บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 กลัวดอกพิกุลร่วง

“พี่ชายพั้นช์ย้ายมานั่งโต๊ะเราเหรอวะ” นาวินโน้มกระซิบกระซาบข้างหูน้ำพั้นช์ เพราะด้วยภายในร้านเปิดเพลงเสียงดังเลยต้องโน้มไปพูดใกล้ ๆ “มีอาจารย์คณะพั้นช์ด้วยแหะ อึดอัดตาย!”

“ยัยพั้นช์~ มานี่เร็ว” ต้นหลิวควักมือเรียกแล้วดึงเพื่อนให้มานั่งข้าง ๆ พี่ชาย ถัดจากทิวาคืออาจารย์จิณณะ “ทำไมไม่เคยบอกฉันเลยว่ามีพี่ชายหล่อขนาดนี้เนี่ย”

น้ำพั้นช์นั่งหลังตรง ตัวแข็ง ไม่กล้าที่จะหันไปด้านข้างที่ทิวานั่งติดกับเธอ

“ใช่ วันก่อนเราไปเที่ยวน้ำตกใกล้รีสอร์ทแก ฝนตกหนักแทนที่จะชวนเพื่อนไปพักที่รีสอร์ทตัวเอง แต่ต้องให้ฉันขับรถวนหาที่พักอยู่ได้” ปาร์ตี้บ่นเรื่องเก่าให้ทิวาฟัง

“พูดมาก จะดื่มไหมไวน์อ่ะ ไม่ดื่มก็กลับ”

“ดื่มสิดื่ม พี่ชายแกอุตส่าห์เป็นเจ้ามือ”

คราวนี้น้ำพั้นช์ถึงกับหันไปสบตากับร่างสูง เขาเข้ามาทำความรู้จักกับเพื่อนเธอทำไมกัน แทนที่จะเว้นระยะ อยู่ห่าง ๆ จะได้ไม่ต้องลำบากใจต่อกัน

“ฉลองเรียนจบทั้งที ลืมที่ปรึกษาวิจัยอย่างผมได้ไงครับ”

“หนูกลัวอาจารย์จะอึดอัดอ่ะค่ะ เลยไม่ได้ชวน ขอโทษนะคะ” น้ำพั้นช์เอ่ยตอบผ่านหน้าทิวา ทั้งคู่ชะโงกหน้าคุยกันอย่างอ่อนหวานและนิ่มนวล ใบหน้าหวานอมยิ้มทุกครั้งที่ได้พูดคุย

ผิดกับเวลาคุยกับทิวา เอาแต่ก้มหน้า หลบตา อย่างกับคนไม่เคยใกล้ชิดกัน!

ฟุ่บ!

ทิวาโน้มตัวอย่างไวมาด้านหน้า ทำให้สองสองที่คุยกันต้องดีดตัวไปด้านหลังทันที น้ำพั้นช์ยิ้มเฉื่อย ๆ ส่วนอาจารย์จิณณ์เข้าใจว่าพี่ชายกำลังห่วงน้องสาว

“ผมเข้าใจครับ น้องสาวสวยขนาดนี้ จะห่วงก็ไม่แปลก”

“เปล่านี่ครับ คุยตามสบายเลยครับ เมื่อกี้ผมแค่จะรินไวน์ ไม่ได้ห่วงหรือหวงอะไรทั้งนั้น!” ประโยคแรกเขาพูดกับอาจารย์จิณณะ ประโยคหลังหันมาพูดใส่คนตัวเล็ก

“ฉันคิดว่าพี่ชายแกจะไม่พูดซะแล้ว” ต้นหลิวกระซิบบ้างเพราะตั้งแต่เขาเข้ามาขอเป็นเจ้ามือ จากนั้นก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา จนต้นหลิวกับปาร์ตี้เข้าใจว่าเป็นสายหล่อเย็นชาซะอีก

“ตอนนิ่งก็หล่อ แต่พอพูดโคตรน่ากลัว ฉันกลัวพี่ชายแกมากกว่าอาจารย์จิณณ์อีก” ปาร์ตี้เอ่ยบ้าง

“สงสัยกลัวดอกพิกุลจะร่วงมั้ง” น้ำพั้นช์เชืยดนิ่ม ๆ อย่างกะคนโกรธเคืองกันมา

“แร๊งงงง!” ทำเอาปาร์ตี้มองหน้าต้นหลิวแล้วลากเสียงยาว

“แรงพอ ๆ กันเลยพี่น้องคู่นี้”

“ต้นหลิวลุกขึ้นมานั่งข้างฉัน” นาวินเริ่มจะโวยวายเพราะทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน

“ฉันจะนั่งตรงนี้” ต้นหลิวเชิดหน้ากระดกไวน์ไม่สนใจเสียงเรียกจากเพื่อนต่างคณะ

“ยัยตี้! ออกไปดิ” กลายเป็นว่าคนที่ต้องขยับออกคือปาร์ตี้แทน เมื่อนาวินกระชากแขนให้ลุกขึ้นเพื่อจะนั่งแทนที่ข้างต้นหลิว

“แหม่~ ไม่นั่งใกล้กันจะตายไหม” ปาร์ตี้ฝัดฟัดกระแทกเสียงใส่นาวินรู้ทันความคิดที่จะเคลมต้นหลิว จากนั้นก็ลุกขึ้นไปโต๊ะข้าง ๆ เพราะโต๊ะตัวเองมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยถึงสองคน ความสนุกจึงลดลง

ส่วนนาวินเมื่อได้นั่งใกล้แต่ต้นหลิวไม่สนใจก็เลยหันไปสนใจแก้วไวน์แทน

การฉลองเรียนจบผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่ไม่มีทีท่าใครจะกลับ จนตอนนี้นาวินและปาร์ตี้ก็เริ่มจะเมา อาการเลื้อยไปเลื้อยมาจึงเกิดขึ้น

“ฉันว่าฉันพาไอ้วินกลับก่อนดีกว่า ดูท่ามันจะไม่ไหวแล้ว” ต้นหลิวจับต้นแขนนาวิน “อยู่นิ่ง ๆ ดิวะ ตัวหนักอย่างกะควาย”

“ม่ายเมาวว~ คายเมาวะ” นอกจากท่ายืนที่ไม่ปกติ คำพูดคำจาตอนนี้แทบจะฟังไม่รู้เรื่อง

“หมามั้งที่เมา ไปกลับได้แล้ว”

น้ำพั้นช์มองตามหลังต้นหลินและนาวินออกไป เธอเองก็ต้องถอนหายใจเพราะต้องแบกยัยปาร์ตี้สายเมากลับหอเพียงลำพังอีกแล้ว

“ตี้ลุกไหวไหม”

“มะไหว แกอุ้มฉันหน่อยสิ” ปาร์ตี้ยื่นมือขอความช่วยเหลือ

“มาเร็ว” น้ำพั้นช์ทำท่าจะเข้าไปประคอง แต่ร่างสูงอีกคนเข้ามาประคองแทน

“เดี๋ยวผมช่วยครับ” อาจารย์จิณณะเอาตัวเข้าไปสอดใต้รักแร้แล้วยกตัวปาร์ตี้ยื่นขึ้น

“ไม่เป็นไรค่ะอาจารย์” น้ำพั้นช์จับแขนเพื่อนอีกฝั่งไว้

“น้ำพั้นช์ไม่ไหวหรอกครับ เดี๋ยวผมประคองปกรณ์ไปที่ให้เอง”

“เอางั้นก็ได้ค่ะ”

เมื่อทั้งคู่ตกลงกันเสร็จสรรพก็พากันออกจากร้านไปลานจอดรถ น้ำพั้นช์ไม่ได้หันมาสนใจชายหนุ่มอีกคนที่เป็นเจ้ามือ นัยน์ตาคมมองตามออกไปด้วยสายตาบางอย่าง

ใช้เวลาสิบห้านาทีน้ำพั้นช์ขับรถมาถึงหอพักตัวเอง เป็นหอพักรวมชายหญิง ซึ่งห้องพวกเขาพักด้วยกันสามคน มีน้ำพั้นช์ ต้นหลิว และยัยปาร์ตี้สายเลื้อยขี้เมา

“คุณทิวา…” แต่เพียงเปิดประตูรถลงมาเพื่อจะสาวเท้าไปเปิดอีกฝั่ง เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับคนที่แยกกันตั้งแต่ในผับแล้ว เขาตามมาทำไม แล้วเขารู้ได้ไงว่าเธอพักที่นี่

“เดินนำไปสิ” ทิวาเอ่ยเพียงเท่านั้นก็เป็นฝ่ายไปเปิดประตูรถเพื่อประคองปาร์ตี้ลงจากรถ

น้ำพั้นช์เลือกที่จะทำตาม เดินนำเข้าไปด้านในห้องพัก จนกระทั่งถึงหน้าห้องตัวเอง เธอเลยยื่นมือเพื่อรับเพื่อนกลับมาประคองเอง

“ส่งเพื่อนพั้นช์มาค่ะ”

“เปิดประตู” เขาสั่งเสียงนิ่ง

“ถึงห้องแล้ว เดี๋ยวพั้นช์…”

“เปิดประตู!” คราวนี้เสียงนิ่งเย็นกว่าเดิม

คนตัวเล็กรู้ทันทีว่าต้องทำตามห้ามขัดใจและดูจากสภาพที่ทิวาต้องรับมือกับเพื่อนที่กำลังเป็นไม้เลื้อยจับนู่นจับนี้ เธอจึงรีบไขกุญแจเปิดประตู ก่อนที่เพื่อนของเธอจะแผลงฤทธิ์มากกว่านี้

เมื่อทิวาประคองปาร์ตี้จนถึงเตียงตัวเองเรียบร้อย น้ำพั้นช์ก็เข้ามาช่วยพลิกร่างเพื่อนให้นอนเป็นที่เป็นทาง

“แก นอนดี ๆ เดี๋ยวฉันล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้” เสียงหวานเอ่ยบอกเพื่อน น้ำพั้นช์ลุกจากเตียงแล้วมาหยุดหน้าทิวา “ขอบคุณมากนะคะ ไม่มีอะไรแล้ว คุณทิวากลับไป…”

เป็นอีกครั้งที่เธอพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็ขัดซะก่อน

“พี่จะอยู่ด้วย รอจนกว่าเพื่อนพั้นช์อีกคนกลับมา”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

“อยู่กับผู้ชายสองต่อสองในสภาพแบบนี้ ยังมีบทเรียนไม่พออีกเหรอ”

คำพูดของทิวาตรงไปตรงมา คนที่รู้ดีถึงกับพูดไม่ออก ถึงแม้จะมั่นใจว่ามันไม่เกิดกับยัยปาร์ตี้แน่ ๆ

“แล้วไม่ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพื่อน ปล่อยไว้อย่างนี้นี่แหละ”

“ไม่ได้ค่ะ เหงื่อเต็มเสื้อเลย”

“พั้นช์!” ทิวาเรียกชื่อคนตัวเล็กเสียงเข้ม

ทำเอาน้ำพั้นช์สะดุ้งตกใจกับท่าทีพวกนั้น

“ปล่อยเพื่อนไว้แบบนี้…แล้วเดินตามพี่ออกมา!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel