บทที่ 4 ตัวปัญหา
“นี่คะ” หวานยี่หวานำเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งวางไว้บนโต๊ะของชายกลุ่มหนึ่ง งานที่คมกริชให้ทำคือพนักงานเสิร์ฟซึ่งเธอไม่ได้ติดใจอะไรทั้งสิ้นเพราะไม่ได้ยากเกินความสามารถ
“เพิ่งมาทำงานใหม่เหรอ พี่ไม่เคยเห็นหน้าน้องมาก่อน” ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นพร้อมกวาดสายตามองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้ายังคงสวมใส่ชุดนักศึกษา
“ขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิน้อง” ชายคนเดิมคว้าข้อมือเล็กอย่างถือวิสาสะ
“ปล่อยนะคะ” เธอพยายามจะแกะมือหยาบกร้านของชายคนนั้นออกแต่แรงอันน้อยนิดกลับสู้ไม่ได้
“จะรีบไปไหนล่ะคนสวย นั่งคุยกับพี่ก่อนสิ”
“ยี่หวาจะรีบกลับไปทำงานค่ะ ปล่อยเถอะ”
“ชื่อยี่หวาเหรอจ๊ะ ชื่อเพราะจังเลย”
“ว้าย!” หวานยี่หวาร้องเสียงหลงเมื่อถูกกระชากให้ไปนั่งบนตักของชายคนนั้น ซึ่งภายในกลุ่มต่างหัวเราะชอบใจและไม่มีใครจะห้ามปรามการกระทำของเพื่อน
“ปล่อยนะคะ” ดวงตากลมโตพยายามมองหาพนักงานด้วยกันเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ขณะนี้ทุกคนกำลังวุ่นวายกับแขกโต๊ะอื่นจึงไม่มีใครมาสนใจเธอ
“อยู่เฉย ๆ น่าคนสวย ถ้าทำให้พี่ถูกใจพี่จะให้ทิป ขอจูบหน่อยเถอะ”
“อย่านะคะ” ใบหน้างดงามพยายามเลี่ยงไปด้านอื่นก่อนเธอจะกัดแขนของชายคนนั้นจนโดนสลัดอย่างแรง
“โอ๊ย” หวานยี่หวาล้มกระแทกบนพื้นอย่างจัง ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างหันมามองด้วยความตกใจ
“มึงกล้ากัดกูเหรอ” ชายคนนั้นตะเบ็งเสียงถาม ทั้งชี้นิ้วไปยังหญิงสาวก่อนพุ่งตรงไปหมายจะตบหน้างาม ทว่าเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นทำให้เขาหยุดชะงัก
“หยุดนะ!!”
“มึงเป็นใคร”
“กูไม่จำเป็นต้องตอบคำถามมึง” สายตาคมกริบเหลือบมองร่างอรชรบนพื้นก่อนย่างเท้าไปหาคนตัวเล็กแล้วกระซิบบางอย่างให้ได้ยินกันสองคน “กล้ามากนะยี่หวาที่มาสร้างความวุ่นวายในผับฉัน”
“ยี่หวาเปล่า” ถึงเธอจะอธิบายอย่างไรเขาคงไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
“ไอ้กริชจัดการพวกนี้ให้เรียบร้อย” อินทัชออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิท จากนั้นกระชากท่อนแขนเรียวของหวานยี่หวาให้เดินตามหลัง ไม่สนใจเธอจะเจ็บปวดหรือไม่
“พี่อินเบา ๆ หน่อยสิ ยี่หวาเจ็บนะคะ”
“เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอกยี่หวา” หันมองคนตัวเล็กด้วยแววตาชิงชัง เขายังคงลากเธอให้เดินตามอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเดินมาถึงห้องหนึ่งเป็นห้องเชื่อมกับห้องทำงาน ซึ่งภายในห้องมีเตียงขนาดคิงไซซ์ตั้งอยู่กลางห้องและเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้น
“พี่อินพายี่หวามาห้องนี้ทำไมคะ” เท้าเล็กถอยห่างคนตัวโต เขาในตอนนี้น่ากลัวกว่าปกติ จนอดระแวงไม่ได้
“คิดว่าไงล่ะหวานยี่หวา” ยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ทำเอาคนตัวเล็กเสียวสันหลังวาบ
“อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะพี่อิน” เธอค่อย ๆ ถอยหลังออกห่างเขาทีละก้าว
“ทำไมล่ะยี่หวา ไม่ใช่ว่าเธอชอบฉันเหรอ” แขนแกร่งคว้าเอวคอดกิ่วแล้วดึงเธอให้มาแนบอกล่ำสัน จมูกโด่งคมสันซุกไซ้ซอกคอระหงพลางสูดกลิ่นกายเฉพาะ
“พี่อินอย่าค่ะ” เอ่ยเสียงแผ่วเบา รีบเบือนหน้าไปทางอื่น แม้จะชอบเขามากแต่แบบนี้ไม่ถูกต้องเนื่องจากเขาคือคนรักของพี่สาว
“ผลักฉันสิยี่หวาถ้ารังเกียจกันก็ผลักฉันเลย แค่เบา ๆ แล้วฉันจะรีบถอยห่างทันที”
“พี่อิน” เธอมองเขาด้วยความไม่เข้าใจซึ่งภายในดวงตาดำขลับมีแต่ความว่างเปล่าจนไม่รู้เขาคิดอะไรกันแน่
“ไม่ชอบเหรอยี่หวา รังเกียจกันเหรอ” นิ้วยาวกรีดกรายทั่วพวงแก้มขาวเนียน เขามองเธออย่างมีเลศนัย
“พี่อินคะอย่าทำแบบนี้”
“ทำไมล่ะยี่หวา”
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” พูดทั้งที่หน้าสวยหันไปทางอื่น เธอไม่กล้าสบตาคมตรง ๆ กลัวเขาจะรับรู้ความรู้สึกแท้จริงของตนเอง
“เหรอ” คิ้วดกดำเลิกขึ้นก่อนเหลือบมองหน้าอกอวบอั๋นภายใต้ชุดนักศึกษา
“ปล่อยได้แล้วค่ะ ยี่หวาอึดอัด” มือเรียวออกแรงผลักคนตัวโตออกห่างจนสำเร็จ
“เธอคิดว่าฉันอยากได้เธอเหรอยี่หวา เมื่อกี้ฉันแค่อยากทดสอบดูเท่านั้น สรุปคือ…เธอมันง่าย” เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาที่มองหญิงสาวบ่งบอกถึงการดูถูกเหยียดหยาม
“มันจะมากเกินไปแล้วพี่อิน จำเป็นต้องพูดขนาดนี้เลยเหรอ”
“แล้วมันไม่จริงเหรอยี่หวา ไม่ใช่ว่าเธอกำลังอ่อยลูกค้าเหรอมันถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อกี้”
“มันไม่ใช่อย่างที่พี่อินเข้าใจนะคะ คนพวกนั้นต่างหากที่ทำตัวรุ่มร่ามกับยี่หวาก่อน”
“ไม่ต้องมาแก้ตัวยี่หวา เธอนี่มันตัวปัญหาจริง ๆ ถ้าฉันไปไม่ทันไม่รู้ป่านนี้ผับของฉันจะเสียหายขนาดไหน คนอย่างเธอจะมีปัญญาจ่ายไหมแค่ลำพังตัวเองยังเอาไม่รอด”
เพียะ! มือเล็กฟาดแก้มสากอย่างจัง
“ยี่หวาไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นเหมือนกัน” หยาดน้ำใสไหลรินอาบแก้มนุ่มทั้งสองข้าง เขาจะรับรู้บ้างไหมก่อนหน้านี้เธอต้องเจออะไรบ้าง จู่ ๆ มาพูดแบบนี้ใครบ้างจะไม่เสียใจ ทั้งที่เธอกำลังถูกพวกนั้นคุมคามแต่เขากลับตำหนิเธอเป็นว่าเล่น ไม่สนใจความปลอดภัยกันบ้างเลย
“กล้าดียังไงยี่หวามาตบหน้าฉัน” อินทัชบีบท่อนแขนเล็กอย่างแรง
“เจ็บ”
“คนอย่างเธอเจ็บเป็นด้วยเหรอยี่หวา”
“ยี่หวาก็เป็นคนมีเลือดมีเนื้อและจิตใจเหมือนกัน” เสียงหวานเริ่มสั่นเครือ “ปล่อยค่ะ”
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน อย่าลืมนะยี่หวาฉันมีสิทธิ์จะทำอะไรกับเธอก็ได้”
“ยี่หวารู้ค่ะ” ก้มหน้างุดมองพื้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ต่อให้เขาไม่ย้ำเธอไม่มีทางลืมเด็ดขาด
“รู้แล้วก็จำใส่สมองซะ!! ต่อไปนี้อย่ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่อีก ถ้าอยากเอากับใครก็ไปเอาข้างนอกที่นี่ผับไม่ใช่โรงแรม” อินทัชปล่อยท่อนแขนของหวานยี่หวาเป็นอิสระ จากนั้นผลักเธอจนล้มลงกองกับพื้นก่อนหมุนตัวหมายจะออกนอกห้องแต่ไม่ทันจับลูกบิดประตู เสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้นเสียก่อน
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ”
“ว่าไงนะยี่หวา” อินทัชเดินกลับไปหาคนตัวเล็กอย่างไว
“ยี่หวาขอบคุณไงคะ พี่อินบอกว่าที่นี่ผับไม่ใช่โรงแรม งั้นแสดงว่าถ้าเกิดอยู่ในเวลางานแล้วยี่หวามีอารมณ์ขึ้นมาก็สามารถออกไปข้างนอกได้เลยใช่ไหมคะ”
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง” บีบคางมนอย่างแรง เขาไม่ชอบที่เธอกำลังท้าทาย
“แล้วแต่พี่อินจะตีความหมายเลยค่ะ ขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะคะเผื่ออยากขึ้นมาจะได้ลากใครสักคนออกไปเลยตอนนี้” มือเล็กปัดมือของเขาที่บีบคางกลมกลึงไปพ้นด้วยความรำคาญ จากนั้นพยุงกายลุกขึ้นยืน ส่งยิ้มยั่วยวนให้หนึ่งทีและเดินผ่านหน้าเขาไป
“กล้ามากยี่หวา ฉันจะทำให้เธอรู้เองว่าไม่ควรเล่นกับไฟ” อินทัชมองแผ่นหลังเล็กพลางขบกรามแน่น เท้าใหญ่ก้าวตามคนตัวเล็กติด ๆ จากนั้นอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวก่อนนำไปเหวี่ยงบนเตียงขนาดคิงไซซ์
“พี่อินจะทำอะไร” หวานยี่หวารีบลุกขึ้นนั่ง เธอทั้งเจ็บและจุกเหลือเกินเมื่อโดนโยนอย่างไม่ทันตั้งตัว ท่าทางของเขาในตอนนี้น่าหวาดกลัวกว่าเมื่อครู่หลายเท่าจนเธอต้องรีบถอยหลังหนีจนแผ่นหลังชิดหัวเตียง
“กลัวเหรอยี่หวา” อินทัชจับเข้าที่ข้อเท้าเล็กแล้วลากมาหาตนเองจนร่างบอบบางนอนราบบนเตียงก่อนขึ้นคร่อม มือใหญ่จับข้อมือเล็กตรึงกับเตียงแน่น
“พี่อินจะทำอะไรคะ ปล่อยยี่หวาเถอะ”
“คราวนี้กลัวแล้วเหรอยี่หวา เมื่อกี้ยังทำปากกล้าอยู่เลย”
“ยี่หวาขอโทษ ยี่หวาไม่ทำอีกแล้วค่ะ ต่อไปนี้ยี่หวาจะเชื่อฟังพี่อินทุกอย่าง ปล่อยยี่หวาเถอะ” พยายามหว่านล้อมคนเหนือร่างให้คล้อยตาม
“คงไม่ทันแล้วแหละยี่หวา เพราะตอนนี้เธอทำให้ฉันโกรธมาก” หน้าคมคายซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น ปลายลิ้นสากลากไล้ทั่วคอขาวเนียนจนเปียกชื้น เขาต้องการสั่งสอนผู้หญิงคนนี้ให้หลาบจำอย่าได้คิดจะทำให้เขาฟิวส์ขาดไม่อย่างนั้นเธอนั่นแหละต้องทรมาน
