ตอนที่ 1 เริ่มแผนการ
เวลา 05.00 น. ที่สนามบิน
ยังไม่ได้ทันจะก้าวลงจากรถ เสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้น ธีร์ธวัชรีบล้วงเข้าไปแล้วหยิบออกมา เวลาตี 5 แบบนี้ใครจะโทรมาหาเขาได้ นอกจากคนที่บอกให้เขามาสนามบินตอนตี 5
“แม่ตรงเวลามากเลยนะครับ” เสียงของคนครึ่งหลับครึ่งตื่นกรอกไปตามสาย
//แน่นอนสิ แม่ก็อยากจะรู้ว่าแกมาตามที่พูดไว้จริง ๆ หรือเปล่า แล้วนี่อยู่ไหนแล้ว//
เสียงผู้เป็นมารดาเอ่ยถามมาตามสาย ทำให้ธีร์ธวัชได้แต่ถอนหายใจออกมา
“อยู่สนามบินแล้วครับ กะว่าจะเปิดห้องนอนสักสองสามชั่วโมง ไว้เก้าโมงเช้าค่อยไปรอรับลูกรักของแม่” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน แต่ทางปลายสายนั้นกลับหัวเราะออกมาอย่างดีใจ
//ดีแล้ว รับน้องเสร็จก็พาไปคอนโดเลยนะ ดูแลน้องให้ดีล่ะ ช่วงนี้งานแม่ยุ่งมากคงไม่มีเวลาไปเยี่ยมน้องเท่าไหร่//
‘ข้ออ้างชัด ๆ’ ธีร์ธวัชได้แต่แอบบ่นในใจ อย่างแม่ของเขานี่เหรองานยุ่ง ทุกวันนี้ก็แทบจะนั่งนับเงินอย่างเดียว ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็มีลูกน้องพ่วงตำแหน่งเลขาคนสนิททำให้แทบทุกอย่างอยู่แล้ว
“เข้าใจแล้วครับแม่ ผมจะดูแลสายขิมของแม่อย่างดีเลยล่ะครับ เรียกได้ว่ายุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ไม่ให้อดอยากแม้แต่วินาทีเดียว” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเชื่อฟัง แต่ว่าริมฝีปากกำลังกระตุกยิ้มเมื่อนึกถึงแผนการที่ตัวเองกับเพื่อนได้วางแผนเอาไว้
จะดูแลอย่างดี ดีจนอยู่ไม่ได้เลยล่ะ
//ก็อย่าให้น้องโทรมาฟ้องแม่แล้วกันว่าแกดูแลน้องไม่ดี ไม่อย่างนั้น แกได้อดเงินมรดกจริง ๆ แน่//
พูดเพียงแค่นั้นคุณหญิงเธียรธาราก็วางสายใส่ทันที
ธีร์ธวัชถอนลมหายใจออกมาอีกครั้งก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงแบบเดิม ความจริงถ้าพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ ก็อยากจะถามเหมือนกันว่าเป็นมายังไงถึงได้มาจีบแม่ หรือว่าโดนผีผลักให้ตกกระไดพลอยโจน
เดินมาได้ไม่นานก็มาถึงโรงแรมที่จองเอาไว้เพื่อนอนพักรอเวลาจะไปรับสายขิม จ่ายเงินรับกุญแจเรียบร้อย ธีร์ธวัชก็รีบมายังห้องพักทันที
“โคตรง่วง” ผู้ชายตัวโตบ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม แต่ยังไม่ทันจะได้ปิดเปลือกตาลงเสียงข้อความโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าข้อความมาจากใคร เปลือกตาที่กำลังจะปิดก็เปิดขึ้นทันที
กิ๊บซี่: เมื่อคืนเสี่ยทิ้งกิ๊บซี่ไว้กลางทางนะคะ
“เสี่ยเปล่าทิ้งหนูนะ หนูก็เห็นว่าเสี่ยต้องคุยธุระกับแม่ เอาไว้คืนนี้เสี่ยเรียกมาหาใหม่นะ จะให้รางวัลเพิ่มเป็นสองรอบ ดีไหมเอ่ย”
นิ้วยาวรีบจิ้มข้อความตอบกลับไปเพื่อง้อหญิงสาวที่ตัวเองดีลมาเมื่อคืน แต่ดันมาแจ๊กพอตตรงที่แม่เขามาหาเสียก่อน เลยไม่ได้ไปเล่นจ้ำจี้กันต่อ
กิ๊บซี่: ถ้าอย่างนั้นกิ๊บซี่จะรอนะคะ
อ่านข้อความสุดท้ายเสร็จธีร์ธวัชก็ไม่ตอบอะไรกลับไปอีก แต่ก่อนที่จะโยนโทรศัพท์ไว้บนเตียงเขาก็ไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกก่อน ไม่เช่นนั้นคงเป็นเรื่องใหญ่แน่หากนอนแล้วตื่นไม่ทันไปรับสายขิม
/////
เวลา 09.00 น. ที่สนามบิน
ชายหนุ่มเจ้าของส่วนสูงเกือบ 190 เซนติเมตร กำลังชะเง้อคอมองอยู่ตรงทางออกของช่องผู้โดยสารขาเข้า และยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาสลับไปมา
ไม่นานนัก หญิงสาวคนที่เขาต้องมารับก็เดินออกมา สายขิมในชุดเสื้อยืดพอดีตัวกับกางเกงขายาวที่แสนจะธรรมดา แต่ผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้าได้รูปรับกับดวงตาสวยคมมันทำให้ดูสวยจนสะดุดตา แต่อย่างว่า คนไม่ชอบมันก็คือไม่ชอบ (หรือเปล่า) ต่อให้สวยแค่ไหนก็ตาม
“สวัสดีค่ะเฮียธีร์” หญิงสาววัยยี่สิบสามปีมาหยุดยืนตรงหน้า เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อย่างที่เธอเคยทำ
“อืม...หวัดดี” ธีร์ธวัชตอบกลับด้วยเสียงห้วน ๆ นี่ก็เป็นหนึ่งในแผนการของเขา ก็คือไม่ต้องพูดดี ๆ กับเธอ
“ยังไงขิมก็ต้องรบกวนเฮียสักพักนะคะ จนกว่าคุณแม่จะเปลี่ยนใจค่ะ” สายขิมเอ่ยบอก เพราะการที่เธอต้องขึ้นมากรุงเทพฯ ในครั้งนี้มันเป็นความต้องการของคุณหญิงเธียรธารา จะขัดใจก็ไม่ได้เลยต้องตามน้ำไปก่อน แต่ว่าในใจลึก ๆ ก็รู้สึกดีใจมาก
“อยู่ไปตลอดชีวิตเลยก็ได้นะ ยังไงเธอก็เป็นลูกรักของแม่ฉันอยู่แล้วนี่”
คำพูดของผู้ชายตัวโตทำให้คนฟังตาลุกวาว สายขิมเขยิบตัวเข้าใกล้ แต่ด้วยความที่เธอสูงแค่ 160 เซนติเมตร เลยต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย
“เฮียธีร์พูดจริงเหรอคะ ขิมสามารถอยู่กับเฮียได้ตลอดชีวิตจริง ๆ เหรอ ไม่เปลี่ยนใจนะคะ”
สายตาคมหลุบมองผู้หญิงที่ตัวเตี้ยกว่าเกือบหนึ่งฟุต พร้อมกับพ่นลมหายใจใส่แรง ๆ อย่างนึกรำคาญ
“เธอไม่เข้าใจคำว่าประชดหรือไง”
“ไม่ค่ะ ขิมเป็นคนซื่อเฮียก็น่าจะรู้”
“หึ ซื่อบื้อน่ะสิ”
ประโยคสุดท้ายแม้ว่าเขาจะพูดออกมาเพียงเบา ๆ แต่หญิงสาวก็ได้ยินชัดเจนดี ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มกรุ้มกริ่ม ดูเหมือนว่าภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาคงจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ระดับสายขิมแล้วมีเหรอจะทำงานพลาด
ในเมื่อเธอรักเฮียธีร์มาตั้งแต่เด็ก ยังไงก็ต้องแต่งงานกับเขาให้ได้
“กลับกันเถอะเฮีย ขิมอยากนอนพัก” เสียงหวานพูดออดอ้อนแล้วช้อนสายตาขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้า
“มันต้องเป็นฉันหรือเปล่าที่ต้องบอกว่าอยากนอนพัก กว่าจะปิดร้าน กว่าจะกลับถึงคอนโด ยังไม่ทันได้นอนก็ต้องออกมาสนามบินเพื่อมารอรับเธอเนี่ย”
ได้ทีเขาก็บ่นออกมาเสียยาวเหยียด แต่แทนที่ยัยตัวแสบจะหยุดฟังกลับลากกระเป๋าใบใหญ่สองใบเดินนำหน้าไปแล้ว
“เหนื่อยก็เดินเร็วเข้าสิเฮีย จะได้รีบกลับไปนอน”
สายขิมพูดออกมาเพียงเท่านั้นแล้วก็หันกลับ ส่วนคนที่กำลังบ่นก็ได้แต่ก้าวเท้ายาว ๆ เดินตามไป แต่ปากก็ยังบ่นขมุบขมิบตลอดทางจนมาถึงรถที่จอดเอาไว้
“โห นี่เฮียเปลี่ยนรถคันใหม่อีกแล้วเหรอ ดีจัง ถ้าว่างเมื่อไหร่พาขิมไปเที่ยวรอบ ๆ กรุงเทพฯ หน่อยนะ”
“ฉันบอกเหรอว่าจะพาเธอไปเที่ยว แค่ให้มาอยู่ด้วยก็บุญแล้ว”
ดูเหมือนว่าสายขิมจะไม่ค่อยใส่ใจกับคำพูดของเขาเท่าไหร่นัก คนตัวเล็กรีบเปิดประตูแล้วยัดตัวเองเข้าไปนั่งยังตำแหน่งข้างคนขับอย่างไม่ต้องรอขออนุญาต
“แล้วที่คอนโดเฮียอยู่กับใครคะ มีเพื่อนมาอยู่ด้วยหรือเปล่าคะ” พอรถเริ่มแล่นออกจากที่จอด เสียงใส ๆ ก็เริ่มถามคำถาม
“อยากรู้ไปทำไม”
“ก็ถ้าเฮียอยู่กับเพื่อน ขิมก็จะได้ทำตัวถูกไง”
“ฉันไม่ได้อยู่กับเพื่อน แต่บางทีก็มีผู้หญิงมาอยู่ด้วยเป็นบางคืน วันไหนที่มาเธอก็อยู่แต่ในห้องก็พอ”
พอได้ยินคำตอบสายขิมก็เงียบไป ธีร์ธวัชหันไปมองก็เห็นว่ายัยต้วแสบนั่งเอามือจับคาง ทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง และเธอก็พูดออกมา
“ถ้าวันไหนมีผู้หญิงมาค้างกับเฮีย ขิมก็จะอยู่แต่ในห้องตามที่เฮียบอกค่ะ”
“ดี เข้าใจง่าย ๆ ก็ดี” คนตัวโตยิ้มกริ่มได้ใจ ที่ดูเหมือนเธอจะว่านอนสอนง่ายกว่าที่คิด
“แต่ว่า ขิมก็จะโทรรายงานคุณแม่ตามที่คุณแม่สั่งเอาไว้เหมือนกันค่ะ เฮียคงไม่ว่าอะไรนะคะ”
ใบหน้าหล่อเหลาหุบยิ้มอย่างรวดเร็วแล้วตวัดสายตามามองคนที่นั่งอยู่ข้างกันอย่างเอาเรื่อง
“เฮียอย่าทำหน้าดุใส่ขิมแบบนั้นสิ ขิมเชื่อฟังเฮียยอมทำตามที่เฮียบอก แต่ขิมก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งคุณแม่เหมือนกันนะคะ”
“เธอนี่มัน...” ธีร์ธวัชพูดออกมาเพียงเท่านั้นก็เงียบไป เธอช่างสมกับที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยแม่ของเขาจริง ๆ เจ้าเล่ห์ เจ้าแผนการ แต่ถึงยังไงเขาก็จะไม่ยอมแต่งงานกับเธอเด็ดขาด จะทำทุกวิถีทางให้สายขิมหนีกลับใต้ไปให้ได้
“ก็แล้วแต่เธอ ฉันไม่สนหรอกว่าจะฟ้องแม่ว่ายังไง”
“งั้นก็ดีลค่ะ เฮียอยากทำอะไรก็ทำเลย ส่วนขิมก็มีหน้าที่ของขิมที่ต้องทำเหมือนกัน”
‘แม่รู้ว่าขิมรักตาธีร์ และแม่ก็อยากได้ขิมเป็นสะใภ้แค่คนเดียว ทำยังไงก็ได้ให้ตาธีร์ตกหลุมรักเราจนโงหัวไม่ขึ้น’
นั่นคือคำสั่งก่อนที่เธอจะเดินทางมากรุงเทพฯ ในครั้งนี้ และแน่นอนว่าสายขิมนั้นเชื่อฟังและจะทำตามอย่างดีที่สุด ถึงจะรู้ดีว่าเฮียธีร์ไม่อยากแต่งก็ตาม
///////////////////////////////////////////////////////
