บทที่1. เริ่มต้น
ทันทีที่รถยนต์เคลื่อนสู่ถนนสี่เลนชานเมือง ผ่านพ้นย่านจราจรติดขัดของเมืองหลวงมาได้แล้ว เด็กสาววัยต้นยี่สิบก็ใช้ฝ่าเท้าเหยียบคันเร่งลง
ฮอนด้าซีวิคสีดำสนิทรุ่นล่าสุดทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง จนเพื่อนสนิทที่นั่งข้างในฐานะผู้โดยสารร่วมร้องเสียงดังด้วยความตกใจ
“เร็วไปแล้ว แวนด้า แกทำอย่างกับเราไปปล้นธนาคารมายังงั้นล่ะ” เพื่อนสาวโวยวายก่อนขู่เสียงเข้ม “เบาได้แล้ว แวนด้า ไม่งั้นกลับ!”
นั่นล่ะ วีรดาจึงหันมาหัวเราะเบาๆ ก่อนยอมลดความเร็วลง
“แหม ยายตัง นานน้านนาน กว่าฉันจะมีโอกาสได้ออกเดินทางสู่ต่างจังหวัด โดยไม่มีใครคนใดคนหนึ่งที่เป็นบริวารของป๊าตามมาน่ะ ก็เลยดีใจเป็นพิเศษ”
สิตางค์ส่ายหัวไปมา ก่อนเตือน “มันอันตราย แวนด้า ยิ่งไม่มีคนของพ่อเธอมาด้วย ยิ่งต้องระวัง เกิดอะไรขึ้นจะเดือดร้อน”
“ย่ะ แม่แก่ บ่นเป็นหมีกินผึ้งไปได้” วีรดาค่อน “จะปล่อยให้หนูตัวนี้ร่าเริงได้ทำอะไรตามใจตัวบ้างเถอะนะ แมวไม่ได้ตามมาเฝ้าทั้งที”
สิตางค์ยิ้มอย่างเห็นใจเพื่อน เมื่อวีรดาถอนหายใจแรงๆ เธอเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนรักดี นานทีปีหนวีรดาจะได้มีอิสรเสรี ไม่ต้องอยู่ในกรอบเท่าเวลาอยู่กับครอบครัว ที่จริงวีรดาไม่ได้ถูกเลี้ยงมาอย่างเรียบร้อยเป็นกุลสตรีหรอก แต่เธอเป็นลูกสาวคนเดียว จึงถูกถนอมยิ่งกว่าไข่ในหิน พ่อของเธอทำธุรกิจกลางคืนหลายอย่างจนคล้ายเป็นผู้มีอิทธิพลกลายๆ ส่วนมารดาทิ้งไปตั้งแต่เธอแบเบาะ
“ช่วยหน่อยเถอะนะ” เพื่อนรักโอดครวญ “มีเธอคนเดียวเท่านั้นที่ป๊าไว้ใจ เธอเป็นเพื่อนคนเดียวที่เข้านอกออกในบ้านนี้ แล้วยังสามารถพาฉันไปไหนต่อไหนได้ โดยที่ป๊าไม่ห้าม”
ก่อนที่สิตางค์จะถูกมัดมือชก “ตังจะไปฝึกงานที่ราชบุรีด้วยกันนะป๊า”
แล้วพ่อของวีรดาก็ยอม เพราะสิตางค์เป็นเด็กเรียนดีเรียบร้อยไม่มีเรื่องเสื่อมเสีย แล้วยังเคยมาของานทำช่วงปิดเทอมเพื่อหาค่าเล่าเรียน พลอยทำให้ลูกสาวที่ไม่เคยคิดช่วยกิจการงานใดของเสี่ยดำรง อยากเรียนรู้งานไปพร้อมกันด้วย เมื่อลูกสาวยืนยัน สิตางค์จะไปฝึกงานที่
เดียวกับเธอ เขาจึงอนุญาต หนำซ้ำ ยังติดต่อเจ้าของโรงงานน้ำตาลที่ราชบุรี เพื่อนเก่าเสี่ยเพื่อฝากฝังให้เสร็จสรรพ
‘อะไรนะ! ทำไมต้องเป็นที่ราชบุรีด้วย’ สิตางค์คราง
“อ้าว ไม่ดีหรือ เห็นเธอเคยเล่าว่าเกิดที่นั่น ไม่อยากไปเที่ยวบ้านเกิดหรือไง” วีรดาถามด้วยความสงสัยที่เห็นเพื่อนทำหน้าอย่างกับถูกผีหลอก
“ก็ ก็ ใช่ แต่ก็ไม่ได้ไปนานแล้ว นานมาก” สิตางค์บอก
ที่นั่นเป็นบ้านเกิดของเธอก็จริง หากก็มีทั้งคนที่เธออยากเจอและไม่อยากเจอ แล้วอย่างหลังก็มีมากกว่า เธอไม่อยากเจอผู้ให้กำเนิด เพราะโกรธเคืองที่บิดาทอดทิ้งไม่เคยไปดูดำดูดี แม่ต้องเลี้ยงสิตางค์ด้วยความยากลำบาก หลังยายตายแล้วบ้านหลังนั้นตกเป็นของลุงกับครอบครัว มารดาจึงพาสิตางค์ออกมาอยู่ข้างนอก รับจ้างเป็นแม่ครัวในร้านอาหารริมโขง จนที่สุด แม่ก็พบแขกฝรั่งคนหนึ่งมาตามจีบอยู่นาน กว่าจะตกลงปลงใจและใช้ชีวิตใหม่กับชาวเยอรมันคนนั้น ตอนนี้จิตใสเปิดร้านอาหารเล็กๆอยู่กับพ่อเลี้ยงของสิตางค์ที่ย้ายมาอยู่เมืองไทย
“ไม่ได้ไปที่นั่นนานก็ควรจะไป เธอจะได้ไประลึกถึงความหลัง” วีรดาพูดแทงใจดำ เพราะไม่รู้ว่า เพื่อนสาวมีความหลังที่ไม่อยากจดจำ
สิตางค์ไม่เคยปริปากเล่า นอกจากเผลอพูดครั้งหนึ่งในวงสนทนาว่า เธอเกิดที่ราชบุรี แต่เมื่อใครถาม เธอก็อ้างว่า ย้ายมาอยู่หนองคายตั้งแต่เด็กจำเรื่องราวแต่หนหลังที่นั่นไม่ได้
“แล้วเรื่องที่พัก” สิตางค์ถามเสียงอ่อย เมื่อแน่ใจว่า ไม่มีทางเลือก เธอตกปากรับคำเพื่อนรักไปแล้วเรื่องฝึกงาน คงไม่โชคร้ายเจอคนที่ไม่อยากเจอหรอกนะ
“หืม เห็นว่ามีบ้านพักพวกวิศวกรว่างอยู่ จริงๆไม่อยากพักที่นั่นสักหน่อย ขอป๊าเช่าบ้านแต่ป๊าไม่ยอม ไม่รู้กลัวไรนัก” วีรดาบ่น
