บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ไม่ค่อยชอบใจ

ในช่วงเวลาสี่ทุ่มครึ่ง สายลมพัดพลิ้วกระทบผิวกายคนตัวเล็กกำลังยืนมองบรรยากาศตอนกลางคืนบริเวณระเบียง มือน้อยยกขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้าย นึกถึงเหตุการณ์ตอนกลางวันในห้องทำงานของกองทัพ

หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวกระสับกระส่ายแบบไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่เข้าใจเลยมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับร่างกายนี้ ทำไมถึงรู้สึกหวั่นไหวกับผู้ชายเจ้าชู้คนนั้นแค่เขาพูดประโยคเดียว ทั้งที่เมื่อก่อนเขาป้อนคำหวานมากกว่านี้แต่ดันรำคาญ

“เราเริ่มชอบเขาเหรอ” มองเบื้องหน้าอย่างไม่เข้าใจ ก่อนฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้เธอไม่ควรรู้สึกกับเขาเด็ดขาด เพราะเขาอันตราย

“ห้ามคิดบ้า ๆ นะลูกหว้า” สลัดความคิดในหัวทิ้ง ก้าวเดินเข้าในห้องนอน

ระหว่างกำลังเอนกายแนบหลังกับเตียงนุ่ม จู่ ๆ เสียงข้อความดังขึ้น ไม่รอช้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นดู

กองทัพ : นอนยัง

“เชอะ!! พอปลดบล็อกรีบส่งข้อความทันทีเลยนะ” ย่นจมูกใส่ข้อความปรากฏในหน้าจอ

ลูกหว้า : นอนแล้ว

กองทัพ : นอนยังไงถึงตอบแชทผมได้

ลูกหว้า : กำลังจะนอนแล้วไง

ครืด!

“โทรมาทำไม” คิ้วโก่งสวยขมวดเข้าหากัน ถึงอย่างนั้นเธอก็กดรับสายอยู่ดี

“มีธุระอะไร ฉันกำลังจะนอน” บอกแบบไม่สบอารมณ์

(ผมคิดถึงคุณ)

“ถ้าคุณเหงามากก็เรียกสาว ๆ ของคุณสิ ยุ่งอะไรกับฉันด้วย”

(หึงผมเหรอ)

“บ้า! ใครหึงคุณ” ตะโกนบอกคนปลายสาย ก่อนได้ยินอีกฝ่ายหัวเราะอย่างขบขัน

“มีธุระอะไร”

(อยากคุยด้วย คิดถึง)

“ฉันจะนอนแล้วแค่นี้แหละ” เธอไม่รอให้คนในสายตอบโต้อะไร กดวางทันที

“ผู้ชายบ้า!” พูดจบ ไม่สนใจโทรศัพท์อีกต่อไปก่อนล้มตัวลงนอนทันใดด้วยความง่วง

เปลือกตาบางของลูกหว้าขยับขึ้นเชื่องช้า หลังจากปรับสภาพคุ้นชินกับแสงแยงตา ไม่ชักช้าจัดการธุระส่วนตัวเพื่อเตรียมทำงานวันแรกจึงไม่อยากไปสาย

ทันทีที่มาถึงบริษัทกลับพบว่ากองทัพให้คนจัดโต๊ะทำงานของตนเองอยู่ในห้องทำงานเดียวกับเขา

“มั่นใจเหรอคะ โต๊ะทำงานของลูกหว้าอยู่ในห้องนี้” เธอหันไปถามข้าวหอมเลขาของชายหนุ่ม ที่เป็นคนพาตัวเองมาอยู่ในห้องนี้

“ใช่ค่ะ เมื่อวานท่านรองแจ้งดิฉันอย่างนี้”

“แล้วถ้าลูกหว้าอยู่ในห้องนี้จะทำงานกับคุณข้าวหอมยังไงคะ” เธอหมายถึงอีกฝ่ายจะสอนงานอย่างไร ไหนจะงานต่าง ๆ ที่ต้องเรียนรู้ในฐานะผู้ช่วย

“งานของคุณลูกหว้า ท่านรองจะเป็นคนจัดการเองค่ะ”

“อะไรนะ!! ลูกหว้าต้องรับงานกับเขาโดยตรงเหรอ” เอ่ยถามเสียงดัง

“ใช่แล้ว” ไม่ใช่เสียงตอบข้าวหอมแต่เป็นเสียงทุ้มของกองทัพซึ่งเดินเข้ามาพอดี

“ขอตัวก่อนนะคะ” ข้าวหอมผละออกจากห้อง ปล่อยให้คนทั้งสองพูดคุยกันตามความสะดวก

“นี่คุณจะเอายังไงกับฉันกันแน่”

“คุณนั่นแหละ รังเกียจอะไรผมขนาดนั้น” ค่อย ๆ เดินเข้าประชิดคนตัวเล็กจนลูกหว้าเกือบล้มเซ โชคดีแขนกำยำคว้าเอวคอดกิ่วได้ทัน

“จะทำอะไร” เอ่ยถามเสียงแผ่ว มือเล็กยกขึ้นดันอกแกร่งเพื่อเว้นระยะห่าง

“ทำอะไรดีล่ะครับ อยู่ด้วยกันสองต่อสอง” เขาแค่อยากแกล้งคนตัวเล็กเล่นเท่านั้น ได้เห็นเธอแสดงท่าทางหวาดกลัวรู้สึกอารมณ์ดี

“อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ”

“ไม่บ้าหรอก” ยังคงไม่เลิกแกล้ง

“นี่คุณทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดเหรอ”

“ที่นี่ไม่มีไก่นอกจากแมวน้อยในอ้อมแขนผม” ฝ่ามือใหญ่เชยคางกลมกลึงขึ้นเพื่อสบตากัน แรงดึงดูดบางอย่างทำให้กองทัพโน้มหน้าเข้าใกล้ริมฝีปากอวบอิ่ม

“อย่าทำแบบนี้” เบือนหน้าหนีไปทางอื่น

“รีบไปนั่งโต๊ะคุณเถอะ ขาดเหลืออะไรบอกผมได้” เขาปล่อยเธอเป็นอิสระแล้วเดินไปยังโต๊ะทำงานตัวเอง

“อะไรของเขา” เอ่ยเสียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน เธอมองเขาครู่หนึ่งก่อนเดินไปนั่ง

งานที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพเป็นงานง่าย ๆ ซึ่งเขายังไม่ได้ให้เธอเรียนรู้อะไรมากนักนอกจากจัดเอกสาร แต่สิ่งที่ทำให้เธอหงุดหงิดมากที่สุดในขณะนี้คือการเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาสะสวยนั่งคลอเคลียกับกองทัพไม่ห่าง ตั้งแต่เช้าจนใกล้เที่ยงยังไม่ยอมกลับสักที

“ทัพขา…เที่ยงนี้กินอะไรดี แพทอยากกินอาหารญี่ปุ่นจัง”

“แล้วแต่คุณเลย” เขาตอบโดยไม่สบตาคู่ควงข้างกายที่ลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ ตั้งแต่เข้ามาในห้อง

“งานยุ่งเหรอคะ”

“อืม”

“ไม่น่ารับผู้ช่วยเพิ่ม” ปรายตามองลูกหว้ารู้สึกไม่ถูกชะตาเอาเสียเลยเพราะอีกฝ่ายเด็กกว่า แถมหน้าตาและรูปร่างตรงสเปกกองทัพทุกอย่าง จนกลัวชายหนุ่มจะคว้าเด็กนั้นแล้วเขี่ยเธอทิ้ง

“ทัพขา…คืนนี้แพทไปหานะคะ คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอตั้งหลายวัน” เธอจงใจเน้นประโยคให้ลูกหว้าได้ยิน เพื่อบ่งบอกให้รับรู้กองทัพคือผู้ชายของเธอ ใครหน้าไหนห้ามแตะต้อง

“…” กองทัพไม่ตอบแต่เหลือบมองลูกหว้า เขาอยากเห็นท่าทีของคนตัวเล็กจะเป็นอย่างไร แต่เธอดันเงียบสงบจนตัวเขาเองนี่แหละเป็นฝ่ายไม่ชอบใจที่เธอไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมาให้เห็น

“ทัพขา แพทรักคุณนะคะ”

จังหวะเดียวกันลูกหว้าบังเอิญเงยหน้าขึ้นจากเอกสารและเห็นภาพตรงหน้า แพทตี้ขึ้นนั่งคร่อมตักแกร่ง ประกบปากจูบกองทัพ

เธอหันหน้าหนีด้วยความรู้สึกปวดหนึบตรงหัวใจ มือนุ่มกุมหน้าอกข้างซ้ายอย่างทรมาน เหมือนใจดวงน้อยกำลังถูกบีบรัดทำเอาหายใจไม่ค่อยสะดวก

‘เป็นอะไรกันนะ ทำไมเหมือนหายใจไม่ออกเลย’ เธอพูดในใจ

“ทำอะไรของคุณ แพทตี้” กองทัพดันคนบนตักออกด้วยความรวดเร็ว ชำเลืองมองอีกคนในห้องซึ่งไม่ยอมหันมามองทางนี้

“อะไรกันคะทัพ มากกว่านี้เราก็เคยทำมาแล้ว” จงใจเน้นเสียงให้ดังขึ้น

“ผมไม่ชอบอย่ามาทำแบบนี้กับผมในที่ทำงาน” สั่งเสียงเข้ม

“งั้นแสดงว่าถ้าเราอยู่กันสองต่อสอง สามารถทำอะไรกันก็ได้ใช่ไหมคะ” ปรายตามองลูกหว้า ยกยิ้มมุมปากอย่างคนเหนือกว่า

“แพทตี้!” จ้องเขม็งคนตรงหน้าปานจะกินเลือดกินเนื้อ

“ขอโทษค่ะ แพทแค่ล้อเล่นเองดุจังเลย” ว่าแล้วกลับไปนั่งเก้าอี้ด้านข้างเขาเหมือนเดิม

จากนั้นภายในห้องอยู่ในความเงียบ ทว่าในใจกองทัพกลับร้อนรุ่มกับการกระทำของแพทตี้ เขากลัวลูกหว้าคิดมากและรู้สึกไม่ดี ทั้งที่ความจริงไม่จำเป็นต้องสนใจความรู้สึกของเธอเลย เพราะเขากับเธอยังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แค่คนที่เขาตามจีบ

“ทัพคะ เที่ยงแล้วไปกินข้าวกันเถอะ”

“อืม” ตอบรับคนข้างกายพร้อมชำเลืองมองลูกหว้า

กองทัพผละออกจากเก้าอี้ตรงไปยังโต๊ะผู้ช่วยสาว มือหนาเคาะลงบนโต๊ะสองสามทีเพื่อส่งสัญญาณแก่เธอ

“ไปกินข้าวกัน”

“อะไรกันคะทัพ ทำไมถึงชวนคนอื่นไปด้วยล่ะ” แพทตี้รีบเดินมาหยุดข้างกองทัพอย่างไวพร้อมคล้องแขนกำยำแสดงความเป็นเจ้าของ

“คนอื่นที่ไหน นี่ผู้ช่วยผม”

“แต่แพทอยากไปกินข้าวกับคุณแค่สองคน” ทำน้ำเสียงออดอ้อน ดันหน้าอกอวบอั๋นแนบแขนแกร่ง

“พวกคุณไปเถอะ” ลูกหว้าตัดความรำคาญโดยการปฏิเสธชายหนุ่ม เธอไม่อยากเอาตัวเองไปใกล้ชิดกับคนทั้งสอง

“ห้ามปฏิเสธลูกหว้า นี่เป็นคำสั่งของเจ้านาย”

“เผด็จการ!”

“ทัพคะ ถ้าผู้ช่วยของคุณไม่อยากไป เราไปสองคนก็ได้นี่คะ”

“อยู่เฉย ๆ แพทตี้ห้ามแทรกตอนผมพูด” หันขวับมองคนข้างกาย

“ขอโทษค่ะ” แอบหงอยนิดหน่อยโดนตำหนิจากเขา

“ไปกินข้าวกันลูกหว้า คุณอยากกินอะไร” ถามอย่างรอลุ้นในคำตอบ

“ทัพคะ แต่แพทอยากกินอาหารญี่ปุ่น”

“แพทตี้!! ผมบอกแล้วอย่าพูดแทรก” จ้องเขม็งหญิงสาวข้างกาย

“แต่คุณกำลังผิดสัญญากับแพท” แพทตี้มองกองทัพอย่างแง่งอน การกระทำของชายหนุ่มยิ่งทำให้ไม่ชอบลูกหว้า

“พวกคุณไปกันเถอะ ฉันมีนัดแล้ว” ลูกหว้าคว้ากระเป๋าบนโต๊ะก่อนหนีออกจากห้อง ทิ้งกองทัพและแพทตี้โต้เถียงตรงนั้น

“ลูกหว้า!!” ตะโกนไล่หลังคนตัวเล็กแต่จะวิ่งตามไม่ได้เพราะแพทตี้รั้งแขนไว้

“ทัพคะ”

“แพทตี้เริ่มทำตัวน่ารำคาญแล้วนะ” ปรายตามองมือเรียวจับท่อนแขนแกร่ง เขาสะบัดอย่างไม่ไยดีและก้าวยาว ๆ หมายจะตามลูกหว้าให้ทัน

“ทัพ ทัพ” สุดท้ายกองทัพไม่เหลียวมองทำให้เธอเจ็บใจ

“ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันเอาคืนนังเด็กเมื่อวานซืนอย่างแกแน่นอน” กำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์โทสะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel