บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ทำกินเอง

“ไม่ได้มาตั้งนาน คอนโดเฮียธีร์ก็ยังน่าอยู่เหมือนเดิมเลยนะคะ” เสียงใสเอ่ยขึ้นเมื่อก้าวขาพ้นบานประตูเข้ามาในคอนโดของเขา ท่าทีของเธอดูตื่นเต้นดีใจ ซึ่งแตกต่างจากผู้เป็นเจ้าของที่นี่อย่างสิ้นเชิง

“อยากอยู่ก็อยู่ แต่ถ้าไม่อยากอยู่ก็รีบ ๆ กลับไปได้ทุกเมื่อตามที่เธอต้องการ” ธีร์ธวัชพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง จะว่าไล่ทางอ้อมมันก็ไม่ผิด

“ขิมคงต้องอยู่จนกว่าคุณแม่จะเปลี่ยนใจนั่นแหละค่ะ ยังไงเฮียก็อดทนหน่อยนะ แต่รับรองว่าขิมจะไม่ทำตัวเป็นภาระเฮียธีร์แน่นอน” สายขิมพูดขึ้นแล้วหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟา พร้อมกับใช้สายตามองไปรอบ ๆ แล้วเธอก็นึกอะไรบางอย่างออก

“เฮีย แล้วข้าวเที่ยงเราจะไปกินกันข้างนอกเหรอคะ”

“ฉันไม่กินข้าวเที่ยง อยากกินก็ทำกินเองหรือจะสั่งมากินก็แล้วแต่เธอ ฉันจะนอน ห้ามกวนเด็ดขาด”

พูดเพียงแค่นั้นผู้ชายตัวโตก็เดินหายเข้าไปในห้องนอนตัวเอง ทิ้งให้น้องสาวต่างสายเลือดที่เพิ่งมาถึงนั่งอยู่คนเดียว โดยที่ไม่ได้สนใจสักนิดเลยว่า สายขิมจะมีอะไรกินหรือในตู้เย็นมีวัตถุดิบให้ทำกับข้าวหรือเปล่า

สายขิมเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บยังห้องนอนของตัวเอง เธอเคยมาที่นี่หลายครั้ง จึงไม่ต้องรอให้ธีร์ธวัชมาคอยบอกว่าอะไรอยู่ตรงไหน หลังจากเก็บของทุกอย่างเรียบร้อยก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบาย ๆ ก่อนที่จะพาตัวเองไปนั่งในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง

ดวงตาคมสวยไล่มองเมนูอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในแอปฯ แต่ก็ไม่มีเมนูไหนถูกใจเลยสักอย่าง เธอชอบกินอาหารใต้มากที่สุด แต่ในกรุงเทพฯ ก็ค่อนข้างหาร้านที่ทำถูกปากได้ยากนอกเสียจากจะต้องลงมือทำเอง

‘ทำเอง’ คิดได้แบบนั้นแทนที่จะสั่งอาหารมากิน สายขิมก็เปลี่ยนเป็นกดสั่งวัตถุดิบในการทำกับข้าวแทน รออยู่ไม่นานเท่าไหร่ พนักงานส่งของก็โทรมาบอกว่าถึงแล้ว คนตัวเล็กรีบลงไปข้างล่างเพื่อเอาวัตถุดิบที่ตัวเองสั่งมา จากนั้นก็กลับขึ้นมาบนห้องแล้วลงมือทำกับข้าว

ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงกับข้าวทั้งสี่อย่างก็เสร็จเรียบร้อย คนตัวเล็กยืนมองเมนูอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความภูมิใจ แล้วก็เดินไปเคาะประตูห้องนอนของธีร์ธวัชที่ตอนนี้ยังคงนอนหลับอยู่ข้างใน

ยืนเคาะประตูอยู่หลายครั้ง แต่ว่าผู้เป็นเจ้าของห้องก็ยังไม่ยอมเปิดออกมาเสียที

“หลับลึกเหมือนกันแฮะ” สายขิมพึมพำกับตัวเอง แล้วก็ยังยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้องเช่นเดิม

“เธอจะเคาะอะไรหนักหนา ก็บอกแล้วว่าคนจะนอน” ผู้ชายตัวโตเปิดประตูออกมาก็โวยวายใส่ทันที แต่พูดได้ไม่กี่คำก็ต้องชะงักแล้วทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคย

“ขิมแค่จะมาปลุกเฮียไปกินข้าวด้วยกัน”

“ฉันไม่กิน” ธีร์ธวัชตอบกลับมาทันควัน แต่ก็ยังทำจมูกฟุดฟิดอยู่เหมือนเดิม

“เฮียธีร์จะไม่กินจริงเหรอ ขิมทำแต่ของชอบเฮียเลยนะ มีหมูผัดกะปิ ใบเหลียงผัดไข่ แกงไตปลาแล้วก็ไข่เจียว”

แค่ได้ยินชื่อเมนูอาหารก็ทำเอาคนที่บอกว่าไม่กินเมื่อครู่น้ำลายแทบไหลออกมา แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากอะไร ท้องเจ้ากรรมก็ดันร้องมาประท้วงว่าสิ่งที่พูดออกไปเมื่อครู่ไม่เป็นความจริงสักนิด

“โห เฮียหิวขนาดนี้ มา ๆ มากินก่อนแล้วค่อยนอน”

“ก็ได้ นี่ฉันเห็นแก่ที่เธออุตส่าห์ทำหรอกนะ ไม่อยากให้เสียน้ำใจ”

คนตัวเล็กได้แต่เอามือปิดปากแอบหัวเราะเบา ๆ อยู่คนเดียว ในขณะที่ธีร์ธวัชเดินนำหน้าเธอไปนั่งยังโต๊ะทานข้าวแล้วเรียบร้อย

ข้าวถูกตักใส่จานวางให้ตรงหน้าของเขาหนึ่งจานและของเธออีกหนึ่งจาน สายขิมหย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วมองดูคนที่บอกว่าไม่อยากกินกำลังตักอาหารเข้าปากไม่หยุด

“ฝีมือขิมยังอร่อยเหมือนเดิมไหมเฮีย”

“งั้น ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากเมื่อก่อน”

“ก็แสดงว่าอร่อย” พูดจบเธอก็ตักอาหารเข้าปากตัวเองหนึ่งคำ “เพราะเมื่อก่อนเฮียธีร์ชอบพูดว่าขิมทำกับข้าวอร่อยที่สุดในโลก”

ได้ยินคำพูดของยัยตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้าม มือที่กำลังถือช้อนก็ชะงักนิ่ง นั่นสินะ เมื่อก่อนเวลากลับไปเที่ยวที่บ้านสายขิมจะเป็นคนกับข้าวต้อนรับประจำ และเขาก็มักจะชมเธอบ่อย ๆ ทั้งที่ตอนนั้นก็สนิทกันมากแท้ ๆ ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ความสัมพันธ์มันเริ่มห่างออกมาเรื่อย ๆ

“เฮีย ทำไมนิ่งไปอะ อิ่มแล้วเหรอ” เมื่อเห็นคนตัวโตเอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมกินต่อ สายขิมเลยถามขึ้น แต่ธีร์ธวัชก็ไม่ตอบอะไรออกมา ทำเพียงรีบตักข้าวเข้าปากตัวเองต่อเร็ว ๆ

ใช้เวลาไม่นาน กับข้าวที่อยู่บนโต๊ะก็ถูกจัดการหมดเกลี้ยง เมื่อเงยมองนาฬิกาติดผนังก็เกือบบ่ายสามโมงแล้ว ธีร์ธวัชตัดสินใจอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะเข้าไปดูร้านของตัวเอง วันนี้ต้องเคลียร์บัญชีเข้าไปเร็วสักหน่อยน่าจะดีกว่า

ราว ๆ ครึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งก็เดินออกมาจากห้อง เขาที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนขึ้นจนถึงข้อศอกคู่กับกางเกงขายาวสีดำ ส่งผลให้หญิงสาวที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่นได้แต่มองตาค้าง

“เฮียจะไปร้านแล้วเหรอคะ เร็วจัง” สายขิมเอ่ยทักพร้อมกับพาตัวเองมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา

“อืม...ฉันมีงานมีการต้องทำ ไม่ได้ว่างมาขออาศัยคนอื่นอยู่เหมือนเธอ” ธีร์ธวัชตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้สนใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร แต่ก็ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะไม่ได้ใส่ใจคำพูอของเขาเท่าไหร่นัก

“วันหลังเฮียพาขิมไปเที่ยวที่ร้านบ้างสิ”

“ไหนบอกจะไม่ทำตัวเป็นภาระ”

ใบหน้าสวยยู่ลงเล็กน้อย ก่อนที่จะกลับมายิ้มแฉ่งภายในไม่กี่วินาที “ใครบอกว่าขิมจะไปเป็นภาระ ขิมไปช่วยเฮียทำงานได้นะ ขิมจบบัญชี อยู่ใต้ก็ช่วยคุณแม่ทำบัญชีตลอด ไม่เคยมีข้อผิดพลาดเลยด้วย”

ยัยตัวแสบได้ทีก็อวดอ้างสรรพคุณตัวเองใหญ่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้รู้สึกชื่นชมเลยแม้แต่นิดเดียว

“เธออยู่เฉย ๆ ไปเถอะ เดี๋ยวแม่จะมาว่าฉันใช้แรงงานเธออีก”

“ไม่ว่าหรอกค่ะ ก็คุณแม่บอกขิมเองว่าให้มาช่วยงานเฮีย เพื่อเรียนรู้หน้าที่การเป็นเมียที่ดี”

“สายขิม” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อคนที่กำลังพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ ดูเหมือนว่าน้องสาวต่างสายเลือดคนนี้รับมือไม่ง่ายอย่างที่คิด

“แต่ถ้าวันนี้เฮียธีร์ไม่อยากให้ขิมไป ขิมไม่ไปก็ได้ค่ะ แต่เฮียรีบกลับมาเร็ว ๆ นะ” เสียงใส ๆ ยังพูดจาไม่หยุดจนธีร์ธวัชได้แต่ส่ายศีรษะไปมา แล้วรีบเดินไปหยิบกุญแจรถของตัวเอง

“ระหว่างที่ฉันไม่อยู่อย่าสร้างปัญหา เข้าใจไหม”

“เข้าใจค่ะ ขิมจะอยู่รอเฮียกลับมานะคะ”

ลมหายใจของคนตัวโตถูกพ่นออกมาแรง ๆ ติดกัน อยากอยู่รอก็อยู่ไป เพราะยังไงเขาก็ไม่กลับมานอนที่คอนโดอยู่แล้ว คืนนี้มีนัดกับน้องกิ๊บซี่คนสวย แถมยังมีสัญญาเพิ่มรอบกันอีก เรื่องอะไรจะกลับมานอนคอนโดตัวเอง

/////

“เสี่ย วันนี้มาเร็วจังเลยครับ” เสียงของพนักงานที่กำลังจัดเตรียมของในร้านเอ่ยทักทาย เมื่อเห็นผู้เป็นเจ้านายมาถึงร้านตั้งแต่หัวค่ำ

“อืม...พอดีมีจะมาเคลียร์เอกสารน่ะ” ตอบเสร็จธีร์ธวัชก็รีบเดินขึ้นมาบนห้องวีไอพีส่วนตัวทันที ร่างสูงหย่อนนั่งลนโซฟาตัวโปรดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความ ไม่นานนักข้อความจากอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา

กิ๊บซี่: วันนี้เสี่ยมาเร็วจังเลยค่ะ รอกิ๊บซี่ไม่นานนะคะ ของแต่งตัวสวย ๆ ก่อน

ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นข้อความตอบกลับจากหญิงสาวที่เขาดีลเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ไหน ๆ เมื่อคืนก็อดแล้ว คืนนี้จะทบต้นทบดอกเอาให้คุ้มค่าเลยทีเดียว

เหล้ารสเยี่ยมถูกยกกระดกเข้าปากระหว่างรอเวลาให้คนที่นัดไว้มาหา เกือบชั่วโมง หญิงสาวในชุดสุดแสนเซ็กซี่ก็เปิดประตูห้องเข้ามา

“กิ๊บซี่คิดถึงเสี่ยจังเลยค่ะ” เสียงเล็กพูดจาออดอ้อนแล้วพาตัวเองมานั่งลงบนตักแกร่ง ซึ่งธีร์ธวัชก็อ้าวงแขนออกกว้างโอบรั้งเอวบางเข้ามาหาในทันที

“เสี่ยก็คิดถึงหนู” พูดเสร็จก็กดจมูกลงบนแก้มที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเอาไว้หนึ่งทีเพื่อเป็นการเอาใจ

“คืนนี้เสี่ยบอกแล้วนะคะว่าจะเพิ่มรอบให้กิ๊บซี่น่ะ เสี่ยห้ามผิดคำพูดนะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว เอาไว้คืนนี้เสี่ยกลับก่อนร้านปิดเป็นไง ดีไหม เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานขึ้นอีกหน่อย”

พอได้คำตอบที่ถูกใจ หญิงสาวก็ซบใบหน้าลงกับแผงอกกว้างอย่างออเซาะออดอ้อน มารยาหญิงพวกนี้ธีร์ธวัชล้วนผ่านมาหมดแล้ว แต่ว่าก็ไม่เสียหายอะไร มันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งให้ผู้หญิงเหล่านี้ดูน่ารักขึ้น

“ถ้าอย่างนั้น คืนนี้เสี่ยดื่มเยอะ ๆ เลยนะคะ จะให้คึกคักเป็นพิเศษไง” ระหว่างที่พูด กิ๊บซี่ก็รินเหล้าใส่แก้วพร้อมผสมสูตรลับเฉพาะตัวให้กับเขา

“เอาใจเก่งแบบนี้เดี๋ยวเสี่ยทิปไม่อั้น”

“เสี่ยน่ารักตลอดเลย”

หญิงสาวออดอ้อนออเซาะไม่หยุด เครื่องดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าถูกยกเข้าปาก ผ่านไปแล้วกว่าสามชั่วโมง ในขณะที่อารมณ์กำลังพุ่งขึ้นสองคนนัวเนียอยู่ในห้องวีไอพี เสียงโทรศัพท์ของธีร์ธวัชก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาซึ่งรายชื่อคนโทรเข้าคือสายขิม

“โทรมาทำไมวะ” เสียงบ่นดังออกมาด้วยความรำคาญ แต่ก็ยังจำเป็นต้องกดรับสายเธออยู่ดี “โทรมาทำไม ไม่รู้เหรอว่าฉันไม่ว่าง”

//ขิมขอโทษนะเฮีย แต่จู่ ๆ ไฟในคอนโดเฮียก็ดับหมดเลย ขิมไม่รู้จะทำยังไง เดินดูจนทั่วแล้วไม่ติดเลยสักดวง//

คำบอกของปลายสายทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ร้อยวันพันปีไฟที่คอนโดไม่เคยดับ แถมเขายังให้คนมาตรวจเช็กทุก ๆ สามเดือน ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มีอะไรเสียหรือพังแน่นอน แต่ทำไมมันดันมาดับวันนี้ได้

“แล้วเธอโทรมาบอกฉันทำไม ไฟดับก็รอให้ไฟมา ฉันไม่ใช่ช่างไฟ”

//แต่ขิมกลัวผีเฮียก็รู้ คอนโดเฮียมืดมากเลย ขิมกลัว//

เสียงของสายขิมขาด ๆ หาย ๆ เหมือนกับคนที่กำลังกลัวอะไรสักอย่างจนพูดติดขัด ทำให้คนฟ้งได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะคงทำอะไรไม่ได้นอกจาก...

“แค่นี้แหละเดี๋ยวฉันกลับไป” พูดเสร็จก็กดวางสายโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไรกลับมา

“อะไรกัน เสี่ยจะทิ้งกิ๊บซี่อีกแล้วเหรอคะ” คนที่นั่งอยู่บนตักตัดพ้อพร้อมกับทำหน้าเง้างอน

“เสี่ยขอโทษนะ พอดีน้องสาวมาอยู่ที่คอนโดน่ะ แล้วไฟดับไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ถ้าเกิดเสี่ยไม่กลับไปแล้วน้องสาวโทรไปฟ้องแม่ เสี่ยจะแย่เอา” ธีร์ธวัชรีบบอกเหตุผล

“ก็ได้ค่ะ แต่คราวหลังกิ๊บซี่ไม่ยอมแล้วนะคะ”

“เสี่ยสัญญาเลย คราวหลังจะไม่มีแบบนี้อีกแน่นอน”

เมื่อตกลงกันเสร็จ เขาก็หยิบเงินสดจำนวนหนึ่งให้กับหญิงสาวเป็นค่าเสียเวลา แต่ว่ามันก็มากเกินพอที่จะสร้างความพอใจให้คนรับ แล้วเธอก็กลับไป

“น่ารำคาญฉิบหาย แม่นะแม่ไม่รู้จะส่งมาให้เป็นภาระทำไม” คนตัวโตบ่นอยู่คนเดียวแล้วรีบเดินออกไปจากห้องวีไอพี

///////////////////////////////////////////////////////

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel