บท
ตั้งค่า

บทที่2.สองสาว

“ก็กลัวลูกสาวสุดที่รักหนีเที่ยวไง ” สิตางค์กระเซ้า

“แหม ฉันก็ไม่ได้หนีเที่ยวกลางคืนให้เสียหายสักหน่อย”

สิตางค์หัวเราะ เธอรู้หรอกน่าว่า วีรดาชอบเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติหรือไม่ก็ตลาดเก่าตามต่างจังหวัด วีรดาชอบถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ เพื่อนรักมีความชอบที่ชัดเจน ส่วนสิตางค์ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ เธอไม่รู้หรอกว่าชีวิตพอใจสิ่งใดกัน ที่เลือกเรียนวิศวกรรมเพราะเห็นว่าท้าทายดี สิตางค์เจอวีรดาครั้งแรกที่นั่น ในวันรายงานตัวคณะวิศวกรรมของมหาวิทยาลัยรัฐบาล ความที่ผู้หญิงในคณะมีน้อย ทั้งคู่จึงสนิทกันอย่างรวดเร็ว แล้วกลายเป็นรูมเมทในเวลาต่อมา ถึงแม้นิสัยหลายอย่างจะแตกต่างกันมาก

สิตางค์นิ่งเงียบ ติดจะมีโลกส่วนตัวสูง ไม่เหมือนสาวน้อยขี้เล่นอย่างวีรดา ทั้งที่ทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน มาจากครอบครัวที่อีกฝ่ายขาดพ่อ อีกฝ่ายขาดแม่ แต่ดูเหมือนฝ่ายที่ขาดพ่อจะดูช่างคิดมากกว่า เธอจึงดูเคร่งขรึมเกินวัยนัก

“ฉันน่ะ อิจฉาแกชะมัดเลยตัง แกมีแม่ที่สวยแล้วก็ยังทำอาหารอร่อยสุดยอด แถมใจดี”

วีรดาเอ่ยชม เมื่อมาเที่ยวบ้านสิตางค์ ช่วงปิดเทอมใหญ่ เช่นเดียวกับที่สิตางค์อิจฉาวีรดาที่มีพ่อคอยดูแลประคบประหงม เธอชอบแอบมองสองพ่อลูกเล่นหรือหยอกล้อกัน

ภาพเหล่านั้น ไม่เคยมีในความทรงจำของเธอ

ภาพสุดท้ายที่เหลืออยู่ เป็นภาพที่พ่อของสิตางค์มาหาแม่ในวันก่อนย้ายบ้าน เธอได้ยินเสียงคนทั้งคู่ทะเลาะกันดังลั่น สิตางค์แอบเอาหมอนปิดปากตัวเองร่ำไห้ กลัวว่าเสียงสะอื้นจะลอดออกไป กระทั่งทุกอย่างเงียบสงบ จึงค่อยๆย่องออกไปดู แม่ของเธอนั่งร้องไห้เงียบๆที่ข้างหน้าต่าง ส่วนพ่อกำลังใส่รองเท้าอยู่ตรงประตู ข้าวของของพ่อถูกโยนออกมากองนอกบ้าน

สิตางค์วิ่งไปหาพ่อ เธอกอดขาพ่อไว้เรียกร้องให้มาอยู่ด้วยกัน

“อย่าไปเลยนะคะ ตังรักพ่อ แม่ก็รอพ่อทุกวัน”

“ตัง” พ่อคุกเข่าลงข้างตัว แล้วโอบกอดเธอไว้ ภาพนั้นยิ่งทำให้แม่เบือนหน้าไปอีกทาง สะอื้นไห้จนตัวโยน

“หนูเป็นเด็กดี ดูแลแม่ด้วยนะลูก”

นั้นคือประโยคสุดท้ายระหว่างสิตางค์กับพ่อผู้ให้กำเนิด ก่อนที่แม่จะพาเธอย้ายมาอยู่กับยายที่หนองคาย

“ตัง แล้วนี่ตกลงแกไม่มีเพื่อนเก่าๆ ที่นั่นเลยเหรอ เผื่อจะมีคนพาเที่ยว”

วีรดาถามยังไม่ลืมเรื่องที่ตัวเองรู้มาว่า ที่นั่นมีตลาดเก่าหลายแห่ง มีวิวริมแม่น้ำสวยๆที่น่าถ่ายรูป ถ้าได้ไกด์ท้องถิ่นสักคนพาไปรู้จักทุกซอกทุกมุมก็น่าจะดีไม่น้อย ไหนๆก็หนีป๊ามาได้ตั้งไกลขนาดนี้ แถมยังได้ใช้ชีวิตอิสรเสรี สองคนกับเพื่อนรัก

“ว่าไง” วีรดาย้ำถาม

สิตางค์เอาแต่นิ่งเงียบ จากที่พูดน้อยอยู่แล้วคราวนี้ปิดปากสนิท

“นี่ แม่คุณ คิดว่าปฏิบัติธรรมอยู่หรือไง ปิดวาจาซะ” วีรดาค่อน

“คิดอะไรเพลินไปน่ะ”

สิตางค์ยิ้มเศร้า หันออกมองนอกกระจกรถที่บรรยากาศสองข้างทางเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าสลับผืนนา บ่งให้รู้ว่า เริ่มเข้าสู่บรรยากาศของต่างจังหวัด เธอเผลอไผลคิดไปถึงใครบางคน ที่เคยสนิทสนมเมื่อครั้งเยาว์วัย

มีสิแวนด้า...สิตางค์ตอบเพื่อนอยู่ในใจ....มีเพื่อนเก่าอยู่คนที่เป็นยิ่งกว่าเพื่อน คอยดูแลเธอตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตวัยเยาว์ที่นั่น ก่อนจะห่างหาย แล้วก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย

ทั้งที่เคย ‘สัญญา’

สิตางค์เฝ้ารอจดหมายตอบกลับจากพี่ชายคนดีของเธอ หลังจากเขียนไปบอกที่อยู่กับเขาเท่าที่เด็กประถมอย่างเธอจะทำได้หากก็เงียบหาย พี่ชายไม่เคยตอบกลับ

จากรอเป็นวัน ก็เลื่อนเป็นเดือน ที่สุดก็นานปี แล้วลับหายจาก

“ตื่นเต้นเหมือนกันนะ ไม่รู้จะเป็นไงบ้าง แกว่าไหม” วีรดาถาม

“หืม” สิตางค์พยักหน้าเนือยๆ

“แกนี่ ดีตรงนี้ล่ะ ฉันถึงคบ พูดน้อยดี ไม่ต้องแย่งฉันพูด” วีรดาบอกหน้าตาเฉย เหลือบเห็นป้ายบอกทางเข้าปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ ก่อนถึงตัวเมือง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel