บท
ตั้งค่า

ภาพบาดตา

วันต่อมา........

วันนี้เธอตื่นแต่เช้ากว่าปกติ เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะลงไปทานอาหารเช้าและไปเรียนซึ่งวันนี้จะเป็นวันสอบวันสุดท้ายแล้ว ต่อจากนี้ก็แค่รอฟังผลสอบและรอใบจบเท่านั้น แม้ว่าเมื่อคืนจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะคิดมาก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของใครเลยนอกจากเป็นเรื่องของน่านฟ้ากับมิ้งที่เธอไม่รู้ว่าเมื่อคืนมิ้งได้นอนค้างที่บ้านนี้หรือเปล่า เพราะแบบนี้เธอจึงไม่อยากเจอทั้งคู่เพราะกลัวเก็บอาการไว้ไม่อยู่วันนี้เธอเลยคิดว่าจะไปเรียนเช้ากว่าทุกวัน วันนี้เธอคิดว่าน่านฟ้าก็คงจะเอามอเตอไซค์ไปเรียนเหมือนเดิมนั่นแล่ะเพราะมิ้งไปด้วย แต่ปรากฏว่า

"ทำไมวันนี้น่านไม่ขับมอเตอไซค์ไปเรียนคะ"

ไม่รู้วันนี้น่านฟ้าคิดยังไงถึงนั่งรถของที่บ้านไปเรียนแทนที่จะเอารถมอเตอไซค์ไป แต่ก็นั่นแล่ะเขาจะเอารถไปเองหรือนั่งรถของที่บ้านไปมันก็คงเป็นสิทธิ์ของเขาเพราะเขาเป็นลูกชายเจ้าของบ้านไม่ใช่คนอาศัยที่ขอมาเลี้ยงแบบเธอ และวันนี้น่านฟ้าสั่งให้คนขับรถเอารถตู้ออกมาเพราะนั่งไปกันหลายคน เธอนั่งอยู่ด้านหลังสุดส่วนน่านฟ้ากับมิ้งนั่งอยู่ด้านหน้าของเธอ

"ขี้เกียจขับรถน่ะ เมื่อคืนเสียพลังงานไปเยอะ ขับไม่ไหว เพราะใครก็ไม่ต้องให้น่านพูดใช่ไหมครับ^^"

คำพูดท่าทีของเขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหมายถึงอะไร ซึ่งเธอก็ทำเป็นไม่ได้สนใจเธอหยิบหนังสือในกระเป๋าออกมาอ่านฆ่าเวลาและเพื่อที่จะได้ไม่ต้องสนใจคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าสองคนที่กำลังจู๋จี๋กันอยู่อย่างไม่อายสายตาของใครซึ่งใครที่ว่าก็คงมีเพียงแค่เธอคนเดียว

"บ้าพูดอะไรอายคนอื่นบ้างสิคะ"

"คนอื่นก็คือคนอื่นจะไปสนใจทำไมจริงมั้ย เราจะทำอะไรคนอื่นก็ไม่เกี่ยว"

พูดจบน่านฟ้าก็ดึงมิ้งเข้าไปจูบต่อหน้าต่อตาของเธอ ทำให้เธอทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าเธอ และเมื่อเขาจูบคนรักของเขาจนพอใจเขาก็หันมาและยิ้มเยาะซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขายิ้มเยาะใคร และจู่ๆ น้ำตาเจ้ากรรมก็เกิดไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอรีบเอามือเช็ดมันออกทันทีเพราะไม่ต้องการให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันกระทบกับจิตใจของเธอขนาดไหน

"อ้าววพี่ฝันร้องไห้ทำไมคะ ไม่สบายหรือเปล่าคะบอกมิ้งได้นะคะ" คำพูดเหมือนหวังดีของมิ้งแต่เธอรู้ว่ามันไม่ใช่เพราะตอนที่เธอพูดคำพูดกับสีหน้าของเธอมันไปคนละทาง

"เปล่าจ๊ะ พี่แค่เคืองตาน่ะ"

"เหรอคะนึกว่าเห็นภาพบาดตาแล้วรับไม่ได้"เธอเลือกที่จะเงียบและก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไปแม้จะอ่านไม่รู้เรื่องเลยก็ตาม จนเรานั่งรถมาถึงโรงเรียนของมิ้ง

"ตอนเย็นน่านจะมารับมิ้งมั้ยคะ"เย็นนี้น่านมีเรื่องต้องจัดการน่ะมิ้งให้คนที่บ้านมารับนะครับ"

"โอเคค่ะ งั้นมิ้งเข้าโรงเรียนก่อนนะคะ จุ๊บ" มิ้งหอมแก้มของน่านฟ้าก่อนจะเดินลงจากรถ และพอประตูรถปิดลงน่านฟ้าก็กระโดดข้ามมาที่นั่งด้านหลังทันที

"เมื่อกี้ร้องไห้ทำไม"

"ก็บอกแล้วว่าเคืองตา"

"จะเชื่อก็ได้นะแม้ว่าจะไม่อยากเชื่อก็ตาม"

"น่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของน่าน" เธอพูดกับเขาเสร็จก็รีบเก็บหนังสือเข้ากระเป๋าเพราะใกล้จะถึงโรงเรียนแล้ว แต่จู่ๆ ตัวเธอก็ถูกอุ้มขึ้นด้วยฝีมือของน่านฟ้าจนตอนนี้เธอได้มานั่งอยู่บนตักของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยไม่ทันตั้งตัวและเขาก็กอดเธอเอาไว้แน่น

"น่านปล่อยพี่จะทำอะไร"

"เมื่อวานบอกไว้ว่าไง ถ้าไปกับไอ้ภูผาจะเจอกับอะไร"

"พี่จะไปไหนมาไหนกับใครมันก็เป็นเรื่องของพี่ไม่เกี่ยวกับน่านเลยสักนิด แล้วก็เลิกขู่พี่สักที เพราะอีกไม่นานพี่ก็จะออกจากบ้านอย่างที่น่านต้องการแล้ว"

"แต่ตอนนี้ไปหรือยังล่ะ..ก็ยัง เพราะฉะนั้นเธอก็ยังต้องคอยรองรับความต้องการของฉันทุกครั้งที่ฉันต้องการ และตอนนี้ฉันจะทำโทษเธอที่เธอกล้าขัดคำสั่งของฉัน"

และไม่ทันที่เธอจะตั้งสติได้ น่านฟ้าก็ใช้ริมฝีปากของเขาจูบลงมาที่ลำคอของเธอและดูดมันอย่างแรง

"อ๊ะ เจ็บ น่านอย่าทำ" เธอพยายามเบี่ยงตัวหลบแต่ก็ไม่สามารถทำได้

"จะทำ" เขาพูดออกมาเสียงเบาแต่เธอก็ได้ยินเพราะริมฝีปากของเขายังคงวนเวียนอยู่ที่ลำคอของเธอไม่ถอยไปไหน

จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ

"อื้อออ น่านอย่าดูดแบบนี้นะ พี่จะเข้าห้องสอบนะ"

"เรื่องของเธอดิ"

แม้เธอจะพยายามห้ามปรามแต่เขาก็ไม่ยอมฟัง ดีที่ลุงคนขับรถไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนรถตอนนี้เพราะน่านฟ้าปิดกระจกกั้นระหว่างคนขับเอาไว้เพราะไม่งั้นเขาคงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น

"รอยดูดเต็มคอเลยว่ะ หาอะไรมาปิดเอาเองนะ ไปล่ะ" พอเขาได้ทำในสิ่งที่เขาพอใจเขาก็อุ้มเธอลงนั่งตรงที่เดิมของเธอส่วนเขาก็กระโดดข้ามไปนั่งตรงที่นั่งของเขาเหมือนเดิม และไม่นานเราก็มาถึงโรงเรียน ซึ่งตอนนี้เธอยังไม่กล้าลงจากรถเพราะเธอไม่รู้ว่ารอยที่คอเธอมีมากขนาดไหนแต่เธอมั่นใจว่ามันต้องเยอะแน่ๆ

"ทำไมยังไม่ยอมลง หรืออายรอยที่คอนั่น" น่านฟ้าหันมาถามเธอเมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ขยับตัวลงจากรถ

"น่านเข้าไปในโรงเรียนก่อนเถอะ พี่ยังไม่ลง"

"นี่อย่าบอกนะว่าจะโดดสอบ" เขารู้อยู่เต็มอกว่าเพราะอะไรเธอถึงยังไม่ยอมลงจากรถเขายังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกงั้นเหรอ

เธอกดเลื่อนกระจกระหว่างคนขับลงและบอกลุงคนขับรถว่าให้ขับออกไปก่อนเธอลืมซื้อของซึ่งลุงคนขับรถก็พยักหน้าและกำลังจะขับรถออกไปแต่จู่ๆ น่านฟ้าก็โดดขึ้นรถมาอีกรอบซึ่งเธอก็งงว่าเขาจะขึ้นมาทำไมอีกหรือจะขึ้นมาแกล้งเธออีก

"น่านลงไปเลยนะ"

"เธอมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันลงจากรถวะ รถนี่มันก็รถพ่อรถแม่ฉัน หรือเธอคิดว่าเธอมีสิทธิ์"

