บท
ตั้งค่า

แค่ส่วนเกินในชีวิต

บนรถ...

ในขณะที่เธอกำลังนั่งรถมากับพี่ภูผาเพื่อจะไปทำบุญที่วัดใจเธอก็คอยคิดแต่เรื่องของน่านฟ้า เธอไม่รู้ว่าสายตาที่เขามองมาที่เธอเมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะออกไปกับพี่ภูผามันหมายความว่ายังไง สายตาที่ไม่เหมือนเดิมมันไม่เหมือนกับที่เขาเคยมองเธอแบบเมื่อก่อน มันทำให้เธออดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้มันเหมือนเขาหึงและหวง แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกันในเมื่อตอนนี้เขากำลังคบหากับมิ้งอยู่อย่างเปิดเผยแล้ว และไหนจะคำพูดที่เขาพูดกับเธอก่อนที่เธอจะเดินไปยังห้องรับแขกที่พี่ภูผานั่งรออยู่อีก

ก่อนที่เธอจะเดินไปถึงห้องรับแขกจู่ๆ แขนเธอก็ถูกดึงอย่างแรงทำให้เธอต้องหันหลังกลับไปมองว่าเป็นใคร

"น่าน" เป็นเขาที่ดึงแขนเธอและลากเธอไปยังมุมนึงของบ้านในที่ลับตาคน เขามองไปรอบๆ เพื่อดูว่ามีใครเดินผ่านหรือเปล่า และพอมั่นใจว่าไม่มีใครเขาก็พูดกับเธอด้วยอารมณ์โกรธ

"รู้ใช่ไหมว่าไปไหนกับไอ้ภูผากลับมาแล้วเธอจะต้องเจอกับอะไร" เมื่อพูดจบน่านฟ้าก็ดึงเธอเข้าไปจูบอย่างดุดันและรุนแรงก่อนจะผลักเธอออกก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากตรงมุมนั้นทิ้งให้เธอยืนงงและสงสัยกับการกระทำของเขาที่นับวันมันทำให้เธอเริ่มคิด

"วันนี้ฝันดูไม่ค่อยสดชื่นเลยเป็นอะไรหรือเปล่าครับไม่สบายหรือเปล่า พี่ขอโทษนะครับ" พี่ภูผาพูดจบก็เอามือมาแตะที่หน้าผากของเธอ

"อืมก็ตัวไม่ร้อนนะ หรือฝันปวดหัวไปหาหมอมั้ย"

"ฝันไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ภูผาต้องเป็นห่วง"

"ไม่ห่วงฝันแล้วจะให้พี่ไปห่วงใครล่ะ"

"พี่ภู ขอบคุณที่เป็นห่วงฝันนะคะ บางครั้งเหมือนกับว่าฝันทำตัวให้พี่ภูต้องเป็นห่วงเป็นกังวล" เธอรู้สึกว่าตัวเองทำให้พี่ภูผาไม่สบายใจ

"อย่าคิดแบบนั้นสิครับ เราก็เหมือนน้องสาวของพี่ อืมมมถ้าฝันไม่เป็นอะไรถ้างั้นเราไปซื้อของกันก่อนแล้วไปที่วัดเลยละกันเนอะ"

"โอเคค่ะ" เธอทิ้งความคิดวิตกกังวลนั้นไปก่อนจะพยายามปรับตัวและความรู้สึกของตัวเองให้เป็นปกติและสนใจกับคนที่อยู่ข้างๆ เธอจะพยายามไม่ทำให้คนดีๆ แบบพี่ภูผาต้องมาเป็นห่วงหรือไม่สบายใจเพราะเธอ เราแวะซื้อของทำบุญซื้อสังฆทานไปถวายที่วัด หลังจากนั้นเราสองคนก็มานั่งให้อาหารปลาที่สระปลาหลังวัดซึ่งบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบมันทำให้จิตใจเธอรู้สึกปลอดโปร่งและโล่งสบาย

"ฝันยิ้มได้แบบนี้พี่ก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย"

"^^ สบายใจมากเลยค่ะ"

"แปลว่าก่อนหน้านี้ไม่สบายใจ"

"ก็...ค่ะ" เธอไม่อาจจะโกหกพี่ภูผาได้เลยจริงๆ เขารู้ความคิดเธอแทบทุกอย่าง

"เรื่องน่านฟ้าใช่ไหมถ้าให้พี่เดา"

"..."

"เมื่อกี้..ตอนที่น่านฟ้าจูบเรา..."

"พี่ภูเห็นเหรอคะ"

"พี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะแอบดูนะแต่พี่กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำก็เห็นเข้าพอดี"

"พี่ภู"

"และพี่ก็เข้าใจในสิ่งที่น่านฟ้าพูดด้วยนะ ดูเหมือนน่านเขาจะหวงเราด้วยนะ"

"ไม่หรอกค่ะพี่ภู น่านเค้ามีคนรักอยู่แล้ว"

"ยัยมิ้งน่ะเหรอ"

"ค่ะ" พูดถึงมิ้งถ้าไม่มาคบกับน่านฟ้ามิ้งก็คงจะได้เป็นว่าที่น้องสะใภ้พี่ภูผาไปแล้วล่ะ แต่เรื่องแบบนี้ห้ามความรู้สึกกันไม่ได้หรอกเรื่องรักใครชอบใคร ก็เหมือนกับเธอที่รู้สึกกับน่านฟ้าไปแล้วทั้งที่ไม่ควรเลยสักนิด แต่เธอเชื่อว่าเวลาจะช่วยเธอได้เอง ตอนนี้อาจจะทำใจยากสักหน่อยเพราะเราต้องอยู่บ้านเดียวกันเจอหน้ากันทุกวันนั่งรถไปเรียนด้วยกันอีก ถึงแม้ช่วงนี้น่านฟ้าจะเอารถมอเตอไซค์ไปเองเพราะเขาไปรับมิ้งที่บ้านเพื่อไปโรงเรียนพร้อมกันแม้จะอยู่กันละโรงเรียนก็เถอะ แต่แทนที่เธอจะสบายใจที่ไม่ต้องทนอึดอัดกับการที่ต้องนั่งรถไปโรงเรียนกับเขา แต่พอคิดถึงภาพที่เขากับมิ้งอยู่ด้วยกันมันก็ทำให้เธอรู้สึกนอยด์นิดๆ แต่อีกหน่อยก็คงจะชินไปเองถ้าเจอเหตุการณ์แบบนั้นทุกวัน

น่านฟ้า....

"น่านไปไหนมาคะ"

"ไปเข้าห้องน้ำมา"  ผมโกหกมิ้งเพราะจริงๆแล้วผมเพิ่งจะไปคาดโทษใครบางคนมา

"เมื่อกี้มิ้งคุยกับคุณย่าคุณพ่อคุณแม่เรื่องเรียนต่อท่านบอกจะให้น่านไปเรียนต่อที่อังกฤษ มิ้งว่ามิ้งจะตามไปเรียนด้วยน่านมาดีมั้ยคะ^^"

"เรียนต่ออังกฤษเหรอ"

"ใช่จ๊ะ ย่าคิดว่าย่าอยากให้น่านไปเรียนต่อที่โน่นกลับมาก็จะได้เข้ามาบริหารงานที่บริษัท"

"เรื่องนี้แม่กับพ่อตามใจน่านเลยนะลูกอยู่ที่ลูกจะตัดสินใจ"

ผมขอคิดก่อนละกันนะครับเพราะยังอีกหลายปี" คือเอาตรงๆ นะเรื่องนี้ผมยังไม่คิดเลยเพราะเหลืออีกตั้งหลายปีกว่าจะเรียนจบมอหก แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมกำลังคิดก็คือเรื่องคนคนที่ผมเพิ่งจะคาดโทษไป นี่ขนาดเขาขู่แล้วนะยัยพี่สาวตัวดีก็ยังไม่กลัวยังไปกับไอ้ภูผานั่นจนได้

เรานั่งพูดคุยและทานข้าวด้วยกัน และดูเหมือนมิ้งจะเข้ากับย่าของเขาได้เป็นอย่างดีคือดูออกเลยว่าย่าปลื้มมิ้งมาก ซึ่งผมก็ไม่ได้อะไรนะ แม้ย่าผมจะชอบพูดเรื่องอนาคตของผมกับมิ้งคือคิดไปถึงงานแต่งงานของผมกับมิ้ง คืออยากจะพูดไปตรงๆ ว่าผมไม่เคยคิดเรื่องนี้ไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวสมองของผมเลยสักนิดเดียวเพราะผมมั่นใจว่าผมคงไม่ลงเอยกับมิ้งหรอก คบพูดคุยกันแบบนี้น่ะพอได้แต่ถ้าจะให้คบจนถึงขั้นนั้นผมคงขอบาย ย่าของผมท่านไม่รู้ไงครับว่ามิ้งน่ะจริงๆ แล้วไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เห็น ผมรู้หมดทุกอย่างแล่ะแค่ผมไม่พูดเพราะมันไม่ใช่เรื่องของผม มิ้งจะเอากับใครนอกจากผมๆ ไม่แคร์นะเพราะผมก็คบกับเธอเพื่อเอาเหมือนกัน แฟร์ๆ ดีว่าไหม

เรานั่งคุยกันจนคุณย่าของผมท่านขอตัวกลับส่วนพ่อกับแม่ของผมก็พากันออกไปข้างนอก ตอนนี้ผมกับมิ้งกำลังนั่งเล่นกันอยู่ในห้องนอนของผมซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มิ้งเข้ามาในห้องของผม จะว่าไปผู้หญิงที่ผมเอาเข้ามานอนในห้องก็มีแค่สองคนคือมิ้งกับยัยพาฝันพี่สาวนอกไส้ของผม พูดถึงยัยนั่นก็อดคิดอดโมโหไม่ได้ ไม่รู้ตอนนี้จะไปถึงไหนต่อไหนกันมาบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจก็คือสองคนนั้นไม่มีทางทำอะไรเกินเลยกันอย่างแน่นอน ผมมั่นใจ

"ขอบคุณนะคะที่พาฝันไปทำบุญแถมยังพาไปเลี้ยงอาหารกลางวันอีก"

"ไว้วันไหนฝันอยากทำบุญอีกก็โทรบอกพี่นะพี่จะพาไป"

"ค่ะ"

"งั้นพี่กลับก่อนนะครับ"

"ค่ะ ขับรถดีดีนะคะพี่ภู^^"

หลังจากส่งพี่ภูผาเสร็จเธอก็เดินเข้าบ้านและเดินขึ้นไปชั้นบน แต่พอเธอเดินไปจนถึงหน้าห้องของน่านฟ้าเธอก็ได้ยินเสียงบางอย่างเล็ดลอดออกมา แม้จะไม่ได้อยากตั้งใจจะฟังแต่หูมันก็ได้ยินของมันเอง

ปัก!! ปัก!! ปัก!!

"อ๊ะ อ๊ะ น่านเสียวจัง มิ้งไม่ไหวแล้ว "

"อดทนหน่อยใกล้แล้ว ซี๊ดดด"

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนในห้องทำอะไรกัน เธอรีบเดินผ่านไปทันทีและรีบไขประตูห้องของตัวเองและรีบปิดประตูอย่างรวดเร็วและจัดการล็อคเพราะไม่อยากได้ยินอะไรมากกว่านี้ และจู่ๆ น้ำตาของเธอมันก็ไหลออกมา เขาทำกับคนอื่นเหมือนที่ทำกับเธอสินะ แต่จะพูดให้ถูกคนอื่นที่ว่าควรจะเป็นเธอมากกว่าเพราะมิ้งได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเขา เธอสิเป็นคนอื่น เธอเป็นคนอื่นเป็นส่วนเกินในชีวิตของเขามาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา ที่ผ่านมาแม้เธอจะรู้ว่าเขาเคยมีอะไรกับคนอื่นมาก่อนแต่เธอก็ไม่เคยต้องมาได้ยินได้ฟังอะไรต่อหน้าต่อตาแบบครั้งนี้เลยสักครั้ง ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้ยินมัน เธอต้องรีบหาทางออกไปอยู่ที่อื่นให้เร็วที่สุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel