เอื้อมรักพรางใจ

97.0K · จบแล้ว
ลิขิตนางฟ้า
59
บท
4.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอหลงรักเขามาเนิ่นนาน จอมทัพ ผู้ชายที่อ่่อนโยน ใส่ใจคนรอบข้าง เมื่อเขาเจอกับความเจ็บปวดเรื่องความรัก ภูริชญาหวังว่ารักแท้ที่มีให้เขาจะทำให้เขาหายปวดใจ แต่ไม่ใช่เลย เธอกำลังเอื้อมหัวใจที่ไม่เคยเห็นคุณค่าในความรักเธอเลย

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆดราม่ารักแรกพบโตมาด้วยความจำเสื่อมเศรษฐีโรแมนติก

1

จอมทัพ พิชัยเดโช ปิติสกุล คือทายาทคนแรกของ เทพ ปิติสกุล มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์อับดับต้นๆ ของเมืองไทย จอมทัพเข้าราชการกรมป่าไม้ได้สองปีกว่าก็ต้องปิดฉากกับงานที่รักด้วยความจำใจ

ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดปีสีผิวเข้มร่างสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรยังไม่ได้เก็บเสื้อผ้าของใช้ออกจากบ้านพักซึ่งอุดมด้วยธรรมชาติและแนวภูเขาร่ายรอบ มีเพียงบางชิ้นที่สวมใส่เสมอเท่านั้นที่ติดเป้คู่ใจ เขาแวะมาหา สุรชาติ สุวรรณประทีปเพื่อนร่วมงานเก่าซึ่งสนิทที่สุด เดินถึงรถยนต์แลนโรเวอร์เวอร์สีขาวคู่ใจซึ่งจอดอยู่ใต้ต้นหูกวางต้นใหญ่ ร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีกากี กางเกงยีนสีดำตัวโปรดกระชับหมวกแก็ปสีดำบนศรีษะให้แน่นขึ้นรวมทั้งแว่นกันแดดฉาบปรอทสีชาบนใบหน้า

ตอนแรกเท้ายาวตั้งท่าจะก้าวขึ้นรถแต่แล้วก็เปลี่ยนใจยืนทิ้งตัวพิงประตูรถเสีย มือข้างขวาหยิบซองบุหรี่ซึ่งนานทีจะพกพาขึ้นจุดไฟจ่อปลายบุหรี่ ริมฝีปากหยักอัดบุหรี่มวนเล็กแรงๆ อย่างคนเบื่อโลกเต็มประดา

สองปีก่อนที่สอบบรรจุเป็นนักวิชาการกรมป่าไม้ณ อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ได้ เขามีความสุขมาก การเข้าทำงานที่รักเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากซึ่งหนักหนากว่าข้อสอบที่เข้าพิชิตมาคือการไปเจรจากับบิดาเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตอย่างต้องการ ตอนแรกมีกำลังใจความหวังให้ตนเองแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้นแต่เขายังไม่ทิ้งความตั้งใจ จนกระทั่งมารดารู้ ท่านรับปากช่วย ความหวังของเขาก็พุ่งสูงเหมือนปรอทในน้ำต้มเดือดและแน่นอนที่สุด เขาสามารถไขว่คว้าความฝันได้ดั่งที่ใจวาดหวัง

ทุกอย่างผิดคาด บิดาที่เข้มงวดเรื่องการเรียน ทั้งกวดขันและพร่ำบอกเรื่องเข้าดูแลธุรกิจให้ก้าวหน้ากลับไม่ว่าอะไร ปล่อยให้เขาโบยบินออกมาจากกฎเกณฑ์ที่ท่านวางไว้มานานแสนนาน

“คุณพ่อกวดขันลูกเรื่องเรียน เพราะอยากให้เข้าไปดูแลธุรกิจนะลูก อย่าเครียดเลย แต่หากลูกอยากทำงานด้านอื่นแม่จะพูดกับคุณพ่อเอง ท่านคงรับฟังบ้าง ธุรกิจของเราให้ นคร ดูแลก็ได้ยังไงน้องก็ต้องเข้าใจจอมเหมือนกันนะลูก แล้วคุณพ่อก็ทราบดีทางบ้านแม่น่ะเขาหวังอยากให้ลูกดูแลธุรกิจของ พิชัยเดโชเหมือนกัน คุณยายพูดกับลูกแล้วนี่น่าแม่รู้”

นงพงา พิชัยเดโช มารดาปลุกปลอบให้กำลังใจเมื่อเขาบอกความประสงค์ด้านการทำงานที่รัก ทั้งพูดเรื่องที่คุณยายซึ่งมีลูกสาวคนเดียวคือมารดา … แน่นอนคุณยายท่านหวังจะให้เขาดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจของพิชัยเดโชแทนมารดาเช่นกัน เขาทราบข้อนี้มานานแล้ว

ทว่าตอนน้ำลังเดการเปลี่ยนแปลง

เมื่อก่อนยอมง่ายดายแล้ววันนี้เป็นอะไรไปทำไม? บิดาถึงเรียกตัวเขากลับ และอีกเช่นเคยคราวนี้มารดาก็เข้ามาพูดกับเขาเอง จอมทัพพ่นสายหมอกยาวออกจากเรียวปากหยักลึกเรื่อยเอื่อย คิดหาคำตอบที่ยังไม่กระจ่างหัวใจ

“กลับมานะลูก กลับมาดูแลธุรกิจของที่บ้าน แล้วแม่จะบอกลูกถึงเหตุผล”

มารดาโทรหาตอนเขาอยู่ชายทะเลบ้านพักตระกูลภูวเดช คืนนั้นเขานอนไม่หลับทั้งคืน ปรับตัว หัวใจปรับแทบไม่ทันกับเรื่องที่ได้รู้ และเขารู้ดีครั้งนี้เป็นเสมือนคำสั่งประกาศิตเด็ดขาด เมื่อเริ่มคิดแล้วจอมทัพก็นึกถึงเรื่องราวที่เกี่ยวโยงเรื่องนี้ขึ้นมาจนเกิดอารเครียด เรื่องราวอีกเรื่องที่ทำให้เขาไม่อยากกลับไปกรุงเทพ

บ้านพักภูวเดชเป็นทรงโมเดรินท์เรียบหรู อยู่ชายหาดแสนสวยเมืองพัทยา เป็นของอดีตเพื่อนรัก นามว่า ภูบดินทร์ ภูวเดช บ้านหลังนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ชีวิตเขา เห็นจะกล่าวแบบนั้นได้ จอมทัพโทษสถานที่ซึ่งไร้ชีวิตจิตใจ อย่างคนหาที่ระบายไม่ได้เมื่อเครียดกับเรื่องปวดใจที่ได้รู้ถึงสองเรื่อง…คิดว่าบ้านหลังนั้นที่เคยไปมานับครั้งไม่ถ้วนเข่นฆ่าความสุข ความทรงจำของตนทิ้งหมดแล้ว หมดแล้วจริงๆ

แม้นบางครั้งคิดว่าเขาอ่อนแอไปหรือเปล่าที่เอาเรื่องราวเหล่านั้นมาใส่ใจ แต่เมื่อครุ่นคิด มันไม่ใช่ความอ่อนแอหรอกที่เขาเป็น แต่เป็นการเสียความรู้สึกดี ที่มีร่วมกันมาช้านานต่างหากเล่า…

เช้าวันนั้นการไปพักตากอากาศของเขาต้องไร้ซึ่งความสุข คือการที่ได้เห็นภูบดินทร์และผู้หญิงที่ชื่นชอบเข้าหายไปในห้องด้วยกัน

จอมทัพยกตำแหน่งเพื่อนรู้ใจให้ผู้ชายสองคนในชีวิตนี้ คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มผิวขาวหล่อเหลา โลกส่วนตัวค่อนข้างสูงภูบดินทร์ อีกคนนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงพ่วงตำแหน่งนายแบบสุดฮอต กรุง นาคราช

ทว่าด้วยเรื่องราวเหล่านั้นที่ทำร้ายหัวใจรักแรกของเขาให้พังลง เขาชักไม่แน่ใจว่าเพื่อนรักทั้งสองคนยังเห็นเขาเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่าโดยเฉพาะ ภูบดินทร์

คิดถึงเพื่อนรักทั้งสองแล้วเสียใจเหลือเกิน จอมทัพจึงหันไปไคร่ครวญเรื่องปัญหาหนักอกอีกเรื่องแรกเสีย นั้นคือเหตุผลที่มารดาจะบอก ชายหนุ่มบอกตนเองเรื่องนี้สิสำคัญกว่า เรื่องรัก กับเพื่อนที่ไม่จริงใจเขาจะไม่ใส่ใจมัน จะไม่ยอมให้มันมามีอิทธิพลในหัวใจอีก แต่นั่นแหละเขาจะทำมันได้ดีอย่างที่คิดหรือเปล่าเวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้

ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งหันมาคิดถึงปัญหาที่บิดาเจอะเจอ ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจที่บ้านนั้นเขารู้ดีว่าที่ผ่านน้องชาย นคร ปิติสกุล ซึ่งอายุห่างกันเพียงปีเดียวดูแลธุรกิจได้ดีเยี่ยม เรื่องปัญหาทางธุรกิจย่ำแย่จนบิดาต้องเรียกตัวเขากลับกรุงเทพนั้นสามารถตัดข้อนี้ออกไปได้ เรื่องราวปวดเศียรเวียนขมองวิ่งวุ่นมีให้ขบคิดต่อเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน

“คุณจอมทัพครับ” เสียงเรียกจาก สุรชาติ เพื่อนซึ่งสนิทกันมาเกือบสามปีนั่นเอง จอมทัพหันมองคีบมวนบุหรี่ที่หายไปครึ่งมวนออกจากปากหยักได้รูป มือแกร่งอีกข้างถอดหมวกแก็ปออกจากศรีษะไม่ได้สนใจเสยผมดำสนิทที่เรียบแป้ลให้เข้าทรง

สุรชาติเป็นเพื่อนสนิทซึ่งพูดจาไพเราะเสนาะหูแตกต่างกับอดีตเพื่อนที่เคยเล่นหัว พูดกัดแขวะ จอมทัพถามสาเหตุที่สุรชาติเดินตามมาและเรียกหาตนเอง “มีอะไรหรือชาติ”

“มือถือคุณล่ะ คุณแม่คุณโทรมาครับ” สุรชาติหนุ่มร่างใหญ่ยืนใกล้จอมทัพสอบถามไม่ลืมยื่นธุระที่ทำให้เขาต้องเร่งเดินตามมาดูว่าจอมทัพกลับไปหรือยัง

จอมทัพนึกได้ว่าทิ้งมือถือไว้ในรถ ขอบใจสุรชาติซึ่งยื่นมือถือของตนเองให้เขา มือข้างที่คีบบุหรี่ขยี้สิ่งที่เกะกะในตอนนี้ทิ้งในถังขยะใกล้มือ

มารดาโทรหาสุรชาติเสมอหากติดต่อเขาไม่ได้ แม้ไม่อยากรับสายแต่จอมทัพก็ต้องรับ “ครับคุณแม่ ครับ อย่างที่บอกไปขอเวลาผมสามเดือนนะครับ ขอเวลาผมบ้าง” จอมทัพเดินห่างจากถังขยะคุยกับมารดา “ผมไม่เป็นไรหรอกครับ…แค่สองเดือน….ก็ได้ครับคุณแม่…ขอบคุณครับ” ตอบมารดาไปเมื่อท่านถามอีกครั้งว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่าและตกลงเมื่อมารดาต่อรองการพักผ่อนของเขาเหลือเพียงสองเดือน ระหว่างคุยกันจอมทัพอยากถามหาบิดาแต่เขารู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อมคุยกับท่านเลยตัดใจวางสายลง

หึ จะให้บอกมารดาไป ว่าเขากำลังอกหัก และเครียดเรื่องที่ท่านขอร้องเลยขอพักสักระยะหรือ โดยเฉพาะเรื่องแรกมันตลกสิ้นดี

มุมปากหยักยิ้มหยันให้ตนเองหาใช่ใครอื่น ส่วนสายตาคมเข้มซึ่งซ่อนอยู่ใต้แว่นกันแดดราคาแพงนั้นทอดมองภูเขาสูงเขียวขจี ฝูงนกที่บินกลับรังในเวลาย่ำเย็น…เขานึกอิจฉาฝูงนกนั่นเหลือเกิน มันอิสระเสรีอยากไปไหนก็ได้ตามแต่ใจฝัน…แล้วเขาเล่า…เขาไม่มีอิสระ หากเคยมีบ้างชีวิตแบบนั้นคงหยุดลงจากวันนี้สืบไป…และคงไม่มีใครเข้ามาเป็นตัวช่วยอีกแล้ว

เขาไม่เหลือใครแม้แต่เพื่อน