9
บทที่ 9 การพบกันที่แสนอบอุ่น
เสียงเคาะประตูที่แผ่วเบาแต่ก้องกังวานในความเงียบ ทำให้ทุกสรรพสิ่งรอบตัวหนิงชิงรั่วหยุดนิ่ง เธอแทบจะกลั้นหายใจรอ...
ไม่นานนัก ประตูไม้สีแดงก็แง้มออกอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ ใบหน้าที่ปรากฏขึ้นที่ช่องประตูคือใบหน้าของสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่ง แม้จะมีริ้วรอยแห่งวัยปรากฏอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจบดบังความงามสง่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ได้ ดวงตาของเธออ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความเมตตา เมื่อเห็นเด็กสาวที่ยืนอยู่หน้าประตู เธอก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"ชิงรั่วในที่สุดลูกก็มาแล้ว"
หนิงชิงรั่วจ้องมองใบหน้านั้นนิ่ง...ใบหน้าที่เธอเคยเห็นเพียงในฝันเลือนราง บัดนี้กลับปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน น้ำตาที่เธอพยายามกักเก็บไว้ตลอดทั้งวันพลันเอ่อล้นขึ้นมาจนขอบตาร้อนผ่าว
"คุณลุงพาหนูมาค่ะ" เธอพูดเสียงสั่นเครือ ตอนที่อยู่ในรถลุงคนนั้นเล่าเรื่องคราว ๆ ให้เธอฟังว่า เมื่อ 19 ปีก่อนลูกสาวของคนสกุลเสิ่นถูกขโมยตัวไป ชิงรั่วก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เหตุใดเธอถึงต้องไปอยู่ในสกุลหนิงได้
หญิงวัยกลางคนมองชิงรั่วแล้วเบิกตากว้าง มือของเธอสั่นเทาเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นมองสำรวจใบหน้าของหนิงชิงรั่วอย่างพินิจพิเคราะห์...ตั้งแต่ดวงตา จมูก ไปจนถึงริมฝีปาก
"ตอนนั้นหลังจากออกจากโรงพยาบาลพ่อกับแม่ตามหาหนูมาตลอดผู้ใดขโมยหนูไป จนกระทั่งทราบว่าเป็นคนสกุลหนิง พวกเราเลยได้แอบดูหนูอยู่ห่าง ๆ " น้ำเสียงของเธอสั่นเครือยิ่งกว่าเก่า
เพียงแค่คำเรียกขานนั้น กำแพงความเข้มแข็งทั้งหมดของหนิงชิงรั่วก็พังทลายลงมาอย่างสิ้นเชิง น้ำตาที่กักเก็บไว้ไหลทะลักออกมาเป็นสาย เธอพยักหน้ารับอย่างยากลำบาก
"โอ้...ลูกแม่!"
สิ้นคำนั้น มู่หว่านซิน...แม่ผู้ให้กำเนิดของเธอก็โผเข้ามากอดร่างของเธอไว้แน่น อ้อมกอดนั้นไม่ได้หอมฟุ้งไปด้วยน้ำหอมราคาแพงเหมือนของสวีลู่ แต่กลับมีกลิ่นแดดจางๆ และความอบอุ่นที่แทรกซึมเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ เป็นความอบอุ่นที่เธอโหยหามาตลอดสองชาติภพ
"ในที่สุด...ในที่สุดแม่ก็ได้เจอลูก" มู่หว่านซินร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร เธอลูบไล้ไปตามเส้นผมและแผ่นหลังของลูกสาวราวกับเป็นของล้ำค่าที่เพิ่งได้คืนมา
ขณะนั้นเอง ชายร่างสูงวัยกลางคนอีกคนก็เดินออกมาจากในบ้าน เขามีโครงหน้ารคมคายและดูภูมิฐานแม้จะสวมเพียงเสื้อเชิ้ตธรรมดา เมื่อเห็นภาพภรรยากำลังกอดเด็กสาวคนหนึ่งร้องไห้ เขาก็รีบสาวเท้าเข้ามาอย่างเป็นห่วง
"พ่อดูข่าวแล้ว ในที่สุดลูกก็มาหาพ่อกับแม่ พ่อไม่เข้าใจว่า ยัยแก่หนิงขโมยหนูไปทำไม ที่ผ่านมาพ่ออยากจะไปชิงหนูกลับมา แต่ทว่าพวกเรายังคงยากจนอีกทั้งกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของคุณปู่ พวกเราไม่สามารถไปรับหนูกลับมาได้"
มู่หว่านซินหันไปทั้งน้ำตา "ยัยแก่หนิงขโมยลูกเราไปเอาหลานสาวตัวเองไปให้คนอื่นเลี้ยงผ่านไป 19 ปีหลานสาวปรากฏตัวขึ้นมา คนสกุลหนิงต้องการอะไรกันแน่" ชิงรั่วตกใจไม่น้อยเช่นกันที่แท้เป็นเช่นนี้เอง เกรงว่าเรื่องนี้มีเพียงยัยแก่หนิงเท่านั้นที่รู้และหนิงเจิ้ง คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ สารเลวสิ้นดี
เสิ่นเทียนหลงมองไปยังเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของภรรยา ทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของหนิงชิงรั่วชัดๆ ร่างสูงใหญ่ของเขาก็แข็งทื่อไปชั่วขณะ ดวงตาที่เคยสุขุมเยือกเย็นพลันแดงก่ำขึ้นมาทันที
"ลูก...ลูกพ่อ..."
หนิงชิงรั่วมองใบหน้าของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ เขาก้าวเข้ามาหาอย่างเชื่องช้า มือใหญ่ที่หยาบกร้านเล็กน้อยจากการทำงานเอื้อมมาสัมผัสแก้มของเธออย่างแผ่วเบาและสั่นเทา ราวกับกลัวว่านี่จะเป็นเพียงภาพฝัน
"กลับมาแล้ว...ในที่สุดลูกก็กลับมาหาพ่อกับแม่แล้ว"
เสิ่นเทียนหลงดึงทั้งภรรยาและลูกสาวเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของเขา เกิดเป็นภาพครอบครัวที่พลัดพรากได้กลับมาพบกันอีกครั้งท่ามกลางลานบ้านเล็กๆ แห่งนี้
สำหรับหนิงชิงรั่ว นี่ไม่ใช่ฉากละครจอมปลอมเหมือนที่บ้านตระกูลหนิง เธอไม่ได้ยินเสียงความคิดที่เสแสร้งใดๆ มีเพียงเสียงสะอื้นแห่งความยินดีและความรักที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริงที่ดังสะท้อนอยู่ในหัวใจของเธอ
