5
บทที่ 5 วาจาเชือดเฉือน
เช้าวันรุ่งขึ้น หนิงชิงรั่วตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีอาการปวดหัวหรือความหนักอึ้งในใจเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมาในชาติก่อน การได้หลับอย่างเต็มตื่นโดยไม่มีฝันร้ายมารบกวน ทำให้จิตใจของเธอปลอดโปร่งและเฉียบคม
เธอเลือกชุดเดรสเรียบ ๆ สีขาวตัวหนึ่งจากเสื้อผ้าไม่กี่ชุดที่เธอเก็บไว้ในห้องพักแขก แล้วเดินลงไปยังห้องอาหารชั้นล่างอย่างสง่างาม
ภาพที่เธอเห็นคือสิ่งที่คาดเดาไว้ไม่ผิด ตระกูลหนิงทุกคนนั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ โดยมีหนิงเวยอันเป็นศูนย์กลาง
เธอกำลังป้อนผลไม้ให้สวีลู่อย่างเอาอกเอาใจ ขณะที่หนิงเจิ้งมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
เมื่อชิงรั่วปรากฏตัวขึ้น บรรยากาศที่เคยดูอบอุ่นก็เย็นเยียบลงถนัดตา ชายหนุ่มสองคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะและฝั่งตรงข้ามหันมามองเธอเป็นตาเดียว
คนแรกคือพี่ใหญ่ หนิงเจี๋ยน ประธานหนุ่มแห่งหนิงกรุ๊ป เขาสวมชุดสูทสั่งตัดเนี้ยบกริบแม้จะยังอยู่ในบ้าน ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉย แววตาคมกริบราวกับใบมีดที่ประเมินทุกสิ่งเป็นผลกำไรขาดทุน
อีกคนคือพี่รอง หนิงเจียง ดาราดังผู้มีแฟนคลับทั่วประเทศ เขากำลังไถหน้าจอโทรศัพท์ดูข่าวของตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาตามแบบฉบับไอดอลนั้นฉายแววหงุดหงิดรำคาญอย่างปิดไม่มิด
ทั้งสองคนเพิ่งกลับมาบ้านเมื่อเช้านี้หลังจากได้ยินข่าว และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเผชิญหน้ากับเธอหลังความจริงถูกเปิดโปง
"มาแล้วเหรอ ตัวปัญหา" หนิงเจี๋ยนเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อน เขาไม่ได้มองหน้าเธอ แต่สายตากลับจ้องไปที่แท็บเล็ตซึ่งแสดงกราฟหุ้นสีแดงเถือก "เพราะเรื่องไร้สาระของเธอ ทำให้เมื่อวานหุ้นของบริษัทตกลงไป 0.5% รู้ไหมว่าเราเสียมูลค่าไปเท่าไหร่"
‘เรื่องวุ่นวายนี้ต้องรีบจัดการให้จบ ไม่อย่างนั้นอาจกระทบกับโปรเจกต์ใหม่ที่กำลังจะเซ็นสัญญาได้ นังนี่เป็นตัวปัญหาจริงๆ’ เสียงความคิดอันเย็นชาของเขาดังเข้ามาในหัวชิงรั่ว
หนิงเจียงเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมาเสริมทัพ "ไม่ใช่แค่เรื่องหุ้นหรอกนะ ยังมีนักข่าวมาป้วนเปี้ยนอยู่หน้าบริษัทอีก ผู้จัดการฉันโทรมาเตือนตั้งแต่เช้าว่าให้ฉันอยู่ห่างๆ เธอไว้ เดี๋ยวจะกระทบกับภาพลักษณ์ ถ้าฉันโดนยกเลิกสัญญาพรีเซนเตอร์ขึ้นมา เธอจะรับผิดชอบไหวเหรอ"
‘น่ารำคาญชะมัด ถ้ามีข่าวหลุดไปว่าตระกูลหนิงเลี้ยงลูกกาฝากมาตั้ง 19 ปี แฟนคลับจะคิดยังไง? ฉันเกลียดยัยนี่จริงๆ’
หนิงชิงรั่วฟังคำกล่าวหาทั้งหมดอย่างสงบ เธอเดินไปรินนมใส่แก้วอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับพี่ชายทั้งสองที่เธอเคยเคารพรัก
"เรื่องหุ้นตก..." เธอเริ่มพูดช้าๆ พลางจ้องไปที่หนิงเจี๋ยน
"หนูว่าคงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องในบ้านหรอกมั้งคะ บางทีอาจจะเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า 'หนิงกรุ๊ป' กำลังจะเสียสัญญาโปรเจกต์ใหญ่ทางภาคใต้ไปให้กับคู่แข่งมากกว่ามั้งคะ...พี่ใหญ่"
คำพูดของเธอทำให้หนิงเจี๋ยนที่กำลังจะยกกาแฟขึ้นจิบต้องชะงักค้าง เขามองเธอด้วยแววตาตกตะลึง เรื่องการแข่งขันโปรเจกต์ทางใต้เป็นความลับภายในของบริษัท มีเพียงผู้บริหารระดับสูงไม่กี่คนที่รู้...แล้วเธอรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
ชิงรั่วยังไม่หยุดแค่นั้น เธอหันไปยังหนิงเจียงที่กำลังอึ้งอยู่เช่นกัน พร้อมกับยกยิ้มบางๆ ที่มุมปาก
"ส่วนเรื่องภาพลักษณ์...พี่รองก็คงต้องระวังตัวหน่อยนะคะ โดยเฉพาะเวลาไปเดตลับๆ กับคุณ 'เสี่ยวเหยา' นางแบบคนนั้นบ่อยๆ นักข่าวสมัยนี้เก่งจะตาย เดี๋ยวจะกลายเป็นข่าวฉาวซ้ำซ้อนให้ตระกูลต้องปวดหัวนะคะ"
คราวนี้ไม่ใช่แค่หนิงเจี๋ยน แต่เป็นทุกคนบนโต๊ะอาหารที่เบิกตากว้าง โดยเฉพาะหนิงเจียงที่หน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้ม! เรื่องที่เขาแอบคบกับนางแบบเสี่ยวเหยานั้นเป็นความลับสุดยอดที่แม้แต่ผู้จัดการส่วนตัวก็ยังไม่รู้
"เธอ!!!" หนิงเจียงลุกพรวดขึ้น ชี้นิ้วมาที่เธออย่างพูดไม่ออก
"หนูอิ่มแล้ว ขอตัวนะคะ" หนิงชิงรั่วไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ซักไซ้ต่อ เธอวางแก้วนมที่ยังไม่ได้ดื่มลงบนโต๊ะ หมุนตัวเดินออกจากห้องอาหารไปอย่างใจเย็น
ทิ้งไว้เพียงสมาชิกตระกูลหนิงทั้งห้าที่นั่งตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาปเป็นหิน มองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยความสับสนและหวาดระแวง
นี่มันหนิงชิงรั่วที่พวกเขาเคยรู้จักจริงๆ หรือ? เด็กสาวที่เคยว่านอนสอนง่ายและเอาแต่ร้องไห้คนนั้นหายไปไหน?