เธอไม่รู้จะต่อล้อต่อเถียงเขาไปเพื่ออะไรเธอจึงเลือกที่จะเงียบและคอยมองสองข้างทางจนเจอร้านสะดวกซื้อเธอจึงขอให้ลุงคนขับจอดและฉันก็ขอให้ลุงคนขับเข้าไปซื้อของบางอย่างที่เธอต้องการเพื่อเอามาปกปิดร่องรอยที่คอ โดยมีน่านฟ้าที่เอนตัวลงนอนเล่นมือถืออย่างสบายใจอยู่ตรงเบาะนั่งด้านหน้าของเธอ

"นี่ครับคุณหนู"

"ขอบคุณนะคะ"

หลังจากได้สิ่งที่ต้องการเธอก็เริ่มใช้กระจกสำรวจร่องรอยรอบๆ คอของเธออีกครั้งและจัดการปกปิดร่องรอยด้วยคอนซีลเลอร์ ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอใช้มันเพราะบ่อยครั้งที่น่านฟ้าจะทิ้งร่องรอยเอาไว้แบบนี้ แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้พกมันมาด้วยเพราะไม่คิดว่าจะต้องได้ใช้เธอจึงต้องขอร้องลุงคนขับรถลงไปซื้อให้ซึ่งพูดตรงๆ เธอก็ไม่กล้าลงซื้อด้วยตัวเอง และหลังจากจัดการปกปิดร่องรอยเสร็จเธอก็นั่งรถมาถึงโรงเรียนซึ่งเกือบจะไม่ทันเข้าแถวแล้วเหมือนกัน

"วันนี้ทำไมมาสาย" ไผ่ใช้นิ้วสะกิดที่ไหล่ของเธอและทักเธอเมื่อเธอเดินเข้ามายืนในแถวเพื่อเคารพธงชาติและยืนอยู่ตรงหน้าของเขาพอดี

"อ๋อ คือเราตื่นสายน่ะ"

"ว่าแต่...รอยที่คอเธอ...มัน" ไผ่กระซิบบอกกับเธอเสียงเบาคือเขาก็คงจะกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน

"ห๊ะ ว่าไงนะ" เมื่อได้ยินที่ไผ่พูดเธอรีบเอามือปิดตรงคอของเธอทันทีโดยที่ไม่รู้ว่าปิดถูกจุดหรือเปล่า

"รอยตรงต้นคอของเธอยังเห็นชัดอยู่เลยนะ" ตอนนี้ถึงแม้เธอจะอายมากแค่ไหนแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้เพราะยังเข้าแถวอยู่แต่เธอยังโชคดีที่มีไผ่ยืนอยู่เข้าแถวอยู่ด้านหลังของเธอพอดีเพราะถ้าเป็นคนอื่นเธอไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาเห็นรอยแบบนี้ที่คอของเธอ เพราะสังคมในโรงเรียนต่อให้โรงเรียนจะดีค่าเทอมจะแพงนักเรียนจะเป็นลูกผู้รากมากดีสูงส่งแค่ไหนแต่ถ้ามีเรื่องไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรับรองได้ว่าเรื่องนั้นจะถูกปิดเงียบแล้วยิ่งเรื่องแบบนี้ด้วยแล้วถ้าคนอื่นรู้หรือเห็นและเอาไปพูดปากต่อปากเธอคงไม่กล้าเอาหน้าไปสู้ใครเขาได้ไม่หนำซ้ำชื่อเสียงของพ่อกับแม่ก็อาจจะเสื่อมเสียไปด้วย

หลังจากเข้าแถวเสร็จไผ่ก็รีบจูงมือเธอไปยังลานจอดรถที่มีรถของนักเรียนและคุณครูจอดอยู่เต็มไปหมด เขาจูงมือเธอมาถึงรถสปอร์ตสีแดงซึ่งเธอจำได้ว่าเป็นรถของไผ่เอง

"ขึ้นไปสิ"

"ขึ้นไปทำไม" เธอยังไม่เข้าใจว่าเขาจะพาเธอไปไหนเพราะตอนนี้จะใกล้จะเข้าห้องสอบแล้ว

"จะช่วยปิดรอยตรงต้นคอให้เธอไง หรือเธอจะเดินเข้าห้องสอบแบบนี้ก็ตามใจนะ"

"อ่ะ เอ่ออ ขอบใจนะไผ่" พูดจบเธอก็ขึ้นรถของไผ่ส่วนเขาก็เดินอ้อมไปทางฝั่งคนขับและขึ้นรถมานั่งในรถกับเธอ ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชายแต่เธอก็ไว้ใจเขาเพราะเราเรียนห้องเดียวกันมาหลายปี

อีกตรงมุมหนึ่ง มีใครบางคนมองดูคนสองคนด้วยความรู้สึกไม่พอใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel