังแค่เธอบอกจะไป เขารู้สึกอยากจะระเบิดออกมา
“พี่อินเกลียดยี่หวาเหรอคะ” ถามเสียงสั่นเครือ เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปที่พี่ชายแสนดีเปลี่ยนไปกะทันหันจนตั้งตัวไม่ทัน คนที่เขาควรเกลียดหรือโกรธต้องเป็นพี่สาวของเธอสิ
“เออ ฉันเกลียดเธอ” เน้นเสียงหนัก ๆ จงใจตอกย้ำให้คนตัวเล็กเจ็บปวด
“ทำไมคะ คนที่พี่อินควรเกลียดคือพี่เมษาไม่ใช่ยี่หวา ยี่หวายังไม่ได้ทำอะไรเลย” หยาดน้ำใสไหลรินข้างพวงแก้มขาวเนียน
“เพราะฉันรักเมษาไง ฉันไม่มีทางเกลียดเมษา” อินทัชเดินไปหยุดตรงหน้าคนตัวเล็ก “อย่ามาแสร้งบีบน้ำตา” บีบเข้าที่คางมนอย่างแรง
“พี่อินไม่ยุติธรรมเลย ยี่หวาทำอะไรผิดเหรอคะ”
“เธออย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าเธอแอบชอบฉัน เธอคงอิจฉาเมษามากใช่ไหมที่จะได้แต่งงานกับฉัน สาเหตุที่เมษาหนีไปคงมาจากเธอสินะ” อินทัชสลัดมือหนาออกจากหน้างดงามอย่างแรงทำเอาหวานยี่หวาล้มลงคาพื้น
“พี่อิน” หันมองหน้าคนตัวโตด้วยความเสียใจ คิดไม่ถึงเขาจะรุนแรงกับเธอแบบนี้ จริงอยู่เธอแอบชอบเขาและอยากได้มาครอบครองแต่ไม่เคยคิดอยากแย่งเขามาจากพี่สาวสักครั้ง ขอแอบชอบเขาไปเรื่อย ๆ เท่านั้นก็เพียงพอสำหรับเธอ
“ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะหวานยี่หวา เธอชอบฉันจนพี่สาวเธอหนีไป” ร่างกำยำย่อตัวให้อยู่ระดับเดียวกับหญิงสาว ฝ่ามือหยาบกร้านบีบคางมนอีกครั้งแต่คราวนี้แรงกว่าเดิม
“โอ๊ย” เธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เขาทำราวกับอยากบดขยี้ร่างเล็กเป็นชิ้น ๆ
“เจ็บเหรอยี่หวา” ถามเสียงเย็น ยกยิ้มมุมปากอย่างน่ากลัว
“พี่อินปล่อยยี่หวาก่อนค่ะ ยี่หวาเจ็บ” เสียงหวานร้องขอความเมตตาจากคนตัวโตหวังให้เห็นใจกันบ้าง
“แค่นี้มันยังน้อยไปยี่หวา”
“ฮึก ฮือ พี่อินใจร้าย ยี่หวายังไม่ได้ทำอะไรเลย พี่เมษาหนีไปเองต่างหาก” พูดปนเสียงร้องสะอื้น
“เธอนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุ!!” ตะคอกเสียงดังลั่นใส่หน้าหวานยี่หวา
“พี่อินมีหลักฐานเหรอถึงได้มาว่ายี่หวาแบบนี้”
“…” อินทัชล้วงมือหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก่อนเปิดบางอย่างให้หวานยี่หวา
‘อินคะ เมษาขอโทษที่หนีไปแต่เมษาไม่สามารถแต่งงานกับคุณได้จริง ๆ น้องยี่หวารักคุณนะคะ หวังว่าคุณจะมองน้องสาวของเมษาในฐานะคนรักบ้าง ลองเปิดใจกับน้องยี่หวาดูสักครั้ง แกเป็นเด็กน่ารักมาก ฝากน้องยี่หวาด้วยนะคะและหวังว่าเราจะยังคงเป็นเพื่อนกันตลอดไป’
หวานยี่หวาอ่านข้อความในไลน์ที่ส่งมาจากเมษาจบ มือเรียวเผลอปล่อยโทรศัพท์ร่วงหล่นบนพื้นโดยไม่ตั้งใจ ความรู้สึกที่เธอมีต่ออินทัชนึกไม่ถึงเลยพี่สาวจะล่วงรู้ นี่สินะเมษาถึงหนีไป
“เป็นไงยี่หวา รู้หรือยังที่เมษาหนีไปเพราะใคร”
“ยี่หวาไม่รู้ ยี่หวาไม่ใช่ต้นเหตุทำให้พี่เมษาหนี” เธอยังคงปฏิเสธ ใบหน้างดงามส่ายไปมา
“ไม่ยอมรับสินะ” สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ พยายามระงับอารมณ์เดือดดาล
“ไอ้กริช”
“ครับคุณอิน” คมกริชผลักประตูเข้ามาตามเสียงของเจ้านายก่อนจะปะทะเข้ากับร่างบอบบางนั่งร้องไห้บนพื้น
“พาผู้หญิงคนนี้ออกไปทำงาน”
“งานอะไรครับคุณอิน”
“แล้วแต่แกเลยเอางานหนัก ๆ ไปเลยยิ่งดี รีบพาออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากเห็นหน้า”
“ครับ ๆ” คมกริชรีบประคองหวานยี่หวาออกจากห้องตามคำสั่งของเจ้านาย “ไปเถอะครับคุณยี่หวา”
หลังจากพ้นร่างคนทั้งสองภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ อินทัชถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาได้รับข้อความจากสาวคนรักเมื่อช่วงเช้าประมาณสิบโมงรู้สึกเดือดทันทีที่อ่านจบ พอติดต่อไปกลับพบว่าเมษาปิดเครื่องหนีเรียบร้อย เขาโยนความผิดทั้งหมดให้หวานยี่หวาเพียงคนเดียว เพราะเธอสาวคนรักถึงหนี ต่อไปนี้เขาจะไม่ปรานีกับเธอและจะเอาคืนให้สาสม
