บท
ตั้งค่า

4

จอมทัพยืนพิงขอบบานประตูคิดเรื่องปวดใจ นึกหยันตนเองที่จำเรื่องราวที่ผ่านเหมือนเพิ่งเกิดเมื่อเช้านี้เอง หัวใจดื้อไม่ยอมโอนอ่อนแม้เขาพร่ำบอกมันว่าไม่มีอะไรให้นึกถึงต่อไป ผู้หญิงคนนั้นบัดนี้ คงมีความสุขกับเพื่อนใจคดที่ทำเขาเสียอกเสียใจ เพราะทั้งสองเพิ่งแต่งงานกันไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนตามข่าวที่เขาต้องทนรับรู้อย่างเลี่ยงไม่ได้

ใครจะคิดยังไงก็ช่างหากไม่เจอเขาในงานแต่งวันนั้นเพราะเขาไม่สามารถเดินไปโอบกอด ดื่มกินฉลองได้… ทำไม่ได้จริงๆ แค่คิดว่าต้องเห็นหน้าภูบดินทร์เขาก็อยากจะอาเจียนออกมาเสียแล้ว

แต่ให้เลิกนึกถึงความหลังมันก็แสนจะยากเย็นนัก

ชายทะเลเมืองพัทยาหลายเดือนก่อน

คืนนั้นเขาสารภาพรักกับ พรรณธิดา หลังจากคิดว่าไม่อยากรออีกแล้ว

ใต้แสงจันทร์เสี้ยว ดวงดาวที่เกลื่อนนภาเขาหวังว่าค่ำคืนนั้นหญิงสาวจะใจอ่อน ยอมรับรักเขาซะทีหลังจากเธอปฏิเสธเขาด้วยการกระทำมาเนิ่นนาน…ชายหนุ่มคิดว่าเขายังมีสิทธเพราะเธอเองก็ยังไม่มีใครเท่าที่เห็นอยู่

เขาเห็นหญิงสาวที่หลงรักหลับตาอธิษฐานเมื่อดาวตกลงมาจากฟากฟ้าที่นั่งจ้องมอง ตอนนั้นเขาเผลอมองใบหน้าหวานด้วยใจที่ไม่ปิดความนัย แล้วเขาก็จับมือเธอขึ้น

เขาใช้หัวใจกลั่นกรองสิ่งที่ต้องการ “ผมจะอยู่ข้างๆ หากคุณไม่มีใคร” เขาพูดเสียงเบาหวิวเคล้าสายลม

แล้วเขารอด้วยหัวใจที่เต้นเร็วรี่ วาดหวังคำตอบจะไม่ใช่การปฏิเสธ แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวัง ตลอดกาล คืนนั้นเขารู้ดี มันจะไม่มีคำขอครั้งต่อไปเพราะเธอบอกเขาเป็นนัยแต่ความหมายชัดเจนสำหรับเขาว่า

“เอ่อ…ค่ะ ขอบคุณมาก… เอ่อ เราเป็นเพื่อนกันหากคุณทิ้งฉันก็เลิกคบกันไปเลย”

เพียงเท่านั้นเขาก็ปรับสีหน้าตนเอง พยายามทำร่าเริงทั้งๆ ในหัวใจแห้งผาก รวดร้าว จะให้เขาหน้าด้านหน้าทนเมื่อสาวเจ้าบอกทุกอย่างกระจ่าง เขาไม่อยากดึงรั้งให้เธอต้องลำบากใจ สุดท้ายเขาก็คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากเพื่อน เขาควรยอมรับใจตนเองและใจของเธอให้ได้…แต่เขายังจำความเจ็บปวด ความเสียใจที่จำต้องหลบซ่อนคืนนั้นได้ดี…มันช่างทรมานภายใต้น้ำเสียงร่าเริงเขาเจ็บปวดมากเหลือจะกล่าว

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเจ็บเจียนตายไม่ใช่สิ่งนั้นหรอก เพราะมีอีกเรื่องที่เขาเจ็บมากกว่าและเกิดขึ้นตอนเช้าตรู่เมื่อเขาเดินออกจากห้องพัก

เขาใจด้านชา ไม่รู้จะขอคำอธิบายจากใคร

เช้านั้นเขาเห็นภูบดินทร์และพรรณธิดาผู้หญิงที่ปฏิเสธเขา ทั้งสองเดินโอบกอดกันเข้าไปในห้องหญิงสาว เขาสับสน หวาดหวั่นไปหมด เขาไม่เข้าใจมันจะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร สองคนนั้นแทบจะไม่พูดคุยกันเวลาอยู่ต่อหน้าใครๆ

และแล้ว พอลงมาด้านล่างตัวบ้านเขาจึงได้ยิน คุณหญิงภูวดีและนมชวนชื่น มารดาของภูบดินทร์และคนสนิทคุยกันว่า

“ต้องแต่งทันทีสิชวนชื่น ถ้าหนูดาท้องจะลำบาก ฉันดูออกว่าตาภูมีใจให้หนูดามานานแล้ว เธออย่าทำหน้าอย่างนั้น อย่าบึ้งใส่เขาเลยเรื่องคู่หมายตาภูฉันจะจัดการเอง”

“น่าสงสารคุณจอมทัพ เธอจะคิดยังไงคะ ดิฉันกลัวจะผิดใจกันนัก ดิฉันไม่เข้าใจคุณภูเลย”

จอมทัพรับรู้เพียงเท่านั้นก็กระจ่างในทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อนเขากับพรรณธิดาคบหามีสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งและคุณหญิงภูวดี จะให้ทั้งสองได้แต่งงานกัน

ทุกอย่างเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจ หัวใจเขาด้านชา และต่อมาเจ็บปวดรวดร้าวคูณหลายหมื่นหลายล้านเท่า เขาไม่อยากรับรู้ คิดอะไรให้ใจเจ็บ เขารีบออกจากบ้านพักแห่งนั้น เขาไม่อยากเห็นสายตาสงสาร สมเพชจากใคร โดยเฉพาะเพื่อนอย่างภูบดินทร์ เขาจะต้องอยู่ให้ไกลจากเรื่องราวบ้าบอที่ทำให้ใจเขาเป็นแผลแหวะหวะ และมีเลือดหยดไหลริน…

จอมทัพเปลี่ยนไป๋! สุรชาติ หันหน้ากลับจากต้นดอกรักพุ่มพอเหมาะซึ่งอยู่ในกระถางสีอิฐหน้าบ้านพักหลังในอดีตของเพื่อน หนุ่มร่างยัก์อย่างที่หลายคนให้ฉายาซุกมือถือใส่กระเป๋าหนังที่คาดช่วงเอวเป็นประจำ ระหว่างเดินกลับที่พักตนสุรชาตินึกถึงเพื่อนที่หายเงียบหลบหน้า ตอนนี้จอมทัพกลายเป็นคนยิ้มยากเมื่อชวนพูดเรื่องชวนขัน สุรชาติสังเกตเพื่อนมาตลอดเมื่อหลายเดือนก่อน หลังจากกลับมาจากกรุงเทพ แต่ตอนนี้เมื่อได้คิดอีกครั้งว่าอีกนานคงจะได้พบจอมทัพอีก สุรชาตินึกสงสัยนัก ทำไมน่า ทำไม จอมทัพต้องลาออกจากงานที่นี่ด้วย…ยิ่งคิดยิ่งเซ็งจิตจริงๆ

“หากฉันต้องจากที่นี่ฉันจะไม่ลืมแวะเวียนมาหานายหรอกชาติ นายเป็นเพื่อนแท้แม้เจอกันไม่นาน” เพื่อนซึ่งอายุมากกว่าแค่ปีเดียวทำซึ้งก็เป็นในก่อนหน้า สุรชาติคิดขำ

แต่บัดนี้สุรชาติให้แปลกใจนักกับดวงตาซึ้งปนเศร้าเมื่อวันนั้นของเพื่อน ตอนที่ทั้งสองเข้าเมืองเพื่อหาอาหารและเครื่องดื่มหลายอาทิตย์ก่อน อยากจะถามว่าจอมทัพเอาจริงหรือแต่ตอนนั้นไม่กล้า คิดว่าจะหาโอกาสถามเมื่อเพื่อนอีกที ทั้งคิดหาหนทางให้เพื่อนกลับมายิ้มแย้มเหมือนเดิม แต่ขณะนี้เพื่อนหายตัวไปจะทำให้เพื่อนยิ้มได้ยังไงกัน แล้วอีกเรื่องจะแจ้งจอมทัพได้ยังไงว่ามีคนติดต่อว่าจะขึ้นมาหา

สุรชาติถอนใจเฮือกใหญ่โตเดินครุ่นคิดว่าจะบอกผู้หญิงที่โทรยิกๆ ว่าจะมาหาเพื่อนอย่างไรดี

ชายหนุ่มที่มาทำงานไกลบ้านด้วยเหตุผลบางอย่างก้าวเดินออกจากบ้านพักหวาดวิตกกลัวเพื่อนจะบึ้งตึงคิ้วขมวดกว่าเดิมได้หากเขาปากโป้งถือวิสาสะบอกที่อยู่ไป สุรชาติได้แต่ภาวนาให้ผู้หญิงคนนั้นตัดสินใจกลับกรุงเทพไปเสียเขาจะได้ไม่รู้สึกผิดที่โกหกหญิงสาวคนนี้ไปเรื่อยๆ เรื่องไม่ทราบที่อยู่จอมทัพ

คิดอีกทีสุรชาติก็อยากให้เพื่อนเปิดสัณญาณมือถือและรับสาย เพราะคิดว่าเสียงผู้หญิงคนที่ติดต่อมาเสมอคนนี้อาจเป็นฉนวนเรื่องราวลืมยิ้ม ลืมหัวเราะทั้งเรื่องลาออกจากงานของจอมทัพ บางทีอาจเป็นแฟนที่กรุงเทพ เข้าใจผิดกันแล้วตามมาง้อ สุรชาติคิดเป็นตุเป็นตะ

ความรักนี้มันวกวน ซับซ้อนแทบทุกคนหรือ จะมีใครมีรักแล้วไร้การทะเลาะ ไร้ปัญหาบ้างน่า หนุ่มร่างสูงใหญ่คิดอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel