บทที่ 1 ตอนที่ 4
"กำลังชื่นชมข้าอยู่เช่นนั้นรึ...ท่านหญิง" บุรุษรูปงามแสยะยิ้มเหยียด กระตุกให้หล่อนหลุดตื่นจากภวังค์
"ข้า..."
"ข้าไม่รู้หรอกว่าเกิดเหตุไดขึ้นกับเจ้า ข้าพบเจ้านอนไร้สติอยู่เบื้องนอกนั่น...ท่ามกลางหิมะ"
"ไม่ใช่ฝันหรอกหรือ" หล่อนรำพึงเสียงแผ่ว
"เจ้าถูกคนตามล่าหรอกรึ..."
"นี่ท่าน..." โรเซียร์นึกแปลกใจที่ได้ยินคำกล่าวในสิ่งที่หล่อนกำลังประติดประต่อ และหากนึกย้อนดีๆ ก็พบว่าสถานที่สุดท้ายก่อนสติสิ้นสูญหล่อนอาจอยู่ในป่าต้องห้าม ซึ่งหล่อนเอง...ก็ไม่รู้จักมันเช่นกัน
"อย่าบอกนะว่าท่านอ่านใจข้าอยู่"
"ข้าอ่านสีหน้าเจ้าต่างหาก...ตื่นตระหนก หวาดกลัว สับสน" ลูฟเอียงใบหน้าคล้ายกำลังพิจารณาอย่างละเอียดถึงลมหายใจ
"เมื่อเจ้าฟื้นแล้วก็ควรไปจากที่นี่ซะ ข้าจะให้คนไปส่ง" กล่าวเช่นนั้นแล้วร่างใหญ่ของลูฟก็ลุกยืนหันหลังให้ หญิงรับใช้สองนางจึงจัดการเดินมาที่เตียงอีกครั้ง
"มาทางนี้เถอะท่านหญิง ข้างนอกหิมะตกหนักท่านต้องหาเสื้อผ้าหนาๆ สำหรับใส่เดินทาง"
กะทันหันถึงเพียงนี้เชียว...โรเซียร์พร่ำอยู่ในใจ หล่อนเพิ่งจะตั้งสติได้ว่าตนเองยังมีลมหายใจอยู่ กลับถูกเชิญให้กลับไปยังที่ที่มาอย่างเร่งด่วน ราวถิ่นนี้กำลังเกิดสงครามล้างเผ่าพันอย่างไรอย่างนั้น
"ข้า...ไม่มีที่ไป"
"บ้านเจ้า...ครอบครัวของเจ้าท่านหญิง พวกเขาคงรอคอยและเจ้าไม่เหมาะจะอยู่ที่นี่นานนัก ไปเตรียมตัวเถอะ" ลูฟยังไม่ได้หันหน้ามามอง หล่อนเห็นแต่แผ่นหลังที่คลุมด้วยผมยาวเฟื้อยดำเป็นเงา รูปร่างของชายผู้นี้ช่างองอาจและน่าเกรงขามยิ่งนัก และยังดึงดูดให้โหยหาได้อย่างแปลกประหลาดที่สุดอีกด้วย
"ไม่มี...ข้าไม่มีใครอีกแล้ว..." ประโยคนั้นของหล่อนเอ่ยออกมาพร้อมน้ำตาที่ร่วมผล็อย ภาพเหตุการณ์วันเก่าตอกย้อนคืนหวนราวมันกำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาครั้งแล้วครั้งเล่า
"ถูกล่า...เช่นเดียวกันอย่างนั้นรึ"
"..." โรเซียร์ไร้แรงใจจะตอบคำถามนั้น หล่อนสะอื้นลุกนั่งชันเข่าและซบใบหน้าหม่นหมองหนีสภาพความเป็นจริงที่ต้องจำยอมรับ
"เจ้าสองคนออกไปก่อน ข้ามีเรื่องต้องคุยกับนาง"
"เจ้าค่ะนายท่าน..." อลิสและอิลวาน้อมรับคำสั่งล่าถอยออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
"อะไรบางอย่างคงต้องการให้เราได้พบกัน..." เขากล่าวแต่ไม่อาจอ่านเกมส์กลนี้ได้กระจ่างเฉกเช่นที่กำลังอ่านใจอันหม่นหมองของโรเซียร์
"หากเจ้าสมัคใจเอ่ยปากบอกแก่ข้า...ข้าอาจให้หนทางรอดแก่เจ้า ท่านหญิง"
"โรเซียร์ ข้าชื่อโรเซียร์" หล่อนแนะนำตัวเสียงแหบแผ่ว
"เรียกข้าว่าลูฟ...โรเซียร์" สิ้นเสียงนั้นร่างใหญ่ก็หันและเดินกลับมานั่งใกล้ๆ หล่อนอีกครั้ง
"อย่าร้องไห้แม่สาวน้อย น้ำตา...ไม่เหมาะกับหญิงงามเช่นเจ้าสักนิด"
"ถ้าข้าเล่าให้ฟังท่านจะช่วยข้าจริงๆ หรือไม่ ข้าพอจะเดาออกหรือไม่...ก็คิดไปเองว่าท่านคือ คือ...บุคคลต้องห้าม"
"เจ้าช่างฉลาดนัก...ควรค่ากับความงามที่พระเจ้าประทานมาให้" เขาเอื้อมตัวขยับเข้าหาหล่อน ใช้มือปาดเช็ดน้ำตาที่ปริ่มเปร่ออาบชโลมแก้ม หล่อนชะงักชั่วอึดใจบังเกิดความกลัวเมื่อแจ้งใจว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้ซึ่งขึ้นชื่อในตำนานความเหี้ยมโหด
"ลูซิเฟอร์..."
"จริงๆ แล้วข้ามีชื่อเดียวว่าลูฟ เป็นชื่อที่ท่านแม่ตั้งให้ก่อนสิ้นใจ" ส่วนนามอื่นที่ถูกเรียกขานตัวเขาเองไม่เคยยินดี แต่ก็ทำได้แค่รับรู้
"อา...เป็นไปได้อย่างไร นี่ข้าอยู่ในปราสาทแบล็คเพิรล์อย่างนั้นเหรอ" ความเป็นจริงตื่นตาตื่นใจกว่าที่คิด แต่ตัดความน่าหวาดกลัวไปได้เลยครึ่งหนึ่ง ที่นี่เหมือนสรวงสวรรค์มากกว่าจะเป็นอเวจี
"โดยปกติ...มนุษย์ไม่เคยได้ล่วงล้ำเข้ามา แต่เจ้า...กลับมานอนอยู่ตรงเขตแดนของอานาจักรนี้"
"ข้าไม่รู้..."
"เจ้าหนีอะไรมาท่านหญิง...ข้ามองไม่เห็น..." เขาพูดในสิ่งที่หล่อนนึกกังขา แต่เลือกจะไม่ใส่ใจ
"พวกต้องการตัวข้า ตามล่าข้า...ทำทุกอย่างเพื่อจะให้ได้ตัวข้าไป ทำแม้กระทั่ง...ฆ่าทุกคนในบ้านเพราะพวกเขาต้องการปกป้อง"
"หึ...มนุษย์"
"ลูฟ...ท่าน ท่านจะกินข้าหรือเปล่า" แววตาตื่นตระหนกนั่นทำเอาบุรุษหนุ่มขบขัน หล่อนคงจะรอดมาถึงตอนนี้หรอกหากเขาจะทำอย่างนั้นจริงๆ
"ฮะๆๆๆ โรเซียร์เจ้าไม่ได้อยู่ในแพลนมื้อไหนๆ ของข้า เพราะข้าคิดว่าเจ้าไม่น่าจะอร่อยนัก" โรเซียร์กลืนน้ำลายลงคอ นั้นคือการตอบรับว่าคำเล่าลือเป็นจริง พวกพ่อมดแม่มดในดินแดนนี้ดื่มเลือดต่างน้ำ กินเนื้อมนุษย์ต่างอาหารหากพวกเขาพึงใจจะทำ
"แล้วไงต่อ" ลูฟกระตุ้นเมื่อหล่อนหยุดชะงัก กระพริบตามองเขาปริบๆ ราวกำลังชั่งใจ
"ถ้าข้าไม่กินเจ้า...หรือกินเจ้า เจ้าจะทำอย่างไรล่ะ"
"ถ้าท่านกินข้าเสียก็แล้วไป แต่ถ้าท่านไม่นึกหิวก็ให้ข้าอยู่ที่นี่ด้วยเถอะ" หล่อนเล็งเห็นถึงความปลอดภัยและอันตรายใหญ่หลวงในเวลาเดียวกัน แต่เมื่อไม่มีอะไรจะเสียการตัดสินใจครั้งนี้ย่อมหยั่งผลต่อชีวิตส่วนที่เหลือ
"แล้วข้า...จะได้อะไรตอบแทน..." ลูฟจ้องนัยน์ตาตื่นตระหนกนั้นด้วยความมากเล่ห์
"ทุกอย่างที่ท่านต้องการ ทุกอย่าง...ที่ตัวข้ามีและสามารถทำให้ท่านได้"
"ข้อเสนอน่าสนใจ..." และบางอย่างที่เขากำลังซึมซับจากความทรงจำของหล่อนทำให้หญิงสาวผู้นี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
"บิดาแห่งข้า..."
"ท่านรู้" เพียงเขาเอ่ยนาม โรเซียร์ก็จับต้นชนปลายได้ว่าลูฟหมายถึงผู้ได ก็ตำนานกล่าวขานมานานช้าเกี่ยวกับประวัติเขา หล่อนย่อมจดจำได้ดี
"เจ้า...เกี่ยวข้องอะไรกับองค์บิดาของข้าเช่นนั้นหรือ...โรเซียร์" ส่งที่เห็นมันเลือนลางและประติดประต่อไม่ง่ายนัก การคาดคั้นให้หล่อนพูดย่อมทันใจกว่า
"อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ท่านจะยินดีเมื่อได้รับรู้"
"ไม่มีอะไรในตัวเขาที่ข้าเคยยินดี"
"ก็ได้...พระราชาต้องการตัวข้าไปรับใช้" ถ้อยคำยังคงตะกุกตะกักไม่คงมั่น
"เขาจะเอาเจ้าเป็นเมียอีกคนเช่นนั้นรึ"
"ใช่...แต่ท่านพ่อกับท่านไม่ยอม พวกเรากำลังจะหนีไปยังอีกเมืองหนึ่งแต่ก็ถูกจับได้เสียก่อน พระองค์โกรธมากและสั่งฆ่าทุกคนในบ้านไม่เว้นแม้แต่สาวใช้หรือคนสวน จากนั้นก็จับตัวข้าเข้าวัง...พระชายาคาเทียน่าเป็นผู้ที่ช่วยให้ข้าหนีออกมา"
"เขาอายุมากแล้วสินะ แต่ยังรักษาความสารเลวได้ติดอันดับอยู่เสมอ" แววตาสีเขียวอมฟ้ากลายเป็นเขียวมรกตเข้มในชั่วพริบตาจนน่าตกใจ โรเซียร์หลบหน้า มันเร็วเกินไปสำหรับการปรับตัวกับที่นี่
"เจ้ามีเหตุผลที่ดีเยี่ยมรู้หรือเปล่าโรส..."
"โรส..."
"ใช่โรส...ดูเจ้าสิเหมือนกุหลาบแรกแย้มที่บุรุษไดได้ยลโฉมย่อมไม่อาจละสายตา มีบางเรื่องที่เจ้าไม่ได้บอกว่านอกจากบิดาแห่งข้าแล้ว เหล่าบุตรพ่อค้าเศรษฐีทั้งหลายก็หมายปองเจ้าอยู่เช่นกัน"
"มัน...เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและข้าก็คิดว่าไม่จำเป็น" หล่อนอธิบาย เริ่มหายใจไดสม่ำเสมอและหัวใจก็เต้นเป็นปกติมากขึ้น
"เป็นเกียติแก่ข้าอย่างยิ่ง...ท่านหญิง ที่ปราสาทของข้าได้รับรองสาวงามซึ่งบุรุษทั้งแผ่นดินต้องการและควานหาตัว พักผ่อนซะ...แล้วข้าจะให้เจ้าตอบแทนคุณงามความดีในครั้งนี้อย่างคุ้มค่าแน่นอน" เขาจับมือหล่อนดึงไปจูบประทับริมฝีปากบนฝ่ามือ แล้วก็ลุกเดินจากไป...
โรเซียร์หายใจด้วยความโล่งอกเมื่อประตูบานใหญ่ปิดลงและหล่อนได้อยู่ตามลำพังครั้งแรกหลังจากลืมตาตื่นจากอเวจีอันน่าหวาดกลัว
"น่าแปลกยิ่งนัก...ทำไมที่นี่ไม่น่ากลัวอย่างที่เล่าขานกันเลย แถมพวกเขาก็ไม่คิดจะกินข้าด้วย หรือมีเหตุผลอื่นถึงปล่อยให้ข้ามีชีวิตรอด แต่อะไรก็ช่างเถอะโรเซียร์ ทั้งแผ่นดินเลดินอยด์คงมีแค่ปราสาทนี้เท่านั้นที่ปลอดภัยสำหรับเจ้า"
